ลู่จยาเกิดลังเลขึ้นมา เธอสงสัยว่าเหตุใดหมิ่นลู่จึงไม่คิดถึงความรู้สึกของเธอบ้างเลย นัดกินข้าวกันสามคนแบบนี้มันไม่น่ากระอักกระอ่วนใจเกินไปหน่อยเหรอ แต่พอทบทวนดูอีกที สุดท้ายเธอก็ตอบตกลง “งั้นก็ได้ นายส่งเวลากับสถานที่มาให้ฉันแล้วกัน”
“ได้”
“หมิ่นลู่บอกว่าตอนนี้เธออยู่กินกับคุณหมอใช่ไหม ชวนเขาไปด้วยสิ”
“อยู่กิน?” ลู่จยาอยากจะเคาะหัวหมิ่นลู่ให้แตกจริงๆ “หมิ่นลู่ใช้คำว่า ‘อยู่กิน’ งั้นเหรอ”
เฉิงอี้เหิงที่กำลังกินอาหารชะงักทันที เขามองไปที่ลู่จยา แต่ลู่จยาโบกมือไปมาบอกให้เขาไม่ต้องใส่ใจสิ่งที่เธอพูด เธอไม่อยากให้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนของเธอกับเฉิงอี้เหิงต้องถูกรบกวนไปมากกว่านี้จึงพยายามจะตัดบทให้เร็วที่สุด แต่ไม่คิดว่าเว่ยอิ้งจะไม่ยอมเลิกรา
“ก็ไม่ใช่อย่างนั้น” เว่ยอิ้งนึกไม่ออกว่าจะพูดยังไงดี “คือหมิ่นลู่บอกว่าเธอพักอยู่กับคุณหมอ ทีแรกฉันคิดว่าเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ กับเธอเท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะรุนแรงขนาดนี้ ตอนนี้เธอไม่มีบ้านให้อยู่ถ้าต้องการความช่วยเหลือต้องบอกนะ ฉันเองเห็นเธอมาตั้งแต่ยังเด็กเลยอยากดูแลเหมือนเธอน้องสาว อย่าให้เรื่องที่ผ่านมาทำให้พวกเราห่างเหินกันเลย ฉันไม่อยากให้เธอเข้าใจไปว่าฉันไม่สนใจเธอแล้ว ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ฉันก็ไม่ทอดทิ้งเธอหรอก”
ตอนแรกที่ลู่จยารับโทรศัพท์ของเว่ยอิ้งนั้นเธอมีแต่อารมณ์โกรธเคือง ช่วงที่คุยกันได้สักพักเธอก็แอบรู้สึกว่าคำพูดของเว่ยอิ้งออกจะเสแสร้งอยู่หน่อยๆ แต่พอได้ยินประโยคที่ว่า ‘ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ฉันก็ไม่ทอดทิ้งเธอหรอก’ ลู่จยารู้สึกขอบตาร้อนๆ ขึ้นมา
เธอยังมีความรู้สึกให้กับเว่ยอิ้ง
เขาคือดวงอาทิตย์ที่ดอกทานตะวันอย่างเธอแหงนหน้ามองมาตั้งแต่เด็ก เธอตัดใจไม่ได้ง่ายๆ จริงๆ
“ฉันรู้แล้ว แล้วค่อยนัดกันนะ” ลู่จยาตอบรับเสียงเรียบๆ แล้ววางสาย
“เป็นอะไรหรือเปล่า” เฉิงอี้เหิงถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลู่จยาดูแปลกๆ ไป
“ไม่มีอะไร แค่เพื่อนเก่าเชิญเราไปกินข้าวด้วยกันน่ะ หมิ่นลู่ก็ไปด้วย” ลู่จยาตอบ
“เมื่อไหร่ล่ะ”
“ช่วงสุดสัปดาห์”
“งั้นคงต้องดูอีกทีว่าตอนนั้นผมว่างหรือเปล่า”
“อืม”
หลังจากมื้อค่ำจบลงลู่จยากำลังจะลุกขึ้นช่วยเก็บโต๊ะ แต่ถูกเฉิงอี้เหิงห้ามเอาไว้ “ผมทำเอง คุณไปนั่งพักผ่อนเถอะ”
การพักผ่อนนอกจากเล่นอินเตอร์เน็ตแล้วก็คือการดูรายการต่างๆ ลู่จยาเปิดไอแพดขึ้นมาเพื่อเปิดดูการแข่งรถเอฟทรี* ชิงชนะเลิศของยุโรป ในระหว่างการแข่งขันมีฝนตกเล็กน้อยซึ่งถือเป็นการท้าทายความสามารถของนักแข่งอย่างมาก ดูแล้วน่าจะเป็นการแข่งขันที่ตื่นเต้น ทว่าเธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ลู่จยามัวแต่คิดถึงกระทู้ที่ยังไม่ถูกระงับ ซ้ำยังมีเรื่องเว่ยอิ้งโผล่มาอีก
ลู่จยาเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข่าวของเว่ยอิ้งที่เพิ่งกลับจากการแข่งขันในยุโรป แม้ว่าเขาจะได้ตำแหน่งในระดับโลกไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวที่ไม่เลวเลย และการกลับประเทศมาครั้งนี้ทำให้เว่ยอิ้งมีชื่อเสียงมากขึ้นกว่าเดิม ทางสโมสรโอ๋เขาจนเกือบจะลอยอยู่บนฟ้าแล้ว พอเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของเธอในตอนนี้เรียกได้ว่าต่างกันฟ้ากับเหวเลยทีเดียว
เมื่อก่อนสิ่งที่เธอต้องกังวลใจก็มีแค่เรื่องของการแข่งขันเท่านั้น ทว่าในตอนนี้เธอไม่ต้องเข้าแข่งขันอะไรแล้วแท้ๆ แต่ชีวิตกลับยังมีเรื่องมากมายให้ต้องจัดการ
ก่อนจะเข้านอนลู่จยาก็ห้ามใจไว้ไม่อยู่ เธอใช้อีกแอ็กเคาต์ของตัวเองเข้าไปเช็กในเวยป๋อ แอดมินของเวยป๋อยังไม่ได้ตอบกลับมาแถมกระทู้ของเธอถูกแชร์ไปเป็นหมื่นครั้งแล้วด้วย คนที่มาแสดงความคิดเห็นต่างกำลังพยายามสืบหาสถานะของเธอ และความคิดเห็นที่มีคนกดไลค์มากที่สุดคือ…
‘ต้องเป็นลู่จยาแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลย หลังเกิดอุบัติเหตุกับเธอได้ไม่นานก็มีกระทู้นี้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องโรงพยาบาลแค่ทุกคนไปถามนักข่าวที่เคยมาทำข่าวก็รู้แล้วไหมอ่ะ แต่ว่าฉันไม่แนะนำให้คุณไปสืบหาตัวหมอคนนั้นนะ เพราะยังไงหมอคนนั้นก็ไม่ใช่บุคคลสาธารณะ กระทู้นั่นแค่เรื่องที่เขียนขึ้นเอาสนุกเท่านั้นเอง ไม่จำเป็นต้องมาเอาจริงเอาจังเรื่องนี้หรอกน่า’