บทที่หก
“นายท่านกระหายอยากจะได้มาซึ่งผู้มีสติปัญญาความสามารถ แต่ยังคงมีพวกประจบสอพลอ อย่างเจียงเสียนคนประเภทนี้ยังคงหาทางให้จากไปเสียแต่โดยเร็วจะดีกว่า”
หลังจากให้เหยาหลันกับหลวนอวิ๋นชูออกไปแล้ว นายหญิงใหญ่ก็โบกมือให้บ่าวไพร่ทั้งหลายออกไป แล้วเอ่ยปากหว่านล้อม
ต่งกั๋วกงขมวดคิ้ว “เป็นสตรีจะไปเข้าใจอะไร”
“ข้าอะไรก็ไม่เข้าใจ และไม่กล้าขัดขวางนายท่านด้วย” นายหญิงใหญ่ขยับนั่งตัวตรง เสียงแหลมขึ้นมา “แต่ข้ายังมีดวงตาอยู่ นับแต่เจียงเสียนมาอยู่ในจวน เหรินเอ๋อร์ก็ขลุกอยู่กับเขาทั้งวัน อย่างอื่นไม่ได้เรียนรู้มา แต่กินดื่ม เล่นพนัน เที่ยวหอนางโลมล้วนเรียนรู้มาจนเชี่ยวชาญแล้ว รวมสวินเหลียนด้วยอีกคน ท่านไม่ได้ยินข้างนอกเรียกพวกเขาว่าอย่างไรหรือ” นางมองต่งกั๋วกงตรงๆ “สามเสเพลแห่งเมืองหลวนเฉิง”
ต่งกั๋วกงหันหน้าเข้าหาแสงตะวัน หรี่ตามองตุ๊กตาหยกเหลืองถือเครื่องดนตรี
“ท่านดูเหรินเอ๋อร์สิ กลายเป็นอะไรไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ข้าจับตาดูอย่างใกล้ชิด แม้แต่คนของข้าก็คิดจะแตะต้อง อ้ายเอ๋อร์ร่างยังไม่ทันเย็น เขาถึงกับคิดจะใช้กำลังข่มเหงอวิ๋นชูแล้ว อวิ๋นชูเป็นใคร เป็นน้องสะใภ้ของเขานะ!” นายหญิงใหญ่หน้าแดง หอบหายใจดัง “เรื่องนี้ถ้าแพร่งพรายออกไป จวนกั๋วกงจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด”
“นางก็ไม่ใช่ยังดีๆ อยู่หรือ”
“แต่นางสูญเสียความทรงจำแล้ว”
ร้องเสียงแหลมออกมาคำหนึ่ง นายหญิงใหญ่ก็รู้ว่าตนเสียกิริยาจึงผ่อนคลายน้ำเสียงลง
“สกุลของเรามีฐานะสูงส่ง มีซุ้มประตูสรรเสริญฝ่าบาทเคยตรัสไว้ ถ้าสกุลต่งมีหญิงม่ายครองพรหมจรรย์ครบหนึ่งร้อยคน ไม่เพียงจะสร้างซุ้มประตูสรรเสริญกิเลนห้าช่อง ยังจะเขียนป้ายทองด้วยลายพระหัตถ์อีกด้วย เจ้าบ้านฝ่ายหญิงจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งนายหญิงตราตั้งสืบต่อกันไปทุกรุ่น” นึกถึงต่งอ้ายที่เสียชีวิตแต่ยังเยาว์วัย แต่กลับได้เข้าไปฝังไว้ในสุสานบรรพบุรุษเป็นกรณีพิเศษ “ประมุขตระกูลคาดหวังว่าถ้าอวิ๋นชูสามารถสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้วงศ์สกุลและบรรพบุรุษ ช่วงชิงซุ้มประตูสรรเสริญครบหนึ่งร้อยคนมาได้ หลังจากตายแล้วก็เข้าฝังในสุสานบรรพบุรุษได้เช่นกัน” แล้วยกความผิดเป็นข้อๆ ขึ้นมากล่าว “เมื่อใดเรื่องที่เหรินเอ๋อร์คิดจะใช้กำลังข่มเหงอวิ๋นชูที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยนแพร่งพรายออกไป เขาถูกประมุขตระกูลลงโทษถึงตายไม่พูดถึง อ้ายเอ๋อร์จะต้องถูกขับออกจากสุสานบรรพบุรุษแน่นอน!”
ต่งกั๋วกงแอบทอดถอนใจทีหนึ่ง เรื่องแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่นายหญิงใหญ่ไหนเลยจะรู้ถึงความเป็นมาของเจียงเสียน
เจียงเสียน ชื่อรองเหิงจวิน เคยเป็นท่านโหวต่างสกุลเพียงหนึ่งเดียวของแคว้นหลี คนผู้นี้วรยุทธ์สูงส่ง มีความเชี่ยวชาญด้านการทหารและตำราพิชัยสงคราม เป็นผู้มีความสามารถยอดเยี่ยมแห่งยุค ฮ่องเต้แคว้นหลีเคยยกย่องว่าได้คนผู้นี้มาเพียงคนเดียวก็ทำให้ใต้หล้าสงบสุขได้ นับแต่เปิดเผยตัวออกมา เขาใช้เวลาเพียงห้าปีก็ช่วยฮ่องเต้แคว้นหลีที่ยังเยาว์วัยบริหารราชการ ยึดครองเผ่าซยงหนูทางตอนเหนือ ภายในปราบปรามพวกก่อกบฏจนราบคาบ สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับแคว้นหลี หลังจากนั้นเขายังได้นำเสนอแผนการใหญ่ ‘แผนการสร้างความสงบแก่บ้านเมือง’ และ ‘แผนการสร้างความมั่นคงให้บ้านเมือง’ ซึ่งเป็นข้อคิดเห็นที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกลและยอดเยี่ยมเลิศล้ำ
ถ้าไม่ใช่ตนใช้ไส้ศึกทำให้เจียงเสียนกับฮ่องเต้และขุนนางแตกคอกัน แล้วปล่อยให้เจียงเสียนช่วยฮ่องเต้แคว้นหลีบริหารราชการแผ่นดินต่อไป เพียงไม่กี่ปีใต้หล้านี้ย่อมตกเป็นของแคว้นหลีแต่เพียงผู้เดียว ถ้าไม่ใช่เจียงเสียนถูกลอบเล่นงาน เกรงว่าต่อให้ตนทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ ก็ยังเชิญเจียงเสียนมาไม่ได้!