ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 109
เมื่อลองไตร่ตรองดูให้ดีแล้วพบว่าก่อนหน้านี้เขาเคยไปหอไจซิงเพื่อซื้อเครื่องประดับมาจริงๆ แต่ตอนนี้ความจริงของคดีปรากฏแล้ว สกุลเติ้งเพื่อปกป้องชื่อเสียงของหลานสาวจะต้องป่าวประกาศเรื่องนี้ไปทั่วแน่ เวลาผ่านมาหนึ่งคืนคาดว่ามีคนจำนวนไม่น้อยรู้แล้วว่าต่างหูมุกล้อแสงจันทร์ที่เติ้งเหวยหลี่รับมาในคืนนั้นไม่ได้มาจากเขา แล้วเครื่องประดับที่เขาซื้อจากหอไจซิงไปอยู่ที่ใดกัน เรื่องนี้จึงยิ่งน่าขบคิดต่อไปอีก
บางทีคงมีคนคาดเดาได้จากข้อนี้ว่าความจริงนางในดวงใจของเขาคือเถิงอวี้อี้ ดังนั้นถึงได้เกิดเหตุการณ์ในค่ำคืนนี้? ท่าทีตอบสนองนี้จะเร็วเกินไปสักหน่อยหรือไม่
หากไม่ใช่เพราะหลีซื่อตัวปลอมผู้นี้อวดฉลาดจนทำพลาด ไม่แน่ว่าเขาอาจจะออกไปเพียงเพราะประโยค ‘คุณชายหวังมีเรื่องด่วน’ จริงๆ ก็ได้
ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่กลับมารายงาน “เจ้าหน้าที่สืบสวนลิ่น นอกประตูศาลไม่มีคุณชายหวังผู้นั้นอยู่เลยขอรับ”
ยังมีเจ้าหน้าที่อีกสองสามคนยกศพของหลีซื่อกลับมา เอ่ยทั้งน้ำตาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด “หลีซื่อถูกฆ่าตายไปแล้ว ศพซ่อนอยู่ในตรอกข้างๆ นี่เอง ช่วยไม่ทันแล้ว…เจ้าพวกเศษสวะ!”
ลิ่นเฉิงโย่วลุกขึ้นยืนตรวจดูศพของหลีซื่อครู่หนึ่ง เขานิ่งเงียบไปชั่วขณะแล้วยกมือปิดตาหลีซื่อที่เปิดปรือเล็กน้อย
“ก่อนข้าจะสอบสวนยายเฒ่าหวังเสร็จ ทุกคนห้ามไปที่ใดโดยพลการทั้งสิ้น!”
ครึ่งชั่วยามต่อมาลิ่นเฉิงโย่วนั่งรออยู่เงียบๆ ตรงกลางระหว่างกรงขังเหล็กยายเฒ่าหวังกับหลูจ้าวอัน
วิธีการเดียวกัน หนอนกู่ชนิดเดียวกัน ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามเต็มๆ แล้วสายตายายเฒ่าหวังที่มองหลูจ้าวอันยังเย็นเยียบปานน้ำแข็ง กระทั่งยังเผยความชิงชังรังเกียจอย่างลึกล้ำ
ตรงกันข้ามกับสายตาหลูจ้าวอันยามมองยายเฒ่าหวังที่ยังร้อนแรง
ทางขวาคือความรักลึกซึ้งดั่งเปลวไฟของหลูจ้าวอัน ส่วนทางซ้ายเป็นบ่อน้ำนิ่งสนิท ลิ่นเฉิงโย่วอยู่ตรงกลางระหว่างน้ำกับไฟ อดครุ่นคิดไม่ได้ว่าหรือวิธีนี้จะไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ใช้วิธีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ทำสำเร็จมาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่มีทางที่จะเกิดข้อผิดพลาด
ทันใดนั้นก็นึกได้ว่าคนเช่นยายเฒ่าหวังก็คล้ายกับจวงมู่ นอกจากจะทนรับทัณฑ์ทรมานได้แล้ว ยังเชี่ยวชาญการเก็บงำความรู้สึกในใจ ไม่แน่ว่านางคงเกิดความรักใคร่ต่อหลูจ้าวอันบ้างแล้ว เพียงแต่ไม่แสดงออกทางสีหน้าเท่านั้น
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ลิ่นเฉิงโย่วก็ปล่อยหลูจ้าวอันออกจากกรงเหล็ก สวมเครื่องลงทัณฑ์ให้เขา จากนั้นก็กล่าวกับยายเฒ่าหวังว่า “ข้าจะลงทัณฑ์หลูจ้าวอันแล้ว”
ดวงตารูปสามเหลี่ยมของยายเฒ่าหวังจ้องมองอย่างขุ่นเคือง ทว่ายังคงมีท่าทีนิ่งเฉย
ลิ่นเฉิงโย่วโบกมือสั่งการให้คนลงทัณฑ์
หลูจ้าวอันกรีดร้องราวกับหมูถูกเชือดก็ไม่ปาน
