“บรรจุศพตั้งแต่ตอนนี้ ใช่เร็วไปหน่อยหรือไม่”
คนพวกนี้ไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์ มองไม่ออกว่าซิ่วเอ๋อร์ถูกพิษ แต่ซิ่วเอ๋อร์ตายอย่างมีเลศนัย ย่อมต้องให้คนมาชันสูตรศพ สืบสาวราวเรื่องดู ไม่อาจเลอะๆ เลือนๆ เอาคนไปฝังเช่นนี้กระมัง
ไม่ว่าอย่างไรเรื่องก็เกี่ยวพันถึงชีวิตคน
อีกประการหนึ่งในสวนด้านหลังมีลุงใบ้ที่เป็นคนลึกลับ จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต เชี่ยวชาญการใช้พิษอยู่คนหนึ่ง ก็เหมือนมีระเบิดเวลาอยู่ลูกหนึ่ง ย่อมต้องหาโอกาสกำจัดไปเสียจึงจะสบายใจ
“นี่…นี่เป็นคำสั่งของสะใภ้ใหญ่เจ้าค่ะ”
คิดไม่ถึงว่าหลวนอวิ๋นชูจะคัดค้าน เฉียนหมัวมัวเงยหน้าเล็กน้อย ก็แค่สาวใช้ชีวิตต่ำต้อยคนหนึ่ง เรื่องมีเลศนัยในจวนมีออกมากมาย ดีไม่ดีจะกลายเป็นหาเรื่องใส่ตัว สะใภ้สี่ผู้นี้เยาว์วัยเกินไปแล้ว
“หรือไม่ ให้หลี่ว์หมัวมัวรอก่อน” ในน้ำเสียงปรึกษาหารือแฝงแรงกดดันที่ไม่อาจปฏิเสธได้ขุมหนึ่ง “พี่สะใภ้ใหญ่ให้ตามหมอมาแล้ว ก็ให้เขามาตรวจดูก่อน”
การตายของซิ่วเอ๋อร์ย่อมไม่อาจแล้วกันไปเช่นนี้!
เฉียนหมัวมัวเผยสีหน้าท่าทางแปลกใจออกมา
“โบราณพูดไว้ได้ดี หมอรักษาได้แต่โรคที่ไม่ถึงตาย คนก็ไม่มีลมหายใจแล้ว อย่าว่าแต่หมอ ต่อให้เป็นเทพเซียนมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ สะใภ้สี่ยังคง…”
หลวนอวิ๋นชูไม่พูดอีก หันไปทางสี่หลัน
เฉียนหมัวมัวบอกตอนซิ่วเอ๋อร์สิ้นลม สี่หลันกับสี่จวี๋ล้วนไม่อยู่ จะต้องไปที่เรือนอิ่นย่วนเป็นแน่ ไม่รู้นายหญิงใหญ่มีท่าทีอย่างไรกับเรื่องที่นางไปเที่ยวเล่นที่ทะลสาบลั่วเยี่ยน
“เฉียนหมัวมัวพูดถูกเจ้าค่ะ คนตายเป็นเรื่องใหญ่ ย่อมไม่อาจทิ้งไว้เช่นนี้”
เข้าใจว่าหลวนอวิ๋นชูถามความเห็นของตน สี่หลันจึงเตือนด้วยความปรารถนาดี
“เรื่องนี้…เรียนนายหญิงใหญ่แล้วหรือ นายหญิงใหญ่ว่าอย่างไร”
“บ่าวให้ชุ่ยเอ๋อร์ไปแล้ว ระหว่างทางเจอสะใภ้ใหญ่พอดี จึงสั่งให้ชุ่ยเอ๋อร์กลับมา บอกทางนายหญิงใหญ่นางจะเป็นคนไปบอกเอง”
“ไปตั้งแต่เมื่อไร” ฝูหรงมองกาน้ำหยด “เหตุใดยังไม่มีข่าว”
“เกรงว่านายหญิงใหญ่กำลังกินอาหารอยู่” สี่หลันคาดเดา “สะใภ้ใหญ่ยังไม่มีจังหวะบอกเรื่องนี้”
ชีวิตคนทั้งชีวิตยังสำคัญสู้อาหารมื้อหนึ่งไม่ได้!
ฟังคำพูดนี้แล้วหลวนอวิ๋นชูเลือดลมพลุ่งพล่าน สีหน้าหม่นขรึม
“จะอย่างไรก็เป็นบ่าวคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองกำลังคนทำอะไรให้วุ่นวาย สะใภ้ใหญ่แต่ไรมาคิดการรอบคอบ” เห็นหลวนอวิ๋นชูสีหน้าแปรเปลี่ยน กลัวนางจะบุ่มบ่ามพูดอะไรที่ไม่รักษาหน้าตาออกมา เฉียนหมัวมัวจึงชิงพูดขึ้นก่อน “ตามความเห็นของบ่าว ควรทำตามคำสั่งของสะใภ้ใหญ่ ทำความสะอาดร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ซิ่วเอ๋อร์ก่อน จากนั้นก็บรรจุศพลงโลง”
“ซิ่วเอ๋อร์ยังมีญาติคนอื่นอีกหรือไม่”
“อืม” เฉียนหมัวมัวหัวคิ้วขมวดมุ่น คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ยังมีน้าชายห่างๆ อีกคน อยู่หมู่บ้านเมิ่งจวงไม่ไกลจากตัวเมือง ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กัน ตอนบิดาของซิ่วเอ๋อร์ตายถึงได้รู้ว่านางยังมีญาติห่างๆ อยู่อีกครอบครัวหนึ่งเจ้าค่ะ”
“อ้อ…” หลวนอวิ๋นชูเงียบไปครู่หนึ่ง “เฉียนหมัวมัวส่งคนไปแจ้งข่าว งานศพมีคนในครอบครัวมาจัดการจึงจะเหมาะสม”