หลวนอวิ๋นชูขมวดคิ้ว หมุนตัวมากลับเห็นใบหน้าซิ่วเอ๋อร์ซีดขาว หน้าผากมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ซึมออกมา นางอดตะลึงงันไปไม่ได้ เห็นชัดว่าไม่ได้เสแสร้งจึงพยักหน้าอนุญาต
เพียงมีผนังกำแพงกั้นขวาง เรือนลู่ย่วนกับทะเลสาบลั่วเยี่ยนกลับมีทัศนียภาพสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ด้านในกำแพงเป็นเรือนโบราณตามแบบฉบับ นอกกำแพงกลับเป็นโลกอีกใบหนึ่ง ถึงกับเป็นสิ่งปลูกสร้างในสวนอย่างเต็มรูปแบบ ศาลารับลมริมน้ำแทรกแซมไปด้วยบุปผาเลื่องชื่อหินงาม ระเบียงทางเดินคดเคี้ยววกวนอยู่เหนือทะเลสาบสีเขียวขจี เหมือนบ้านพักตากอากาศบนทะเลสาบ ภายใต้แสงอาทิตย์ร้อนแรงมีหมอกจางๆ ลอยวนอยู่ เมฆมงคลแผ่คลุมศาลารับลม หมอกบางปลิวปรายปกคลุมระเบียงวน…
สมแล้วที่เป็นจวนของกั๋วกง ถ้ามาอยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน เกรงว่าคงมีเพียงไม่กี่คนที่มีเงินมากพอจะทำเช่นนี้ได้ เดินเล่นไปตามระเบียงหินอ่อนที่เงียบสงบ หลวนอวิ๋นชูอดนึกชื่นชมในความหรูหราฟุ่มเฟือยของจวนกั๋วกงไม่ได้
“สะใภ้สี่ หอกวนซิงแห่งนี้ขึ้นไปไม่ได้”
“สะใภ้สี่ท่านช้าหน่อย บันไดนี้ชันยิ่ง เดินระวังด้วย”
“…”
“นายหญิงใหญ่ไม่อนุญาตให้สมาชิกในครอบครัวที่เป็นหญิงขึ้นไปบนหอกวนซิง ถ้ารู้ว่าท่านมาที่นี่ จะต้องถลกหนังบ่าวแน่”
เจ้าไม่พูด นายหญิงใหญ่ก็ไม่รู้!
ข้างหูมีเสียงแมลงวันบินดังหึ่งๆ จิตใจที่เบิกบานของหลวนอวิ๋นชูเลือนหายไปเกือบหมด นางไม่สนใจสี่จวี๋ ลงจากหอกวนซิงไปเงียบๆ แล้วเดินตามระเบียงไปที่ริมทะเลสาบ
“สะใภ้สี่!”
เห็นหลวนอวิ๋นชูเดินไปทางต้นอิ๋นซิ่งร้อยปีอีก สี่จวี๋ที่เพิ่งเงียบไปได้ไม่ถึงสองอึดใจก็โก่งคอร้องเรียกอีก เห็นนางหยุดลง สี่จวี๋ก็เช็ดๆ เหงื่อที่หน้าผาก
“สะใภ้สี่อย่าเดินไปข้างหน้าอีกเลย ครั้งก่อนท่านก็ตกน้ำไปจากตรงนั้น”
ข้าหาใช่เด็กน้อย ครั้งก่อนตกน้ำ ครั้งนี้ก็ต้องตกน้ำอีก ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสี่จวี๋พูดมากน่ารำคาญเช่นนี้ หลวนอวิ๋นชูมองนางด้วยแววตาเยียบเย็น
สี่จวี๋รู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อไม่หยุด “เที่ยวเล่นมาตลอดช่วงเช้าแล้ว สะใภ้สี่คงเหนื่อยเต็มที่”
“นั่นสิ ข้าคอแห้งแล้ว” หลวนอวิ๋นชูกล่าวยิ้มๆ “เจ้าไปหาน้ำชามาสักหน่อยเถอะ”
“เอ่อ…”
สี่ด้านไม่มีร้านค้าเช่นนี้ จะไปหาน้ำชามาจากไหนได้
กวาดสายตามองไปทั่วสี่ทิศ สี่จวี๋ลังเลเล็กน้อย เมื่อมองสบกับสายตาน่าเกรงขามของหลวนอวิ๋นชู เสียงนางพลันขาดห้วนหาย หันไปมองฝูหรงแวบหนึ่งอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ แล้วหมุนตัวรีบเร่งเดินไป
“สะใภ้สี่กระหายน้ำ ให้บ่าวไปก็ได้” มองตามแผ่นหลังสี่จวี๋ไป ฝูหรงเอ่ยเสียงเบา “จะอย่างไรนางก็เป็นคนของนายหญิงใหญ่ ท่านทำกับนางเช่นนี้ออกจะ…”
“บ่าวก็คือบ่าว เจ้านายปฏิบัติต่อนางเช่นไร นางไม่อาจบ่นว่า!”