อู่หยวนลั่วหลับตาลง “ช่างเถิด พูดมามากถึงเพียงนี้ ข้าเพียงอยากรู้เรื่องหนึ่ง พอทำเรื่องพวกนี้ไปแล้วในใจเจ้าเคยมีสักเศษเสี้ยวที่รู้สึกเสียใจในภายหลังหรือไม่ เจ้าลองคิดถึงสภาพของต้าเหนียงเมื่อก่อน แล้วมาคิดถึงสภาพของต้าเหนียงในตอนนี้ดูสิ จะพูดกับนางว่า ‘ขอโทษ’ จากใจจริงได้บ้างหรือไม่”
อู่ฉี่กัดฟันแน่น ทว่าริมฝีปากยังสั่นระริก
อู่หยวนลั่วตาแดงก่ำเฝ้ารออยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง เขาหันหน้ากลับไปแล้วคุกเข่าแผ่นหลังเหยียดตรงเบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้กับฮองเฮา จากนั้นก้มลงกราบศีรษะจรดพื้นพร้อมเอ่ยว่า “ท่านพ่อสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี ท่านแม่ยุ่งกับการดูแลน้องสาวคนโต เรื่องในคืนนี้กระหม่อมหยวนลั่วขอแบกรับไว้เพียงผู้เดียว ครอบครัวสกุลอู่โชคร้ายนัก มีคนเจ้าเล่ห์อำมหิตเช่นนี้ถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแล้วจึงกระทำเรื่องโหดเหี้ยมไร้มโนธรรม ทว่าคนชั่วย่อมหนีไม่พ้นกฎหมายบ้านเมือง บาปกรรมที่ก่อยากจะอภัยให้ได้ ในเมื่อกระหม่อมหยวนลั่วเป็นพี่ชายของผู้กระทำความผิดและยังเป็นญาติพี่น้องของเหยื่อ หลังทราบความจริงแล้วก็ทุกข์ทรมานราวไฟแผดเผา รู้สึกละอายและเสียใจเกินจะรับไหว มีเพียงวิงวอนต่อฝ่าบาทกับราชสำนักให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ทวงคืนความยุติธรรมให้กับเหยื่อทุกคน หากมีส่วนใดจำเป็นต้องให้สกุลอู่รับผิดชอบ สกุลอู่ไม่กล้าปฏิเสธอย่างเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ”
สายลมยามค่ำคืนพัดวูบผ่านเปลวไฟหน้าลานกว้าง คำพูดของอู่หยวนลั่วทั้งสิ้นเยื่อใยทั้งเจ็บปวดร้าวราน
สีพระพักตร์ฮ่องเต้แสดงความประทับใจ ก่อนถอนพระทัยตรัสว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณหนูใหญ่สกุลอู่ช่างน่าเห็นใจยิ่งนัก ความโหดเหี้ยมของคุณหนูรองสกุลอู่ยากจะอภัยให้ได้จริงๆ โย่วเอ๋อร์ เจ้าคือขุนนางที่รับผิดชอบสืบสวนคดีนี้ เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร”
สายตาของทุกคนในที่นี้พุ่งตรงมายังลิ่นเฉิงโย่วทันที
ลิ่นเฉิงโย่วสีหน้าเคร่งขรึมตอบอย่างตรงไปตรงมา “ ‘ตัดสินลงทัณฑ์ตามความผิด บีบคั้นกดดันให้ละอาย’ ในคดีนี้เหยื่อที่เป็นผู้บริสุทธิ์อย่างสิ้นเชิงคือหลี่อิงเอ๋อร์บุตรสาวชาวบ้านธรรมดา ปีนี้นางเพิ่งอายุสิบสามเท่านั้น เดิมทีไม่เคยมีความแค้นต่อพวกคุณหนูรองอู่ กลับถูกทำร้ายเพียงเพราะคนชั่วต้องการกลบเกลื่อนความผิด เมื่อเร็วๆ นี้เจ้าหน้าที่ไต่สวนเหยียนไปยังอี้หนิงฟางเพื่อสืบคดี พอกลับมาถึงบอกว่ามารดาของหลี่อิงเอ๋อร์ยังร้องไห้เสียใจอยู่ทุกวัน ความทุกข์ของราษฎรย่อมเป็นความทุกข์ของโอรสสวรรค์ด้วย กระหม่อมขอวิงวอนให้ฝ่าบาทลงโทษสถานหนัก คุณหนูรองอู่ ยายเฒ่าหวัง หลูจ้าวอันหลักฐานความผิดชัดเจน สมควรย้ายตัวไปยังศาลต้าหลี่เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดในทันที จะต้องพิจารณาคดีอย่างเที่ยงธรรมเปิดเผยเท่านั้นถึงสามารถเตือนสติพวกที่คิดชั่วได้”
