ตู้ถิงหลันไม่ตอบคำ เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่นางคิดไม่ตกที่สุดเช่นกัน
ลิ่นเฉิงโย่วมีใจชอบพอญาติผู้น้อง นางไม่มีทางมองผิดไปอย่างเด็ดขาด แต่ดูจากนิสัยเปิดเผยของลิ่นเฉิงโย่ว เขาชอบใครจะต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาแน่ ที่ผ่านมาเขาทำอะไรหลายอย่างเพื่อญาติผู้น้อง ทว่ากลับไม่ยอมบอกแม้แต่ความในใจของตนเอง การวางตัวเช่นนี้ทำให้คนรู้สึกสับสนโดยแท้ หรือว่าจะมีสิ่งใดแอบแฝงอยู่เบื้องหลังกัน
เถิงอวี้อี้เห็นญาติผู้พี่ไม่พูดไม่จา ก็เข้าใจว่าตนเองโน้มน้าวอีกฝ่ายได้สำเร็จแล้ว จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงศีรษะ กล่าวเสียงอู้อี้อยู่ในผ้าห่ม “พี่สาว เข้านอนเถอะ”
ตู้ถิงหลันกลับเอ่ยขึ้นอีกว่า “คืนวันนั้นในเทศกาลอวี้ฝอลิ่นเฉิงโย่วนัดเจ้าออกไปพบ หลังเจ้ากลับมาบนศีรษะก็มีปิ่นระย้าเพิ่มขึ้นมาคู่หนึ่ง ตอนนั้นเพราะเกิดเรื่องกับอู่เซียง พี่สาวจึงไม่มีกะจิตกะใจจะซักถามเจ้า ตอนนี้พี่สาวอยากถามเจ้าสักคำ ปิ่นระย้าคู่นั้นเป็นของขวัญที่ลิ่นเฉิงโย่วมอบให้เจ้ากระมัง ในเมื่อตอบตกลงช่วยเหลือเจ้าแล้ว มีความจำเป็นอันใดถึงส่งเครื่องประดับราคาสูงลิ่วเช่นนี้ให้อีก”
“ข้าบอกไปแต่แรกแล้วว่าเพื่อตอบแทนน้ำใจ เขาบอกว่าไม่เคยชินกับการรับของขวัญวันเกิดล้ำค่าเท่านี้ ปิ่นระย้าคู่นั้นจึงถือว่าเป็นของขวัญตอบแทน”
“อ้อ เพราะอย่างนั้นเจ้าถึงได้รับมา?”
เถิงอวี้อี้ฟังแล้วชักหมดความอดทน นางพลิกตัวหันหลังให้ญาติผู้พี่ “ข้าชอบแบบปิ่นระย้าชิ้นนั้นมาก มันไม่เหมาะสมนักหรือ ประเดี๋ยวข้าคืนเขาไปก็ได้”
ตู้ถิงหลันกลัวว่าญาติผู้น้องจะอึดอัดอยู่ในผ้าห่ม จึงพยายามดึงรั้งมุมผ้าห่มให้ศีรษะอีกฝ่ายโผล่ออกมา “เจ้ามาคุยกับพี่สาวดีๆ เจ้าก็สงสัยมาแต่แรกแล้วใช่หรือไม่ว่าลิ่นเฉิงโย่วชอบเจ้า”
เถิงอวี้อี้ทางหนึ่งห่อตนเองไว้มิดชิดยิ่งกว่าเดิม ทางหนึ่งแค่นเสียงขึ้นจมูกอยู่ในผ้าห่ม “เขาไม่เคยบอกว่าชอบข้า จะว่าไปบุรุษในโลกนี้ก็ไร้น้ำใจเหมือนกันหมด หากตอนนี้เขาชอบข้า แต่ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งอาจจะเปลี่ยนใจ หากเชื่อใจบุรุษเข้าแล้ว วันข้างหน้าคงได้เจ็บปวดร้าวราน ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าลิ่นเฉิงโย่วอาจรู้สึกชอบข้าเลย แม้เขาจะชอบข้าจริงๆ ข้าก็ไม่ยอมรับหรอก ข้าคิดเอาไว้นานแล้ว ตลอดชีวิตนี้จะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น”
มือของตู้ถิงหลันชะงักค้างอยู่กลางอากาศ เชิงเทียนเปลวไฟมอดดับไปแล้ว ท่ามกลางความมืดมองเห็นเพียงเค้าโครงเลือนราง ‘หนอนตัวยาว’ ตรงหน้านางยังขยับขยุกขยิกไปมา ทว่านางกลับไม่รู้จะตอบกลับไปเช่นไร
