ยายเฒ่าหวังเอ่ย ‘ตอนเกิดเรื่องมีเหตุไม่คาดฝันเล็กน้อย ในวัดมีบ่อน้ำอยู่บ่อหนึ่ง ตามหลักแล้วพอหลี่อิงเอ๋อร์ถูกชิงจิตวิญญาณไปจะต้องนอนสลบไสลไม่ได้สติ แต่วันนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางเดินไปถึงข้างบ่อน้ำอย่างเลื่อนลอยแล้วพลาดพลั้งตกลงไป เรื่องนี้พวกเราก็ไม่คาดคิดมาก่อนเช่นกัน’
อู่ฉี่กล่าวต่อ ‘แต่ข้าได้ยินมาว่าเพราะการตายของเด็กสาวผู้นี้ไม่ปกติ อำเภอฉางอันจึงส่งศพไปที่ศาลต้าหลี่แล้ว! รู้ไปถึงศาลต้าหลี่เช่นนี้ไม่กลัวว่าพวกเขาจะสืบสาวมาถึงพวกเราหรือ’
ยายเฒ่าหวังเอ่ยว่า ‘ศาลต้าหลี่แอบสืบเรื่องนี้มาพักใหญ่แล้ว ไยไม่ฉวยโอกาสทำให้คดีต่อเนื่องไปเล่า ถึงอย่างไรแพะรับบาปก็หาไว้พร้อมแล้ว ยิ่งจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไม่เหลือร่องรอย หากเจ้าล้มเลิกไปเสียกลางคัน เด็กสาวผู้นี้ก็ตายเปล่า เจ้าอยากเป็นพระชายาองค์รัชทายาทไม่ใช่หรือ เหตุใดไม่ลองคิดถึงสถานการณ์ของตนเองในตอนนี้ดูบ้าง พี่สาวเจ้ายกเลิกงานแต่งไปแล้ว บิดาของเจ้าก็มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งใหญ่โตกับสกุลเจิ้ง ได้ยินว่าคุณหนูเจิ้งก็ร่วมคัดเลือกเป็นพระชายาองค์รัชทายาทด้วย บิดาของเจ้าทุ่มเทเต็มที่เพื่อกดข่มสกุลเจิ้งลง พี่สาวของเจ้าไม่ว่ารูปโฉมหรือสติปัญญาล้วนอยู่เหนือกว่าเจ้าขั้นหนึ่ง ดูจากความรักใคร่เอ็นดูที่บิดามารดาของเจ้ามีต่อพี่สาว ตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทนี้ก็คงไม่ตกมาถึงเจ้าแล้ว…’
ทันใดนั้นนางคล้ายได้ยินเสียงดังขึ้นเบาๆ ด้านนอก ยายเฒ่าหวังถามเสียงดุดัน
‘เจ้าไม่ได้ไล่สาวใช้ของเจ้าออกไปหรือ’
พอยกมือขึ้นเส้นไหมก็พุ่งออกไป เส้นไหมสีเงินคมกริบดั่งอาวุธมีคมแฉลบผ่านปลายจมูกเจี่ยวเอ๋อร์ไปอย่างหวุดหวิด นางสะดุ้งโหยงหลั่งเหงื่อเย็นเยียบแล้ววิ่งโซซัดโซเซหนีไป
ถึงจะไม่โดนยายเฒ่าหวังฉวยโอกาสเอาชีวิตทันที แต่เจี่ยวเอ๋อร์รู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็วตนเองจะต้องโดนปิดปาก เพียงเพราะคุณหนูรองยังหาสาวใช้ที่เชื่อใจได้ไม่เจอชั่วขณะจึงเก็บชีวิตของนางเอาไว้ก่อนชั่วคราว
ในคืนนั้นเจี่ยวเอ๋อร์ฝันร้าย
หวาดกลัวก็ส่วนหวาดกลัว แต่สุดท้ายตอนกลางวันได้ยินมาเพียงไม่กี่คำ นางไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นหนึ่งเท่านั้น
จนกระทั่งอู่เซียงเกิดเรื่อง นางถึงเข้าใจคำว่า ‘คดีต่อเนื่อง’ ที่ยายเฒ่าหวังเอ่ยถึงวันนั้นหมายถึงอะไร
หากลอบทำร้ายคุณหนูใหญ่โดยตรง ศาลต้าหลี่ก็จะรู้เท่าทันแรงจูงใจของคนร้ายอย่างรวดเร็ว จากนั้นคราวหน้าการสืบสวนคดีจะมุ่งเน้นไปที่คนใกล้ชิดของคุณหนูใหญ่ เป็นเช่นนี้คุณหนูรองก็จะถูกเปิดโปงอย่างง่ายดาย
