With Love
ทดลองอ่าน หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ บทที่ 4-บทที่ 5
เธอเข้าอินเตอร์เน็ตแล้วใช้คีย์เวิร์ดว่า ‘ว่างไม่มีอะไรทำ จะทำอะไรได้บ้าง’ เพื่อค้นหาคำแนะนำ หาอยู่นานก็เจอที่ชาวเน็ตผู้แสนฉลาดปราดเปรื่องให้คำแนะนำไว้ว่า
หนึ่ง อ่านหนังสือ ในหนังสือมีทองคำ ในหนังสือมีของล้ำค่า เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง
สอง ทำความสะอาดห้อง ถ้าไม่รู้จักทำความสะอาด แผ่นดินจะสะอาดได้อย่างไร ทำความสะอาดห้องให้สะอาดหมดจด จัดเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็จะรู้สึกสบายหูสบายตา
สาม เล่นเกม ในชีวิตจะต้องมีอะไรสักอย่างที่หลงใหล
สี่ ออกกำลังกายหรือลดความอ้วน ควบคุมตัวเอง วันละเวลาก็ไม่แย่สักเท่าไหร่
ลู่จยาพิจารณาตามสภาพร่างกายในตอนนี้ของตัวเองแล้ว ดูเหมือนจะมีเพียงข้อหนึ่งและข้อสามที่จะเป็นไปได้มากหน่อย แต่เธอไม่ชอบทำอะไรเหมือนคนทั่วไป เธอมีความสุขกับการท้าทายตัวเองจึงเลือกข้อที่สอง นั่นคือทำความสะอาดเก็บกวาดห้อง
ตัดสินใจแล้วลู่จยาก็พยุงตัวด้วยไม้ค้ำลากขาที่เพิ่งถอดเฝือกได้ไม่นานเดินไปเตรียมอุปกรณ์ เธอดึงแขนเสื้อขึ้นเตรียมจะทำความสะอาดคอนโดฯ ของเฉิงอี้เหิงครั้งใหญ่
เมื่อหยิบจัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเรียบร้อย เธอก็สวมถุงมือยาง หมวกคลุม และผ้ากันเปื้อน กำหมัดถูไปที่ฝ่ามือเตรียมตัวจะทำงานใหญ่
อย่างแรกเธอเตรียมน้ำสะอาดมาหนึ่งถังแล้วเทน้ำยาทำความสะอาดลงไปครึ่งขวด ตั้งใจจะทำความสะอาดชั้นวางเหล้าและชั้นวางหนังสือ รวมถึงตู้วางทีวีในคอนโดฯ ของเฉิงอี้เหิง สรุปง่ายๆ คือเธอจะเช็ดฝุ่นออกจากทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ลู่จยาลืมไปว่าตัวเองเคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก เธอถือถังน้ำที่มีฟองเต็มไปหมดเดินไปได้ครึ่งทางน้ำก็กระฉอกออกมาเล็กน้อย เธอไม่ทันระวังจึงเหยียบเข้าแล้วก็ลื่นไถลเพราะทรงตัวไม่อยู่ มือที่จับถังน้ำไว้ก็ต้องปล่อยออก ถังน้ำพลาสติกสีเหลืองอ่อนล้มคว่ำลงกับพื้น น้ำที่เป็นฟองฟอดไหลออกจากถังเจิ่งนองไปทั่วพื้นห้อง
ลู่จยามองพื้นที่เต็มไปด้วยฟองสีขาว แม้ใจจะร้องโอดครวญแต่เธอก็คิดหาวิธีจัดการได้ทันที ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ถูพื้นก่อนเลยแล้วกัน
ลู่จยาเดินกะโผลกกะเผลกไปที่ระเบียงเพื่อหยิบไม้ถูพื้น เธอพยายามใช้ไม้ค้ำพยุงตัวให้ยืนได้ด้วยความยากลำบากแล้วถูพื้นที่เต็มไปด้วยฟองหลายรอบจนหมดแรง เธอรู้สึกโชคดีอยู่บ้างที่พื้นคอนโดฯ ของเฉิงอี้เหิงไม่ได้เป็นพื้นไม้ ไม่อย่างนั้นโดนแช่น้ำแบบนี้มันคงต้องพองแน่ๆ
ทำความสะอาดพื้นที่เต็มไปด้วยฟองเรียบร้อยลู่จยาก็เหนื่อยจนปวดเอวปวดหลังไปหมด แต่ชั้นวางของต่างๆ ยังไม่ได้เริ่มเช็ดทำความสะอาดเธอจึงได้แต่เดินกลับไปที่ห้องน้ำเพื่อเติมน้ำมาอีกถังแล้วเทน้ำยาทำความสะอาดใส่เข้าไปเท่าๆ กัน
กว่าเธอจะถือถังน้ำเดินกลับเข้ามาที่ห้องรับแขกได้ก็ผ่านมายี่สิบนาทีแล้ว
โบราณว่าไว้ ‘ทำอะไรควรทำให้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก หากทิ้งไว้ยืดเยื้อก็ยากจะสำเร็จ’ ลู่จยาจึงใช้ความพยายามที่เหลืออยู่ก้มตัวลงไปบิดผ้าขี้ริ้ว
