ความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากซับซ้อนในจวนแห่งนี้ทำให้คนปวดหัว ต่งอ้ายบุตรภรรยาเอกไม่อยู่แล้ว นางที่เป็นหญิงม่ายคนหนึ่งยังจะทำอะไรได้ ในเมื่อไม่ให้หมอมาตรวจดู เช่นนั้นก็ให้คนในครอบครัวซิ่วเอ๋อร์มาโวยวายแล้วกัน
“ที่สะใภ้สี่พูดก็ถูก” เฉียนหมัวมัวผงกศีรษะ ปรึกษาหารืออย่างระมัดระวังวาจา “หรือไม่ก็รอก่อน ดูว่านายหญิงใหญ่มีความเห็นเช่นไร”
ซิ่วเอ๋อร์ตายอย่างมีเลศนัย ชุ่ยเอ๋อร์ได้บอกเรื่องนี้ให้สะใภ้ใหญ่ทราบโดยละเอียดแล้ว อีกฝ่ายเพียงสั่งให้คนมาบรรจุศพลงโลง เห็นชัดว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องเกิดราว เวลานี้หลวนอวิ๋นชูจะส่งข่าวให้คนในครอบครัวของซิ่วเอ๋อร์และไม่ให้หลี่ว์หมัวมัวบรรจุศพลงโลง เกิดคนในครอบครัวซิ่วเอ๋อร์พบสิ่งผิดปกติแล้วซักไซ้ไล่เลียงขึ้นมา ทำให้จวนกั๋วกงต้องเสื่อมเสียเกียรติ ไม่รู้จะเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นอีกเท่าไร ต้องมีคนเดือดร้อนพัวพันอีกกี่คน…
คิดถึงเรื่องเหล่านี้ เฉียนหมัวมัวก็อดไม่ได้แอบบ่นว่าหลวนอวิ๋นชูอายุน้อย สายตาไม่ยาวไกล ถึงกับมองความเป็นไปของเรื่องราวและเส้นทางที่อยู่เบื้องหลังไม่ออก
หลวนอวิ๋นชูขมวดคิ้ว อากาศรอบด้านสงบนิ่งลงมาทันที แม้แต่ซวงเอ๋อร์ก็ลืมร้องไห้แล้วสงบจิตสงบใจมองหลวนอวิ๋นชู ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง
ขณะตกอยู่ในความเงียบสงบสาวใช้รุ่นเล็กก็มารายงาน “สี่จู๋มาแล้วเจ้าค่ะ”
สี่จวี๋และสี่หลันสีหน้าผ่อนคลายลง อ้าปากจะบอก ‘เชิญ’ กลับไม่กล้าพูดออกมา ได้แต่หันหน้าไปมองหลวนอวิ๋นชู
หลวนอวิ๋นชูเอ่ยขึ้น “ให้นางเข้ามา”
“เรียนสะใภ้สี่…” สี่จู๋ชะโงกหน้าไปมองบนเตียงอย่างค่อนข้างตื่นตระหนกแวบหนึ่ง “นายท่านฝากคำพูดมา ให้ท่านเลือกโลงที่ดีให้ซิ่วเอ๋อร์ บรรจุศพลงโลงเสีย แล้วค่อยแจ้งให้คนในครอบครัวมารับไป…เงินเบิกจากห้องบัญชีโดยตรงได้เลยเจ้าค่ะ”
“นายท่าน?”
เหตุใดต่งกั๋วกงจึงเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องของเรือนด้านหลังอีกแล้วเล่า นายหญิงใหญ่ทำอะไรอยู่ หลวนอวิ๋นชูคิดสงสัย
“ตอนสะใภ้ใหญ่แจ้งเรื่อง นายท่านก็อยู่ด้วยพอดีเจ้าค่ะ” สี่จู๋เองก็เข้าใจคำพูดที่หลวนอวิ๋นชูไม่ได้ถามออกมา “ได้ยินว่าซิ่วเอ๋อร์ไม่อยู่แล้ว นายท่านนึกถึงบิดาของนางที่เคยติดตามนายท่านอยู่หลายปี นายท่านนึกทอดถอนใจอยู่นาน”
สี่จวี๋ที่อยู่ด้านข้างก็ทอดถอนใจเอ่ยว่า “นายท่านเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือบ่าวไพร่เช่นนี้ ช่างใจกว้างมีเมตตา มีคุณธรรมน้ำใจ”
ต่งกั๋วกงผู้มีสง่าน่าเกรงขามวันๆ มีงานการต้องจัดการมากมาย เหตุใดจึงจดจำสาวใช้เล็กๆ ที่ไม่มีอะไรสะดุดตาคนหนึ่งได้ แม้แต่บิดาของนางก็จดจำได้อย่างแม่นยำเช่นนี้! ฟังคำยกย่องของสี่จวี๋แล้ว หลวนอวิ๋นชูพลันฉุกคิดขึ้นมา นึกถึงความสนิทสนมดุจพ่อลูกของซิ่วเอ๋อร์กับลุงใบ้ขึ้นมาทันที
ต่งกั๋วกง!
ประกายแสงสว่างวาบขึ้น หลวนอวิ๋นชูคิดออกในทันที ห่วงโซ่ตรงกลางที่ขาดหายไปน่าจะเป็นต่งกั๋วกง
สวนสมุนไพรต่งกั๋วกงเป็นคนควบคุมดูแลเอง นอกจากปกป้องเขาแล้ว ยังจะมีอะไรทำให้ลุงใบ้ทำเรื่องโหดเหี้ยมไร้เยื่อใยเช่นนี้ได้อีก!
ในสมัยโบราณเรื่องจงรักภักดีต่อผู้เป็นนายเช่นนี้มีให้เห็นบ่อยจนไม่ใช่เรื่องแปลก
ความรู้สึกท้อแท้เศร้าซึมจู่โจมเข้ามา หลวนอวิ๋นชูมองซิ่วเอ๋อร์ที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงอย่างซึมเซา ดูท่านางคงหมดหนทางจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ซิ่วเอ๋อร์ได้แล้ว…
“นายหญิงใหญ่กับสะใภ้ใหญ่ไม่มีใครมาหรือ”
เห็นหลวนอวิ๋นชูไม่พูด ฝูหรงจึงเอ่ยถามอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ จะอย่างไรก็มีคนตายทั้งคน หลวนอวิ๋นชูก็อายุยังน้อย นายหญิงใหญ่ย่อมต้องออกหน้าช่วยจัดการจึงจะถูก ถึงนับว่าช่วยรักษาหน้าให้นาง
“ตอนแรกนายหญิงใหญ่กับสะใภ้ใหญ่ตั้งใจว่ากินอาหารแล้วก็จะมา คิดไม่ถึงว่ายังกินอาหารไม่เสร็จก็ได้ยินว่าคุณชายสามถูกผีหลอกที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน จึงได้พากันไปที่เรือนคุณชายสาม” เห็นหลวนอวิ๋นชูมีสีหน้าอึดอัดกลัดกลุ้ม สี่จู๋ก็กล่าวเสริมขึ้น “จริงสิเจ้าคะ นายหญิงใหญ่ยังสั่งกำชับมาเป็นพิเศษ ให้สะใภ้สี่ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ ก็แค่สาวใช้หายไปคนหนึ่ง ไว้จะหาเพิ่มเติมมาให้ท่าน”
“อะไรนะ คุณชายสามถูกผีหลอกที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน สะใภ้สี่…”
สะใภ้สี่ไม่ใช่เพิ่งกลับจากทะเลสาบลั่วเยี่ยนหรือ เหตุใดจึงไม่ได้ยินเรื่องนี้