“ของสิ่งนี้เรียกแจกันงาช้างสองหูแกะสลักเป็นรูปหมู่เซียน”
“งาช้างแกะสลัก? ไม่ใช่หยกหรือ”
แจกันสองหูสีเหลืองเจือประกายสีขาวน้ำนมใบนี้แวววับเป็นเงาวาว ถืออยู่ในมือให้ความรู้สึกนวลเนียนเกลี้ยงเกลาแบบหยก
สี่จวี๋หัวเราะพรืดออกมา “เป็นงาช้างจริงเจ้าค่ะ เพียงแต่ผิวภายนอกได้รับการจัดการมาเป็นพิเศษ มองดูแล้วคล้ายหยก ไม่เพียงท่าน มีคนเข้าใจผิดอยู่เสมอ ตอนคุณชายสี่ยังอยู่ชอบงาช้างเป็นพิเศษ ที่วางอยู่บนนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นงาช้าง ท่านดูสิเจ้าคะ กระทั่งกรงนกหกเหลี่ยมที่ข้างหน้าต่างกรงนั้นก็ทำมาจากงาช้าง”
หลวนอวิ๋นชูมองตามนิ้วมือของสี่จวี๋ไปที่ข้างหน้าต่าง นกฮว่าเหมย สีน้ำตาลตัวหนึ่งกำลังส่งเสียงขับขานไพเราะชวนฟัง
ช่างสุรุ่ยสุร่ายเสียจริง กระทั่งเลี้ยงนกตัวหนึ่งก็ต้องใช้กรงนกมีราคาเช่นนี้ หลายวันมานี้นางมาเล่นกับนกฮว่าเหมยตัวนี้อยู่เสมอ กลับไม่เคยสังเกตว่ากรงนกถึงกับทำมาจากงาช้าง
หลวนอวิ๋นชูส่ายหน้า กรงขังหรูหรามีราคา แต่กลับปิดกั้นอิสรภาพ
“สะใภ้สี่ไม่เชื่อหรือ”
“แจกันนี้มีมูลค่าเป็นเงินมากน้อยเพียงใด”
ฝูหรงและสี่จวี๋ต่างงงงันแล้วสั่นศีรษะ พวกนางไม่รู้จริงๆ
ซิ่วเอ๋อร์พูดขึ้นเบาๆ “ถ้าสะใภ้สี่อยากทราบ บ่าวจะไปตรวจดูที่เรือนสะใภ้ใหญ่เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
“ไปตรวจดูที่เรือนพี่สะใภ้ใหญ่?”
ข้าวของของตนเองเหตุใดต้องไปตรวจดูที่เหยาหลัน หลวนอวิ๋นชูมองสาวใช้รุ่นเล็กหน้าตาหมดจดผู้นั้น
“สะใภ้สี่คงไม่รู้ว่าของล้ำค่าบนชั้นวางเหล่านี้ล้วนต้องจดบันทึกไว้ที่สะใภ้ใหญ่ มีกำหนดเวลาสับเปลี่ยนเจ้าค่ะ”
“ของในเรือนข้า เหตุใดต้องจดบันทึกไว้ที่พี่สะใภ้ใหญ่” หลวนอวิ๋นชูย่นคิ้วถาม หรือว่าสิทธิ์ในการใช้ของล้ำค่าเหล่านี้ไม่ใช่ของข้า
“ของเหล่านี้ล้วนเป็นของส่วนกลาง” ซิ่วเอ๋อร์รับแจกันสองหูรูปหมู่เซียนมา วางกลับเข้าที่เดิมอย่างระมัดระวัง “นายท่านกับนายหญิงใหญ่มอบสิ่งของให้อยู่เสมอ ปกติคุณชายสี่ใจกว้าง เห็นจนเบื่อแล้วก็จะยกให้คนอื่นง่ายๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกที่ปรึกษาที่เรือนซิงซู่ ของพวกนี้ก็ใช่เจ้าค่ะ คุณชายสี่เพียงต้องการความแปลกใหม่ เห็นเบื่อแล้วก็สับเปลี่ยนชุดใหม่ มีสะใภ้ใหญ่คอยดูแล คุณชายสี่ก็ส่งคืนเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ นอกจากเรือนสามที่บ่นว่าไม่พอใจ เรือนอื่นเพียงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น”
หลวนอวิ๋นชูรู้สึกผิดหวัง ไม่ต้องสงสัยข้าวของเหล่านี้ล้วนยืมมาวางเพื่อความสวยงามเท่านั้น นางไม่มีสิทธิ์ในการจัดการ
หลวนอวิ๋นชูไม่สนใจสิ่งของบนชั้นวางอีก หันไปหยอกล้อนกฮว่าเหมยแก้เบื่อ นกฮว่าเหมยตัวนี้ถูกขังอยู่ในกรง แต่เหตุใดจึงยังร่าเริงเช่นนี้
“ได้ยินว่าคุณชายสี่ชอบงาช้าง คุณชายเจียงจึงไปหากรงนกงาช้างหกเหลี่ยมกรงนี้มา เอามาให้เมื่อหนึ่งปีก่อน เพราะเลี้ยงนกไว้จึงเอาไว้ที่นี่เจ้าค่ะ” ซิ่วเอ๋อร์ยกอาหารนกกลับมาจานหนึ่ง “คุณชายสามอยากได้กรงนกนี้มาโดยตลอดเลยเจ้าค่ะ สุดท้ายคุณชายเจียงยังไปหาเตางาช้างที่ฝาปิดแกะลายเทาเที่ย ส่งมาให้คุณชายสี่อีกอย่างหนึ่ง”
สี่จวี๋ขมวดคิ้วแล้วบ่นว่าขึ้นมา
“คุณชายเจียงผู้นี้ความสามารถด้านอื่นไม่มี เพียงเชี่ยวชาญเรื่องใช้เล่ห์เหลี่ยมแสวงหาผลประโยชน์ คุณชายหลายท่านในจวนล้วนถูกเขาผูกมัดจิตใจ ไม่รู้มีเจตนาอะไร”
เพียงเชี่ยวชาญเรื่องใช้เล่ห์เหลี่ยมแสวงหาผลประโยชน์?