นั่นเพราะเขาคร่ำครึ ไม่รู้จักหาคนกลางมาช่วยพูดแทน จะต้องเสี่ยงตายเข้ายื่นทัดทานต่อหน้าขุนนางทั้งหลายทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ทำให้ฝ่าบาทต้องเสื่อมเสียบารมี ต่งกั๋วกงรู้สึกว่าไม่มีค่าควรแก่การเอ่ยถึง
“นั่นเป็นเพราะถังเซียวไร้ความสามารถ ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง!” ต่งกั๋วกงผ่อนน้ำเสียงลงแล้วกล่าวต่อ “จากเรื่องนี้ทำให้เห็นว่านางมีอำนาจมากเพียงใดในหมู่ปัญญาชน” ต่งกั๋วกงทอดถอนใจ “โดยแก่นแท้แล้ว ราชสำนักเราแต่ละยุคที่ผ่านมาล้วนแต่บุ๋นควบคุมบู๊!”
ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากใช้อิสตรีเป็นเครื่องมือในการปีนป่ายขึ้นสู่ตำแหน่งสูงทางการเมือง
“นางก็เป็นหลานสาวของท่านเช่นกัน”
“รังคว่ำแล้วไซร้ ไข่ก็ย่อมแตกแคว้นหลวนสิ้นแผ่นดิน นางยังจะมีชีวิตอยู่เพียงคนเดียวได้หรือ”
นายหญิงใหญ่ร่างแข็งค้าง แคว้นหลวนด้านนอกมีช่องเขาปากมังกรที่ชัยภูมิเต็มไปด้วยอันตราย ด้านในมีแม่ทัพใหญ่ จะบอกสิ้นแผ่นดินก็สิ้นแผ่นดินได้อย่างไร
“นายท่านแสร้งพูดสั่นคลอนขวัญกำลังใจแล้ว”
“ฟูเหรินไม่รู้ แคว้นหลวนหลายชั่วคนมานี้ เพียงอาศัยช่องเขาปากมังกรบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำหลวนที่มีชัยภูมิเต็มไปด้วยอันตราย ไม่ใส่ใจเรื่องการเพาะปลูก ไม่จัดเตรียมกำลังรบให้พร้อมสรรพ ราชสำนักไม่ว่าเบื้องบนเบื้องล่างมีแต่ความสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย แคว้นหลวน…เหลือแต่เปลือกมานานแล้ว”
ต่งกั๋วกงสีหน้าเคร่งขรึม ถอนหายใจยาว ชั่วพริบตาเดียวคล้ายแก่ไปหลายปี
มองจอนผมสองข้างของสามีที่เริ่มมีสีขาวแซม ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจที่มีต่อบ้านเมืองและความไม่สมหวังทางการเมือง หัวใจของนายหญิงใหญ่อ่อนยวบลงหลายส่วน สีหน้าผ่อนคลายลงมา
เปรียบกับชื่อเสียงหลวนอวิ๋นชูแล้ว นางปรารถนาจะให้สามีได้กลับคืนราชสำนัก ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงอย่างรวดเร็วมากยิ่งกว่า
หลวนอวิ๋นชูไม่รู้ว่าต่งกั๋วกงเพียงคิดจะใช้นางเป็นเครื่องมือหมายดึงดูดผู้มีความรู้ความสามารถในแคว้นหลวนแม้แต่น้อย นางกำลังคิดแต่จะเข้าไปดูทะเลสาบลั่วเยี่ยนด้วยความมุ่งมั่นจดจ่อ
ฝูหรงเปิดประตูอย่างคล่องแคล่ว หลวนอวิ๋นชูกวาดตามองซุนหมัวมัวที่คุกเข่าอยู่กับพื้นใบหน้าซีดเผือดด้วยแววตาเยียบเย็นแวบหนึ่ง แล้วสาวเท้าออกจากประตูข้างฝั่งตะวันตกไป
“สะใภ้สี่ ออกมานานเพียงนี้ ต้องให้อาหารนกฮว่าเหมยแล้ว ให้บ่าวกลับไปดูนะเจ้าคะ”
สาวใช้เต็มเรือน นกตัวหนึ่งยังจะอดตายหรือ
มองสี่หลันที่แววตาเป็นประกายวิบวับ หลวนอวิ๋นชูก็โบกมือ “อย่าลืมเปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศ”
นางลงโทษซุนหมัวมัว แย่งเอากุญแจมา ไม่ช้าก็เร็วนายหญิงใหญ่ต้องรู้ ตอนนี้สี่หลันไปเสียก็ดี จะได้ไม่ต้องคอยตามติดอยู่ข้างหลังนางให้เกะกะลูกตา
“สะใภ้สี่…”
เพิ่งเดินได้สองก้าวซิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังก็ส่งเสียงเรียกอึกๆ อักๆ หลวนอวิ๋นชูหยุดชะงัก นางเป็นคนของใครอีก คิดจะทำตามอย่างสี่หลันที่ไปดูแลปรนนิบัติเอาอกเอาใจหรือ