มิน่าทุกคนต่างบอก จิตใจของพานหมิ่นมองครั้งเดียวก็เห็นทะลุปรุโปร่ง เป็นเช่นนั้นจริง รักเงินทองก็คือรักเงินทอง ไม่ปกปิดซุกซ่อน พูดจาที่ควรเหน็บแนมเจ็บแสบก็ยังคงเหน็บแนมเจ็บแสบ นับว่ามีความเปิดเผยจริงใจอยู่หลายส่วน
ในประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ที่อึมครึมน่าสะพรึงกลัวนี้ พานหมิ่นมีชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้ได้นับว่าไม่ง่ายเลยจริงๆ!
ไม่ได้เดือดดาลจนผมชี้ชันเช่นที่ทุกคนคาดคิด ฟังคำพูดเหล่านี้แล้ว หลวนอวิ๋นชูเพียงยิ้มน้อยๆ
“สายมากแล้ว เราไปกันเถิด”
“จริงสิ…” เห็นนางจะไป สี่จวี๋รีบเอ่ยถาม “อยู่ดีๆ สะใภ้สี่จะไปเรือนจัดการงานทำอะไรหรือเจ้าคะ”
“สะใภ้สี่จะไปเลือกสาวใช้”
ฝูหรงพูดพลางปล่อยม่านเกี้ยวลง
“เลือกสาวใช้?” สี่จวี๋ตะลึงงัน “หลี่มามาส่งคนมาแล้วหรือ”
“อืม” ฝูหรงพยักหน้า “ส่งมาแต่เช้าแล้ว”
“สะใภ้สี่” ลังเลอยู่ชั่วขณะสี่จวี๋เลิกม่านเกี้ยวขึ้น ยิ้มแย้มแล้วบอก “ตอนนี้ไม่มีงานอะไร หรือไม่ ให้บ่าวติดตามท่านไปด้วยกัน”
หลวนอวิ๋นชูไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด ก็เพราะไม่คิดจะให้สี่จวี๋ตามไปด้วย ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับยิ้มแย้มเข้ามาขอไปด้วย นางมีเจตนาจะปฏิเสธ แต่เมื่อสี่จวี๋กลับไปเจอกับสี่หลัน ข้อเท็จจริงในใจของนางก็จะปรากฏออกมาอย่างชัดแจ้ง ไม่ได้กลัวว่าสาวใช้สองคนจะมีอะไร ที่หลวนอวิ๋นชูใส่ใจคือนายหญิงใหญ่จะไม่พอใจในเรื่องนี้ เช่นนั้นก็ให้สี่จวี๋ไปด้วยแล้วกัน ช่างขัดกับความตั้งใจของนางเสียจริง
มองสีหน้ายิ้มแย้มของสี่จวี๋แล้ว หลวนอวิ๋นชูก็นึกถึงภาพวันก่อนที่เห็นอีกฝ่ายกับสี่หลันแอบส่งสายตาให้กันตอนอยู่ที่ลานด้านหลัง ในใจพลันเกิดความคิดจึงพยักหน้า
“อืม…ก็ดี ที่เรือนลู่ย่วนมีสี่หลันก็พอแล้ว เจ้าไปจะได้ช่วยข้าตัดสินใจ”
ทั้งสองคนต่างเป็นคนของนายหญิงใหญ่ แทนที่จะคอยเฝ้าระวังทั้งวันทั้งคืน ไม่สู้ยกคนหนึ่งกดคนหนึ่ง ให้พวกนางขัดแย้งภายในกันขึ้นมาเป็นอันดับแรก
ไม่ผิดจากที่คาด ดวงตาของสี่จวี๋เปล่งประกายระยิบระยับขึ้นมา กุลีกุจอปล่อยม่านเกี้ยวให้หลวนอวิ๋นชู
“ช้าก่อน”
“สะใภ้สี่ยังมีอะไรจะสั่งการหรือเจ้าคะ”
มือของสี่จวี๋ชะงักค้างอยู่กลางอากาศ
“จากตรงนี้ไปเรือนจัดการงาน” หลวนอวิ๋นชูมองไปที่จางหมัวมัว “ยังมีเส้นทางอื่นหรือไม่”
“จากตรงนี้ย้อนกลับไปไม่ไกลมีทางแยก ก็ไปได้เช่นกันเจ้าค่ะ” จางหมัวมัวชี้ไปข้างหลัง “เพียงแต่อ้อมสักหน่อย”
“อืม” หลวนอวิ๋นชูพยักหน้า “อ้อมกลับไปเถิด”
“สะใภ้สี่ นี่…”
“สะใภ้สี่ ท่าน…”
นี่ออกจะเสียศักดิ์ศรีเกินไปแล้ว ไม่ได้ทำเรื่องละอายใจอะไร เหตุใดต้องกลัวด้วย
เห็นหลวนอวิ๋นชูจะไปทางอ้อม ฝูหรงกับสี่จวี๋ต่างร้องขึ้นมาพร้อมกัน ไม่ว่าใครก็ปรารถนาจะติดตามเจ้านายที่มีอำนาจแข็งแกร่ง เดินถนนจะได้ยืดอกเชิดหน้าได้เต็มที่
“สะใภ้สี่ พวกเราไม่จำเป็นต้องอ้อมไป”
ฝูหรงใบหน้าแดงก่ำ สี่จวี๋ก็เอ่ยคล้อยตามอยู่ที่ด้านข้าง
“ใช่เจ้าค่ะ สะใภ้สามจะเข้าใจว่าพวกเรากลัวนาง”
“ไม่ใช่กลัว” ร่างเอนไปทางด้านหลัง หลวนอวิ๋นชูหลับตาลง “ข้าแค่ไม่อยากหาเรื่องยุ่งยาก”
พานหมิ่นความคิดเรียบง่าย ต่งเหรินกับนางนับเป็นคู่สร้างคู่สม ถึงกับไปเชิญเหยาหลันมา ไม่เกินสามวันเรือนชิ่นย่วนแห่งนี้ต้องจัดงานศพแล้ว
ครั้งนี้พานหมิ่นไม่อาจโยนความผิดมาให้นางอีก!