แต่หากก่อนหน้าคดีนี้มีคดีหลี่อิงเอ๋อร์ถูกคนชิงวิญญาณเพิ่มเข้ามาสถานการณ์จะต่างออกไปแล้ว หลี่อิงเอ๋อร์กับคุณหนูใหญ่ไม่เคยรู้จักกัน โดนคนใช้วิธีการแบบเดียวกันสังหารตามมาติดๆ ใครก็คงนึกว่าแรงจูงใจของคนร้ายคือการเก็บรวบรวมวิญญาณ ส่วนคุณหนูใหญ่เพียงเคราะห์ร้ายที่ถูกคนร้ายหมายตา
“หลังเข้าใจเรื่องทั้งหมดข้าน้อยไม่เพียงหวาดกลัวมาก ยังรู้สึกผิดต่อมโนธรรมในใจด้วย เวลาอยู่ในจวนคุณหนูใหญ่ใจดีเป็นกันเองกับบ่าวไพร่อย่างพวกเรา หากข้าน้อยเตือนคุณหนูใหญ่ให้เร็วกว่านี้ บางทีคุณหนูใหญ่ก็คงไม่ต้องเคราะห์ร้ายเช่นนี้แล้ว หลายวันที่ผ่านมาเห็นคุณหนูใหญ่ท่าทางสติเลื่อนลอย ข้าน้อยไม่สบายใจเอาเสียเลยเจ้าค่ะ”
“มีมโนธรรมในใจถึงเพียงนี้ เจ้าน่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับนายท่านของเจ้านานแล้วสิ เหตุใดยังช่วยคุณหนูรองวางแผนทำร้ายคุณหนูตู้อีกเล่า”
“เพราะว่า…” เจี่ยวเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นกะทันหัน “เพราะว่าคุณหนูรองข่มขู่ข้าน้อยเอาไว้ หากข้าน้อยแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปยายเฒ่าหวังจะใช้วิธีเดียวกันมาทำร้ายท่านพ่อท่านแม่กับน้องชายของข้าน้อย และยังบอกว่าวันหน้านางยังมีเรื่องอีกมากต้องการให้ข้าน้อยช่วยจัดการดูแล นอกจากข้าน้อยแล้วนางก็ไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น เพราะเหตุนี้ครั้งก่อนนางรู้อยู่แท้ๆ ว่าข้าน้อยแอบฟังอยู่ข้างนอก ก็ไม่สั่งให้ยายเฒ่าหวังทำร้ายข้าน้อยสักนิด ขอเพียงข้าน้อยช่วยนางให้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทได้ ในอนาคตข้าน้อยจะได้ผลประโยชน์มากมายนับไม่ถ้วน แน่นอนว่าข้าน้อยไม่หวังจะได้สิ่งเหล่านี้หรอก แต่ข้าน้อยกลัวว่าครอบครัวจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
ลิ่นเฉิงโย่วยิ้มเยาะ หากต้องการบอกความลับจริงๆ ทางยายเฒ่าหวังใช่ว่าจะรู้ข่าวทันท่วงที พูดไปพูดมาสุดท้ายก็คือลาภยศสำคัญที่สุด ตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทห่างจากตำแหน่งฮองเฮาเพียงก้าวเดียว แล้วนั่นหมายความว่าอะไรสาวใช้ผู้นี้รู้แก่ใจดี รวมกับอู่ฉี่ใช้วาจานุ่มนวลเกลี้ยกล่อม คงเผลอเพ้อฝันกลางวันไปบ้าง สมกับเป็นบ่าวผู้ภักดีของคุณหนูรองอู่ นายบ่าวทำสิ่งใดเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งที่รู้ว่าเป็นการฝืนมโนธรรมในใจ ก็ไม่ลืมใช้วาจาตกแต่งให้ดูดีขึ้นมาสักหน่อย
“เจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ!” อู่ฉี่โกรธเคืองแต่กลับยิ้มออกมา “ศาลต้าหลี่ตัดสินคดีกันเช่นนี้เองหรือ วาจาเหลวไหลเลอะเทอะก็ใช้เป็นคำให้การได้ด้วย?”
ลิ่นเฉิงโย่วกวักมือเรียกคนด้านหลัง เจ้าหน้าที่หลายคนยกหีบข้างกายยายเฒ่าหวังเดินมา