ยายเฒ่าหวังที่ ‘ขายโจ๊ก’ ผู้นี้ก็คือคนที่ในอดีตจิ้งเฉินซือไท่แนะนำให้อู่ฉี่รู้จัก ทว่าตอนนั้นยายเฒ่าหวังไม่ได้เร่ขายโจ๊กไปทั่ว แต่เรียกตนเองว่า ‘ยายเฒ่าหลิ่ว’ เปิดกิจการร้านขายขนมหูปิ่งอยู่ในตลาดตะวันตก
จิ้งเฉินซือไท่บอกกับอู่ฉี่ว่าตนเองไม่ค่อยอยู่ในฉางอัน หากมีเรื่องอะไรให้ไปหายายเฒ่าหวังได้เลย
ก่อนหน้านี้หลังจิ้งเฉินซือไท่รับโทษประหารตามกฎหมาย ยายเฒ่าหลิ่วกลัวว่าจะถูกราชสำนักตามตรวจสอบจึงไม่ได้ขายขนมหูปิ่งต่อไปอีก แต่แปลงโฉมเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนมาขายโจ๊กตามตรอกซอกซอยแทน
จากนั้นมาอู่ฉี่ก็ทำได้เพียงไปปรึกษายายเฒ่าหวังแล้ว
ยายเฒ่าหวังรู้ว่าอู่ฉี่อยากจัดการกับตู้ถิงหลัน ก็ส่งจดหมายไปบอกให้อู่ฉี่ขโมยของใช้ส่วนตัวชิ้นเล็กๆ ของตู้ถิงหลันมา ส่วนเรื่องที่เหลือมอบให้นางจัดการเอง รับรองว่าทำให้ชื่อเสียงตู้ถิงหลันด่างพร้อยได้แน่นอน
“เช่นนี้หมายความว่าคุณหนูรองของเจ้าไม่รู้ว่ากระดาษคัดบทกวีสองแผ่นนี้สุดท้ายจะถูกส่งไปอยู่ในมือหลูจ้าวอัน?”
เจี่ยวเอ๋อร์ตอบว่า “คุณหนูรองไม่เคยรู้จักคนผู้นี้มาก่อน วันนั้นคุณหนูรองขโมยกระดาษคัดบทกวีของคุณหนูตู้มาได้ก็สั่งข้าน้อยเอาไปส่งให้ยายเฒ่าหวัง ไม่นานยายเฒ่าหวังก็ตอบกลับมาว่าทางนี้เตรียมการพร้อมแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาลงมือหูตาผู้คนมากมาย อาจจะไม่เป็นไปตามแผน เพื่อป้องกันไม่ให้มีอะไรผิดพลาดจึงให้คุณหนูรองเตรียมการทำบางสิ่งด้วย ยามจำเป็นสามารถโยนเรื่องนี้ไปให้คุณหนูสกุลเผิงได้ ทั้งยังกำชับว่าคุณหนูรองต้องทำให้ไม่เหลือทิ้งร่องรอย”
พอได้ยินประโยคนี้เผิงฮวาเยวี่ยก็จดจ้องไปทางอู่ฉี่เขม็ง ส่วนแววตาเผิงจิ่นซิ่วก็มีความโกรธเกรี้ยวสุมอก
“เจ้ารู้เรื่องชัดเจนถึงเพียงนี้เชียวหรือ” ลิ่นเฉิงโย่วถามอย่างสนใจ “ต่อให้คุณหนูรองนายของเจ้าเชื่อใจ ยายเฒ่าหวังก็ไม่มีทางไม่ระวังตัว เจ้าเป็นเพียงคนช่วยส่งข่าว ไหนเลยจะรู้รายละเอียดพวกนี้ได้ นอกจาก…เจ้าเคยแอบอ่านจดหมายของพวกนาง”
เจี่ยวเอ๋อร์บีบนิ้วมือแน่นอย่างกระวนกระวาย