คำพูดเหล่านี้หนักแน่นทรงพลังยิ่ง
เถิงอวี้อี้ค่อยๆ คลายมือที่กำแน่นออก เมื่อมีความเห็นของลิ่นเฉิงโย่วจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีการลดโทษให้อู่ฉี่แล้ว
อู่ฉี่จะโหดเหี้ยมอย่างไร สุดท้ายก็เป็นบุตรสาวแท้ๆ ของครอบครัวสกุลอู่ หากหัวหน้าผู้ตรวจการอู่หรือว่าอู่ฮูหยินอยู่ๆ เกิดใจอ่อนขึ้นมาอาจร้องขอความเมตตาต่อเบื้องพระพักตร์ได้
หากเป็นเช่นนี้นางจะยินยอมได้อย่างไร
ด้วยจิตใจโหดเหี้ยมของอู่ฉี่ไม่มีทางรู้สึกผิดอย่างแน่นอน ที่สำคัญพอฟังคำสารภาพของอู่ฉี่ เห็นได้ชัดว่านางมองคนที่ขัดขวางตนเองไม่ให้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทเป็นหนามยอกอกไปแล้ว
ในชาติก่อนนางก็เหมือนกับหลี่อิงเอ๋อร์ในชาตินี้ ตายโดยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยแม้แต่น้อย ถึงจิ้งเฉินซือไท่กับผู้บงการเบื้องหลังมีความผิดยากจะอภัย แต่ความริษยาของอู่ฉี่กลับเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นางต้องตายอย่างไม่เป็นธรรมในชาติก่อน
นางไม่เพียงต้องการให้อู่ฉี่ยอมรับผิดและถูกลงโทษตามกฎหมาย ยังอยากหาวิธีให้อู่ฉี่ยอมคายเบาะแสที่รู้ออกมาทั้งหมดด้วย
หากสามารถจับกุมผู้บงการเบื้องหลังจิ้งเฉินซือไท่ได้สำเร็จ ก็นับว่าความแค้นใหญ่หลวงของนางได้รับการชำระสะสางแล้ว
นางส่งสายตาแสดงความซึ้งใจต่อลิ่นเฉิงโย่วแวบหนึ่ง น่าเสียดายที่ลิ่นเฉิงโย่วมองตรงไปข้างหน้าคล้ายไม่ทันสังเกตเห็น
ฮ่องเต้ผงกพระเศียรด้วยความชื่นชม “พูดได้ดี ‘ความทุกข์ของราษฎรย่อมเป็นความทุกข์ของโอรสสวรรค์ด้วย’ หลานรัก ราชสำนักควรผดุงความเป็นธรรมเพื่อราษฎรอยู่แล้ว เจ้าเพียงบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลางก็พอ เบื้องหลังยายเฒ่าหวังจะต้องมีผู้บงการแน่ ให้คนคุมตัวพวกเขาออกไปก่อน จำไว้ว่าต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ระวังไม่ให้คนชั่วมาฆ่าคนปิดปาก”
ขณะเจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่จะมัดร่างหลูจ้าวอัน เขาก็เอ่ยเสียงดัง “ขอฝ่าบาททรงโปรด กระหม่อมผู้แซ่หลูเคยซื้อโจ๊กจากยายเฒ่าหวังเพียงไม่กี่ชาม เท่านี้ก็บอกว่ากระหม่อมมีส่วนพัวพันกับคนชั่วกลุ่มนี้ นอกจากกระหม่อมจะไม่กล้ายอมรับผิด เกรงว่าชาวบ้านคงไม่พอใจเช่นกัน”
ลิ่นเฉิงโย่วเย้ยหยัน “วางใจได้ ไม่ลืมเจ้าหรอก”
เขากล่าวพลางหยิบจดหมายสองฉบับที่ปิดบังชื่อแซ่จากในอกเสื้อ ก่อนเอ่ยถามหลูจ้าวอันว่า “จำจดหมายสองฉบับนี้ได้หรือไม่”
หลูจ้าวอันหน้าเปลี่ยนสีไปทันที