“บ่าวมีชีวิตอยู่มาถึงป่านนี้ ยังไม่เคยเห็นใครเจ็บปวดมากเพียงนี้มาก่อน” เฉียนหมัวมัวยกชายแขนเสื้อขึ้นเช็ดตา “ที่ห้องบ่าวมียางดอกอิงซู่ที่ใช้รักษาอาการปวดท้องอยู่บ้าง เดิมคิดจะเอามา แต่เห็นนางเป็นเช่นนี้ ไหนเลยจะกล้าใช้ส่งเดช…เห็นท่านกับสี่หลันสี่จวี๋ล้วนไม่อยู่ จึงตัดสินใจไปเรียนสะใภ้ใหญ่ นางสั่งให้ตามหมอแล้ว” รับกระดาษเงินกระดาษทองที่สาวใช้รุ่นเล็กเอาเข้ามาไปปิดหน้าให้ซิ่วเอ๋อร์ “เด็กสาวที่ดีคนหนึ่ง ใครจะคิดว่าอาภัพเช่นนี้ ตั้งแต่เล็กก็ไม่มีแม่ มีพ่ออยู่คนเดียว พ่อนางรับใช้อยู่ข้างกายนายท่าน ฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วจู่ๆ ก็โรคร้ายกำเริบตายไป เพิ่งจะผ่านมาได้ไม่กี่เดือน”
เฉียนหมัวมัวพูดพลางจับตัวเสื้อด้านหน้าขึ้นมาเช็ดตาแล้วพร่ำรำพันขึ้นมา “นี่เป็นเพราะชะตากรรม…ดีที่บ่าวไม่ได้เอายางดอกอิงซู่ให้นางกิน หาไม่คงยากจะอธิบายแล้ว”
อิงซู่ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อยาฝิ่น ใช้รักษาอาการปวดท้องได้จริง แต่จะถอนพิษหญ้าไส้ขาดได้อย่างไร
“บิดาของนางก็ตายเพราะโรคกำเริบฉับพลัน?” หลวนอวิ๋นชูไม่ชอบที่เฉียนหมัวมัวพูดพิรี้พิไรไม่จบไม่สิ้นจึงตัดบทนาง “เฉียนหมัวมัวเห็นตอนเขาตายหรือไม่ว่าเป็นอย่างไร” แล้วถามอีก “เหมือนซิ่วเอ๋อร์หรือไม่”
“เหมือนกับซิ่วเอ๋อร์เจ้าค่ะ สะใภ้สี่สงสัยว่านี่จะเป็นโรคที่สืบทอดทางสายเลือดหรือ” คำถามออกจะห่างจากประเด็นไปไกล เฉียนหมัวมัวงงงัน ผ่านไปพักใหญ่จึงได้สติ “คิดว่าคงเพราะสะใภ้สี่อายุยังน้อย ประสบการณ์ไม่มาก” เห็นหลวนอวิ๋นชูนิ่งเงียบไม่พูด จึงเข้าใจว่านางยอมรับแล้ว “ขอเพียงเป็นโรคร้ายพวกนี้ ล้วนเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ไม่เกี่ยวกับที่บิดาเคยเป็น”
“อาการของพวกเขาไม่เหมือนกันหรือ”
“ล้วนเป็นคนข้างกายนายท่านที่จัดการ นายท่านเองก็ไม่เห็น ได้ยินซิ่วเอ๋อร์บอกเพราะบิดาของนางทำงานไม่รอบคอบจึงถูกลงโทษ เพราะโทสะถึงทำให้ล้มป่วย เห็นว่าท้องร่วง ทั้งยังเวียนหัวคลื่นเหียน หมอบอกเป็นอาการของโรคที่เกิดจากความหนาวเย็น”
ท้องร่วง เวียนหัว คลื่นเหียน นี่ไม่ใช่พิษของหญ้าไส้ขาดแน่นอน ฟังคำพูดของเฉียนหมัวมัวแล้ว หลวนอวิ๋นชูแอบหัวเราะเยาะตนเอง ระแวงเกินไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าอะไรก็นึกสงสัยไปเสียหมด ดูจากซิ่วเอ๋อร์ พ่อของนางก็ต้องเป็นคนซื่อๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่คนสำคัญอะไร ใครจะไปคิดทำร้ายเขาเล่า
เพียงแต่ซิ่วเอ๋อร์เด็กสาวที่คล่องแคล่วน่ารักคนหนึ่ง ลำพังเมื่อเช้าเห็นนางอยู่ภายใต้แรงกดดันของสี่จวี๋สี่หลันก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้ตน ก็รู้แล้วว่านางไม่ใช่คนชอบเอาชนะชอบก่อเรื่องก่อราว เพราะผลประโยชน์ส่วนได้ส่วนเสียใดกันที่ทำให้นางต้องเอาชีวิตมาทิ้งเสียตั้งแต่อายุยังน้อย
พอหลวนอวิ๋นชูเห็นสี่หลันก็นึกถึงตอนอยู่ที่ประตูข้างฝั่งตะวันตก ช่วงที่ซิ่วเอ๋อร์ขอกลับมา ตนเองเป็นเพราะตื่นตัวระแวดระวังภัย ตอนหันไปมองนางครั้งนั้น เห็นนางใบหน้าซีดขาว หน้าผากมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ซึมออกมาก็ไม่ได้เอะใจ เพียงเข้าใจว่านางคงเหนื่อย ตอนนี้มาคิดดูในเวลานั้นซิ่วเอ๋อร์คงถูกพิษแล้ว และเริ่มจะออกฤทธิ์
ด้วยสภาพของซิ่วเอ๋อร์ในตอนนั้น นางต้องถูกพิษมาแล้วอย่างน้อยเกินครึ่งชั่วยาม พวกนางเดินเที่ยวเล่นอยู่ในสวนสมุนไพรเกือบหนึ่งชั่วยาม นั่นก็หมายความว่าซิ่วเอ๋อร์ถูกพิษตอนอยู่ในสวนสมุนไพร
สี่จวี๋สี่หลันไม่ได้เข้าสวนสมุนไพร ตอนนั้นมีเพียงนางกับฝูหรง…
ลุงใบ้!