“เพราะเหตุใดถึงต้องแอบอ่านจดหมายของเจ้านาย” ลิ่นเฉิงโย่วซักถามอย่างกระตือรือร้น “เป็นเพราะรู้ว่าคุณหนูรองอู่วางแผนทำร้ายพี่สาวแท้ๆ เจ้าจึงหวาดกลัวขึ้นมาแล้วใช่หรือไม่ ก็จริงอยู่ แม้เจ้าจะรู้มานานแล้วว่าเจ้านายตนเองมือเท้าไม่สะอาด แต่เมื่อก่อนอย่างน้อยก็ไม่เคยวางแผนทำร้ายคนในครอบครัวตนเอง พอเหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไปเจ้าถึงได้พบว่าจิตใจคุณหนูรองของเจ้าสกปรกถึงขีดสุดไปแล้ว ต่อมาเวลาช่วยพวกนางส่งจดหมายจะแอบอ่านผ่านตาอย่างแนบเนียน สาเหตุที่เจ้าทำเช่นนี้เพียงเพราะไม่อยากตายโดยไม่รู้แน่ชัด คนที่แม้แต่พี่สาวของตนเองยังลงมือได้ สำหรับสาวใช้ข้างกายไม่มีทางปรานีอยู่แล้ว”
หัวไหล่เจี่ยวเอ๋อร์พลันกระตุก นางหมอบกราบจรดพื้นพลางสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“ข้าน้อย…หวาดกลัวมาก แต่…แต่ไม่ใช่เพราะเกิดเรื่องของคุณหนูใหญ่อย่างเดียว เป็นช่วงก่อนหน้านี้อีก หลังรู้ว่าการตายของหลี่อิงเอ๋อร์ในวัดฉู่กั๋วผู้นั้นเกี่ยวข้องกับพวกนาง ข้าน้อยก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นอีกเจ้าค่ะ”
“การตายของหลี่อิงเอ๋อร์?”
เจี่ยวเอ๋อร์พยักหน้า ช่วงนั้นเรื่องการยกเลิกงานแต่งของคุณหนูใหญ่อู่กับคุณชายใหญ่เจิ้งทำให้วันๆ อู่ฉี่หน้าตากลัดกลุ้มอมทุกข์ เดิมทีเจี่ยวเอ๋อร์นึกว่าคุณหนูรองเป็นเช่นนี้เพราะพี่สาวถูกทำร้าย ภายหลังถึงรู้ว่าในจวนกำลังปรึกษาว่าจะให้คุณหนูใหญ่ร่วมการคัดเลือกพระชายาองค์รัชทายาท ทว่าที่ผ่านมาในราชวงศ์ปัจจุบันไม่เคยมีเหตุการณ์พี่สาวกับน้องสาวร่วมคัดเลือกเป็นพระชายาองค์รัชทายาทพร้อมกันมาก่อน พอคุณหนูใหญ่อู่เข้าร่วม โอกาสนั้นก็ไม่มีทางตกมาถึงคุณหนูรองอู่แล้ว
วันหนึ่งก่อนสำนักศึกษาจะเปิดเรียนไม่นานอู่ฉี่ทำตัวผิดแปลกจากปกติ ไม่ให้เจี่ยวเอ๋อร์อาศัยข้ออ้างซื้อโจ๊กออกไปส่งจดหมาย แต่แปลงโฉมเล็กน้อยแล้วออกไปหายายเฒ่าหวังด้วยตนเอง เนื่องจากสถานการณ์เร่งด่วนเกินไป ไม่รอให้เจี่ยวเอ๋อร์เดินไปไกลก็พูดคุยกับยายเฒ่าหวังตรงประตูด้านใน
‘ไม่ใช่ขอเพียงพวกเจ้าชิงจิตและวิญญาณไปหรือ เหตุใดเกิดเรื่องร้ายแรงถึงตายได้’
เจี่ยวเอ๋อร์ที่อยู่นอกหน้าต่างได้ยินประโยคนี้เข้าก็กลั้นลมหายใจทันที