แล้วเธอก็ได้ยินเสียงดัง ‘กึก’
เอวเคล็ดแล้ว
เธอขยับตัวไม่ไหวแล้ว
ลู่จยาต้องพยุงตัวเองไปที่ชั้นวางเหล้าเพื่อพักอยู่ครู่หนึ่งถึงมีแรงยืดตัวขึ้นมาได้ ในตอนนี้เธอนั่งหมดสภาพอยู่บนโซฟา แต่พักอยู่นานมากก็ยังหอบไม่หยุด ต้องยอมรับเลยว่าตอนนี้สภาพร่างกายไม่เหมือนเก่า
เธอพักจนพอ และเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ตั้งใจจะทำนั้นยังไม่เสร็จจึงรีบลุกขึ้นไปยกถังน้ำพร้อมเรียกพลังเตรียมตัวมาทำความสะอาดต่อ
เธอนำผ้าขี้ริ้วชุบน้ำจนเปียก คราวนี้ก้าวแรกเป็นไปอย่างราบรื่นเธอสามารถทำความสะอาดชั้นที่สามซึ่งเป็นชั้นวางเหล้าได้อย่างหมดจด ลู่จยาเขยกตัวด้วยความตื่นเต้นและอยากจะลองทำต่ออีก เธอเตรียมตัวจะทำความสะอาดชั้นที่สูงขึ้น แต่เพราะยืนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมเธอจึงต้องขยับตัว พอขยับแล้วไม้ค้ำก็ขยับตามไปด้วย ทว่าเพราะออกแรงมากเกินไปไม้ค้ำจึงไปกระแทกโดนถังน้ำหกอีกครั้ง ส่วนเธอที่ยืนได้ไม่มั่นคงก็เลยลื่นไถลไปนั่งกองอยู่กลางแอ่งน้ำบนพื้นห้อง
ลู่จยาคิดจะลุกขึ้นแต่ขาทั้งสองข้างไม่มีแรงแล้ว พยายามลุกยังไงก็ไม่ไหว
เฉิงอี้เหิงเลิกงานกลับมาถึงคอนโดฯ ก็ได้เห็นสภาพที่อเนจอนาถของลู่จยา
เขารีบตรวจดูว่าลู่จยาบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า เมื่อแน่ใจว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากเขาก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เฉิงอี้เหิงดึงตัวเธอขึ้นมาจากพื้น แต่ดึงอยู่หลายครั้งถึงรู้ว่าเธอลุกขึ้นเองไม่ไหว เขาจึงได้แต่ก้มตัวลงแล้วอ้อมมือไปทางด้านหลังของลู่จยากอดเอวของเธอเอาไว้แล้วออกแรงอุ้มขึ้นมา
แผ่นหลังของลู่จยาเต็มไปด้วยฟองและเปียกชื้นไปหมด เธอกลัวว่าจะทำให้เฉิงอี้เหิงเปียกไปด้วยจึงพยายามขัดขืน “อย่านะ! ให้ฉันยืนขึ้นได้ก็พอ เดี๋ยวเสื้อผ้าคุณจะสกปรกไปด้วย”
“ไม่เป็นไร ยังไงผมก็ต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ดี” เฉิงอี้เหิงอุ้มลู่จยาเข้าไปในห้องน้ำแล้ววางเธอลงไปในอ่างอาบน้ำโดยไม่ได้ลังเล “คุณอาบน้ำก่อน เดี๋ยวผมไปหยิบเสื้อผ้ามาให้”
“เดี๋ยวก่อน!” ลู่จยาตะโกนเรียกเฉิงอี้เหิงไว้
เฉิงอี้เหิงหันกลับมาถาม “มีอะไร เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“เปล่า…เปล่า” ลู่จยาส่ายหน้าพรืด คำพูดซึ่งจ่ออยู่ที่ริมฝีปากเป็นอันต้องกลืนกลับลงไป
“มีอะไรก็พูดมาเถอะ ผมไม่หัวเราะคุณหรอก” เฉิงอี้เหิงบอก
“ฉัน…งี่เง่ามากเลยใช่ไหม” ลู่จยาลองถามออกไปพร้อมก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษด้วยนะ ที่ทำบ้านคุณเละเทะอย่างนี้ ฉันแค่อยากจะทำความสะอาดให้เรียบร้อยเท่านั้น…”
“ไม่เป็นไรหรอก” เฉิงอี้เหิงกระตุกยิ้มมุมปาก “คุณมีน้ำใจก็พอแล้ว แต่ว่าทุกคนบนโลกนี้ต่างก็มีความถนัดของตัวเอง เหมือนกับที่คุณมีความเชี่ยวชาญในการแข่งรถ ส่วนผมเป็นหมอก็มีความถนัดในการรักษาคนไข้ ทุกอาทิตย์จะมีพนักงานจากบริษัททำความสะอาดมาทำความสะอาดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นคุณไม่ต้องกังวลใจเรื่องนี้หรอก”