วันนั้นหมิ่นลู่ไม่ได้กลับบ้านทันทีแต่ยังพักอยู่ที่คอนโดฯ ของเฉิงอี้เหิงหนึ่งคืนเพื่อดูว่าเขาดูแลลู่จยายังไง เมื่อมั่นใจแล้วว่าเฉิงอี้เหิงดูแลลู่จยาได้เป็นอย่างดีเธอจึงกลับไปอย่างสบายใจ
ทว่าก่อนหมิ่นลู่จะกลับไปเธอก็ส่งบัตรใบหนึ่งให้เฉิงอี้เหิง “คุณหมอเฉิง ลู่จยาอาศัยอยู่ที่นี่คงรบกวนคุณไม่น้อย คงจะมีค่าใช้จ่ายเยอะแยะ ในบัตรนี้มีเงินอยู่นิดหน่อยคุณเอาไปใช้ได้เลยนะคะ ถือซะว่าเอาไว้ซื้อของบำรุงร่างกายให้ลู่จยาก็ได้ค่ะ”
ใจเฉิงอี้เหิงได้แต่คิดว่าเพื่อนของลู่จยานั้นก็ไม่ต่างจากลู่จยาเลย อะไรนิดอะไรหน่อยก็ชอบยื่นบัตรให้คนอื่น แต่เขาก็นึกถึงเมื่อก่อนที่ตัวเองก็เคยยื่นบัตรให้ลู่จยา หรือว่าเขาเองก็ได้อิทธิพลจากเธอมาด้วย
เขาไม่ได้รับบัตรของหมิ่นลู่มาแต่ยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างไร้เดียงสา “คุณหมิ่นครับ คุณเข้าใจผิดแล้วที่ผมรับคุณลู่มาดูแลไม่ใช่เพราะต้องการเงิน”
“งั้นเพราะอะไรล่ะ” หมิ่นลู่ถาม “ก่อนหน้านี้พวกคุณก็ไม่รู้จักกัน คนไข้ของคุณไม่ถึงพันคนแต่ก็ต้องมีสักห้าร้อยใช่ไหมคะ ฉันไม่เห็นคุณจะรับคนพวกนั้นมาอยู่ด้วยเลยนี่”
“เพราะคุณลู่พิเศษมากครับ” เฉิงอี้เหิงพูด
เมื่อได้ยินคำพูดนี้เข้าหมิ่นลู่ก็ยิ้มแล้วมองไปที่ลู่จยาอย่างมีเลศนัย ทำเอาลู่จยารู้สึกแปลกๆ เธอผลักหมิ่นลู่ “ลู่ลู่ไม่ต้องมองฉันแบบนี้เลย มองซะขนลุกไปหมด”
หลังจากทั้งสามคนออกไปรับประทานอาหารกลางวันจนเสร็จเรียบร้อย หมิ่นลู่ก็เตรียมตัวกลับบ้าน เฉิงอี้เหิงบอกว่าจะไปส่งเธอ แต่หมิ่นลู่ปฏิเสธ
หมิ่นลู่แอบดึงลู่จยาให้มายืนอยู่ข้างๆ “คุณหมอคนนี้นิสัยใช้ได้ เธอจับให้มั่นนะ”
ลู่จยาซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ ไม่แปลกใจสักนิดที่หมิ่นลู่จะมองเฉิงอี้เหิงใหม่ “ฉันบอกแล้ว คุณหมอเฉิงเป็นคนไม่เลวหรอกนะ”
“จยาจยา ดีแล้วที่เธอสามารถเดินออกมาจากตรงนั้นได้ ที่จริงฉันรู้สึกผิดมากๆ ตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือแต่ฉันกลับไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอ” เหมือนหมิ่นลู่จะคิดอะไรขึ้นมาได้จึงถอนหายใจ
ลู่จยารู้ดีว่าหมิ่นลู่หมายถึงอะไร การที่หมิ่นลู่ไม่รู้ว่าลู่จยาเกิดอุบัติเหตุนั้นอาจเป็นเพราะอย่างแรกคือเธออยู่ไกลถึงยุโรป แต่ในขณะนี้การสื่อสารได้พัฒนาไปไกลมาก ต่อให้มีมหาสมุทรขวางกั้นข่าวสารก็สามารถส่งไปถึงได้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเป็นเพราะหมิ่นลู่ไม่ได้ใส่ใจ หรือเธอไม่รู้จริงๆ ส่วนอีกเหตุผลก็คือหมิ่นลู่ไม่รู้ว่าลู่จยาบาดเจ็บหนักขนาดนี้จึงไม่สนใจ
พวกเธอสองคนทะเลาะกันก่อนที่หมิ่นลู่จะไปยุโรป สาเหตุไม่ใช่เพราะเว่ยอิ้งแต่เป็นเพราะผู้ชายที่ชื่อว่าโจวข่าย เมื่อก่อนนั้นสาเหตุการทะเลาะกันส่วนใหญ่มักมาจากเว่ยอิ้ง ทว่าตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีก่อนหลังลู่จยาตัดใจจากเว่ยอิ้งได้อย่างเด็ดขาดแล้ว สาเหตุของความขัดแย้งของทั้งคู่ก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องของโจวข่าย
ที่ผ่านมาหมิ่นลู่จะเป็นฝ่ายขอร้องให้ลู่จยาเลิกยึดติดกับเว่ยอิ้ง ทว่าตอนนี้สถานการณ์กลับพลิกผันเปลี่ยนเป็นลู่จยาขอร้องให้หมิ่นลู่เลิกยึดติดกับโจวข่ายแทน
ในเรื่องความรักนั้น หมิ่นลู่ดึงดันกว่าลู่จยามาก หมิ่นลู่ถึงขั้นตัดสินใจย้ายไปบินเส้นทางยุโรปแทนเพื่อที่จะได้แอบบินต่อไปหาโจวข่ายที่อเมริกา พอลู่จยารู้จึงต่อว่าหมิ่นลู่อย่างรุนแรง
หมิ่นลู่ที่โกรธจัดก็ตอบโต้กลับไป ‘เมื่อก่อนเรื่องของเธอกับเว่ยอิ้ง เธอคิดว่าตัวเองทำอะไรโง่ๆ ไว้น้อยนักรึไง กล้าดียังไงมาห้ามฉันทำเรื่องโง่ๆ ด้วย’
‘เรื่องของเธอเรียกว่าเรื่องโง่ๆ ซะที่ไหน แบบนี้เขาเรียกว่าโคตรงี่เง่าเลยต่างหาก ลืมไปแล้วเหรอว่าตอนที่เธอเรียนจบมหา’ลัยแล้วไปอเมริกามันทุลักทุเลขนาดแค่ไหน ตอนนี้ลืมบทเรียนนั้นไปแล้วหรือไง’
ถึงจะพูดขนาดนี้แต่หมิ่นลู่ก็ยังทิ้งลู่จยาบินไปยุโรป จากนั้นทั้งสองคนก็งอนกันมาตลอด และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย นี่เองที่เป็นสาเหตุทำให้หมิ่นลู่มาเยี่ยมเธอช้าไปมาก แต่พวกเธอก็เลือกมองข้ามความขัดแย้งก่อนหน้านี้ไปโดยไม่พูดถึงมันอีก ทั้งคู่ทำราวกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นมาก่อน และยังเป็นคู่ซี้ปึกกันเหมือนเดิม