ลิ่นเฉิงโย่วต่อรองกับยายเฒ่าหวังอย่างสุภาพท่ามกลางเสียงกรีดร้องของหลูจ้าวอัน “ขอเพียงเจ้าพูดออกมาว่าผู้บงการเบื้องหลังคือใคร ข้าก็จะไม่ทรมานเขาแล้ว”
ยายเฒ่าหวังกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย ดูแล้วนางไม่สนใจความเป็นความตายของหลูจ้าวอันเลยสักนิด
ลิ่นเฉิงโย่วเลิกคิ้วขึ้น
ไม่ได้ผลหรือ หนอนกู่ชนิดนี้ร้ายกาจยิ่งนัก…แต่นี่ใช้ไม่ได้ผล หมายความว่าในร่างนางยังมีหนอนกู่อีกชนิดหนึ่งซ่อนอยู่ ร่างอาศัยหนึ่งร่างไม่อาจรับหนอนกู่สองชนิดพร้อมกันได้ ขอเพียงหนอนกู่ชนิดใหม่รุกล้ำเข้าสู่ชีพจรหัวใจจะถูกหนอนกู่ที่อยู่ในร่างแต่เดิมตัวนั้นกลืนกิน
นี่คงผิดแผนแล้ว
หากยังใช้เครื่องลงทัณฑ์กับหลูจ้าวอันต่อไป กู่คะนึงหาในร่างหลูจ้าวอันอาจจะทิ้งร่างอาศัยหลบหนีไปได้ เช่นนั้นก็จะได้ไม่คุ้มเสีย ด้วยเหตุนี้ลิ่นเฉิงโย่วจึงโบกมือส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่หยุดลงทัณฑ์
หลูจ้าวอันหอบหายใจแฮกๆ พลางเอ่ยว่า “มีอะไรก็มาลงที่ข้า อย่าไปยุ่งกับนาง…”
ลิ่นเฉิงโย่วสะกดกลั้นความรู้สึกขนลุกแล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าสอบจิ้นซื่อได้อันดับที่หนึ่ง ไม่ช้าก็เร็วจะได้เข้าสู่เส้นทางขุนนาง แต่เจ้ากลับละทิ้งหนทางที่ถูกต้องแล้วหลงไปเดินทางผิด ผู้บงการเบื้องหลังให้ผลประโยชน์มหาศาลอะไรกับเจ้ากันแน่”
“สอบจิ้นซื่อได้อันดับที่หนึ่งแล้วอย่างไร” ดวงตาหลูจ้าวอันฉายแววเย้ยหยันชัดเจน “เจ้าเกิดมาสุขสบายมีคนอุ้มชู จะมาเข้าใจความขมขื่นของบัณฑิตฐานะยากจนอย่างพวกเราได้หรือ ตั้งแต่เล็กมาครอบครัวข้าอัตคัดขัดสน ถูกผู้คนกลอกตาใส่อย่างเอือมระอามาไม่รู้กี่ครั้ง โลกใบนี้เป็นเช่นไรข้าเข้าใจดียิ่งกว่าใคร คนผู้หนึ่งหากไม่มีคนหนุนหลังในราชสำนัก ถึงแม้เข้าสู่เส้นทางขุนนางแล้วก็ทำได้เพียงเริ่มต้นจากตำแหน่งขุนนางเล็กๆ…ข้าลำบากมาถึงเพียงนี้แล้วจะยินยอมอยู่ใต้คนอื่นได้อย่างไร…ข้าเพียงอยากโดดเด่นกว่าคนอื่น…ใครช่วยให้ข้าเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วได้ก็สานสัมพันธ์กับคนผู้นั้น…ด้วยความสามารถของข้า ขอเพียงให้โอกาสข้าแสดงมันออกมา จะต้องมีสักวันที่ข้าหลูจ้าวอันได้กุมอำนาจเหนือผู้ใด และมีศิษย์อยู่ทั่วหล้าแน่นอน”
เจ้าหน้าที่พากันถ่มน้ำลาย “บัณฑิตฐานะยากจนมากมายเช่นนั้น มีสักกี่คนที่ทำอะไรโดยไม่เลือกวิธีการอย่างเจ้า คนถ่อยที่เห็นแก่ผลประโยชน์จนลืมคุณธรรมเช่นนี้มีแต่พวกเศษสวะเท่านั้นที่จะยอมเป็นศิษย์”
“ยังคิดจะกุมอำนาจเหนือผู้ใด? ใช้หนอนกู่ต่ำช้าพรรค์นั้นทำร้ายสตรีผู้บริสุทธิ์ จิตใจของเจ้าสกปรกยิ่งกว่าโคลนตมในคูน้ำเน่า หากให้คนอย่างเจ้าเป็นอัครเสนาบดี ทั้งราชสำนักคงพากันเน่าเหม็นตามเจ้าไปด้วยแล้ว”
ลิ่นเฉิงโย่วกลับคิดอะไรที่น่าสนใจบางอย่างได้จากคำพูดของหลูจ้าวอัน เขาสั่งคนมัดหลูจ้าวอันไว้ตามเดิมแล้วส่งกลับเข้าไปในกรงขัง ค่อยหันมาถามยายเฒ่าหวังว่า “นายของเจ้าผู้นั้นกับจิ้งเฉินซือไท่รู้จักกันมาหลายปีแล้วใช่หรือไม่”
ยายเฒ่าหวังไม่ตอบ