ตอนท่านน้าจากโลกนี้ไปแม้นางจะไม่ได้อยู่ข้างกาย แต่ก็เคยได้ยินรายละเอียดเหตุการณ์ในตอนนั้นมาบ้าง ท่านน้านอนป่วยอยู่บนเตียง แต่ท่านน้าเขยรีบร้อนคุ้มกันสตรีแซ่อูผู้หนึ่งจากไปด้วยตนเอง กว่าท่านน้าเขยจะเร่งรุดกลับมาถึง สองสามีภรรยาก็ไม่ทันได้พบหน้ากันครั้งสุดท้ายแล้ว
ญาติผู้น้องมีปมในใจที่ไม่มีวันคลายออกเพราะเรื่องนี้ หลายปีที่ผ่านมาจึงทำตัวเย็นชากับท่านน้าเขยมาตลอด
เมื่อรวมกับก่อนหน้านี้ที่เกิดเรื่องของต้วนหนิงหย่วน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ญาติผู้น้องล้มเลิกความคิดจะแต่งงานไปอย่างสิ้นเชิง
ตู้ถิงหลันลอบถอนหายใจพลางผลักหัวไหล่ญาติผู้น้องเบาๆ “เจ้าโผล่หน้าออกมาเถอะ พี่สาวไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว”
เถิงอวี้อี้อึดอัดเกือบทนไม่ไหวพอดี นางยอมโผล่หน้าออกมาตามที่ญาติผู้พี่บอก เพียงแต่ดวงตาสองข้างยังคงปิดสนิท ปากบ่นพึมพำว่า “ข้าหลับไปแล้ว”
ตู้ถิงหลันจ้องมองใบหน้าในความมืดที่เห็นไม่ชัดเจน รู้สึกว่าเรื่องราวซับซ้อนจนไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไร สุดท้ายทำได้เพียงตบผ้าห่มบอกญาติผู้น้องว่า “นอนเถอะๆ”
เมื่อมองดูการแสดงออกของญาติผู้น้องก็มิใช่ว่าจะไม่สนใจลิ่นเฉิงโย่วเลยเสียทีเดียว ลิ่นเฉิงโย่วจิตใจกว้างขวางเถรตรง เคยช่วยชีวิตญาติผู้น้องไม่รู้กี่ครั้งแล้ว คนทั้งสองผ่านเรื่องราวมาด้วยกันมากเพียงนี้ ใช่คนอย่างต้วนหนิงหย่วนผู้นั้นจะมาเทียบเคียงได้ที่ใดกัน ยิ่งใส่ใจมาก ท่าทีตอบสนองยิ่งชัดเจน ฉะนั้นญาติผู้น้องถึงได้รีบร้อนปฏิเสธ แล้วยังหยิบยกเหตุผลหลายต่อหลายอย่างว่าลิ่นเฉิงโย่วไม่มีทางชอบตนเองออกมาในคราวเดียว
ไหนจะปิ่นระย้าคู่นั้น ตั้งแต่เล็กมาญาติผู้น้องมีความรอบรู้ไม่ธรรมดา เปลี่ยนเป็นผู้อื่นมอบปิ่นระย้าคู่นั้นให้นาง คาดว่าคงคร้านจะชายตามองสักครั้งด้วยซ้ำ สาเหตุที่นางยอมรับไว้เช่นนี้เพียงเพราะผู้มอบของขวัญให้คือลิ่นเฉิงโย่ว
ทว่าญาติผู้น้องยังไม่ประสีประสาเรื่องระหว่างชายหญิง รวมทั้งยังมีปมในใจขมวดแน่นเหลือเกิน ต่อให้เข้าใจกระจ่างก็ไม่มีทางเปิดใจให้โดยง่าย
ตู้ถิงหลันกลัดกลุ้มกังวลใจ เรื่องทำนองนี้ไม่เปิดเผยก็แล้วไปเถิด ทันทีที่เปิดเผยออกมาจะต้องได้ข้อสรุปสักอย่าง ถึงเวลานั้นพวกเขาสองคนคงเข้าหน้ากันไม่ติดขึ้นมาบ้าง หากญาติผู้น้องของนางยังทำตัวจริงจังเกินกว่าเหตุ ไม่แน่อาจตัดขาดความสัมพันธ์กับลิ่นเฉิงโย่ว…
จากนั้นคิดถึงภาพเหตุการณ์ขณะพวกเขาอยู่ด้วยกันเมื่อครู่ ทั้งสองรู้ใจกันเป็นอย่างดี เวลาพูดคุยกันนั้นคนนอกหาจังหวะแทรกไม่ได้เลย
ช่างเถิด ถึงอย่างไรเรื่องเช่นนี้คนนอกก็ช่วยอะไรไม่ได้ ปล่อยให้พวกเขาไปทะเลาะกันเองแล้วกัน ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมา บางทีปมที่ว่านี้คงจะคลายออกไปได้