ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 109 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 109

ลิ่นเฉิงโย่วใคร่ครวญแล้วเอ่ยว่า “มิน่าเล่าปีนั้นราชสำนักจับกุมตัวเฮ่าเยวี่ยส่านเหรินกับเหวินชิงส่านเหรินไม่ได้ ที่แท้พวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่มุมใดมุมหนึ่งในฉางอัน คนที่จะรับตัวพวกเขาไว้คงเป็นผู้สูงศักดิ์สักคนของฉางอัน หากว่าพวกเขาสามคนรู้จักกันตั้งแต่ตอนแรกที่หลบหนี นายของเจ้าอาจจะอายุไม่น้อยแล้ว มิตรภาพระหว่างพวกเขาลึกซึ้งมากกระมัง ดังนั้นครั้งก่อนนายของเจ้าผู้นั้นถึงรู้ว่าจิ้งเฉินซือไท่ล้มเหลว ต่อให้สละชีวิตนักรบหน่วยกล้าตายสามสิบสี่คนก็ต้องแย่งชิงดวงวิญญาณของนางไปให้ได้”

ยายเฒ่าหวังตรงหน้าดั่งบ่อน้ำแห้งขอด ลิ่นเฉิงโย่วจะพูดอะไรก็กระตุ้นให้เกิดรอยกระเพื่อมไหวไม่ได้

ลิ่นเฉิงโย่วจู่โจมถามยามอีกฝ่ายพลั้งเผลอ “หนอนกู่ในร่างเจ้าเป็นฝีมือเฮ่าเยวี่ยส่านเหรินหรือเหวินชิงส่านเหรินกันเล่า”

ในที่สุดก้นบ่อน้ำก็เกิดระลอกคลื่นเล็กๆ

ลิ่นเฉิงโย่วแย้มยิ้มกล่าวต่อ “พวกเขาใช้หนอนกู่กับเจ้าเพราะกลัวว่าเจ้าจะทรยศพวกเขาใช่หรือไม่ เจ้าก็เป็นศิษย์สักคนของสำนักอู๋จี๋ในเวลานั้นกระมัง หรือว่าเป็นคนที่ถูกนักพรตส่านเหรินสองคนนี้ชักนำเข้าสู่ทางมารในภายหลังกันเล่า”

ยายเฒ่าหวังหลับตาลง

ลิ่นเฉิงโย่วเอ่ยด้วยความเห็นใจ “รสชาติการเป็นบริวารรับใช้เสือคงไม่ดีเท่าไร หากมีคนช่วยถอนพิษกู่ให้เจ้าได้ เจ้าก็อยากใช้ชีวิตเป็นปกติสุขบ้างเช่นกันใช่หรือไม่”

คิ้วยายเฒ่าหวังกระตุกเบาๆ สีหน้าของนางช่างแปลกพิกล ราวกับกำลังพูดว่า ‘เจ้าหนุ่มปากดี ข้าทนรับทัณฑ์ทรมานได้ เอาชนะการยั่วยุได้ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะใช้วิธีเช่นนี้มาหลอกล่อให้ข้าเปิดปาก’

ลิ่นเฉิงโย่วตระหนักดีว่าครั้งนี้ใช้ยาถูกต้องแล้ว เขาเอ่ยยิ้มๆ ว่า “ในปีนั้นราชสำนักตรวจยึดคัมภีร์ลับของสำนักอู๋จี๋ไปหลายสิบเล่ม เล่มที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคือ ‘คัมภีร์วิญญาณ’ ซึ่งเล่มนี้เป็นเรื่องถนัดของเฉียนคุนส่านเหริน ในคัมภีร์บันทึกวิชามารที่ใช้กักขังวิญญาณเอาไว้หลายอย่าง แต่ในเวลาเดียวกันจากบรรดาคัมภีร์ที่ถูกตรวจยึดมายังมี ‘คัมภีร์กู่’ อยู่หลายเล่ม ท่านอาจารย์ตาของข้าศึกษาค้นคว้ามาตลอดหลายปี เข้าใจวิธีจัดการพิษกู่ของสำนักอู๋จี๋กระจ่างแจ้งนานแล้ว ขอเพียงเจ้าบอกสิ่งที่ตนเองรู้ออกมา พวกเราก็จะช่วยถอนพิษกู่ให้ทันที”

ยายเฒ่าหวังจ้องหน้าลิ่นเฉิงโย่วไม่วางตา

“ไม่เชื่อหรือ” ลิ่นเฉิงโย่วพูดโกหกโดยหน้าไม่เปลี่ยนสีสักนิด “ดูข้าเป็นตัวอย่างก็ได้ พิษกู่ในร่างกายข้าถอนออกไปมากกว่าครึ่งแล้ว รายละเอียดว่าถอนอย่างไรนั้นยังบอกเจ้าไม่ได้ชั่วคราว เหลือเพียงขั้นสุดท้ายรอยประทับกู่บนร่างข้าก็จะหายไปอย่างสมบูรณ์ พวกเจ้ารู้จักคุณชายหวังได้ คิดว่าคงสืบเรื่องเกี่ยวกับข้าสารพัดมาก่อน นี่เป็นตัวอย่างที่น่าเชื่อถือที่สุด สำหรับท่านอาจารย์ตาข้าแล้ว พิษกู่ในร่างเจ้าก็ไม่เป็นปัญหาเช่นกัน”

ยายเฒ่าหวังก้มหน้าครุ่นคิด

ลิ่นเฉิงโย่วพยายามหว่านล้อม “พอถอนพิษกู่ในร่างออก ต่อไปก็ไม่มีใครควบคุมเจ้าได้แล้ว ขอเพียงเจ้าช่วยศาลต้าหลี่จับกุมนายของเจ้า ข้าจะช่วยขอลดโทษให้เจ้าได้ตามความเหมาะสม ออกจากคุกไปเจ้ายังสามารถใช้ชีวิตอย่างชาวบ้านทั่วไป ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีก สุดท้ายจะเป็นวิญญาณร้ายอยู่ใน ‘ปรโลก’ ต่อไป หรือจะกลับมาเป็นคนธรรมดาใน ‘โลกมนุษย์’ ก็ขึ้นอยู่กับความคิดชั่วขณะจิตของเจ้าแล้ว”

ยายเฒ่าหวังยังคงไม่ยอมตอบ

ลิ่นเฉิงโย่วมีความอดทนอย่างยิ่ง “ให้เวลาเจ้าครึ่งชั่วยาม ลองคิดดูให้ดี เอาไว้เจ้าคิดออกแล้วก็มาบอกข้า”

อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังเอะอะข้างนอก ที่แท้เป็นหัวหน้าศาลต้าหลี่สองคนกับสหายร่วมงานได้ยินว่ามีคนปล้นคุก ก็เร่งเดินทางออกจากจวนมาถึงแล้ว

เหยียนว่านชุนกับควนหนูเองก็รวมอยู่ในนั้นด้วย

มิหนำซ้ำควนหนูยังนำศพของเอ้อจีมาด้วย

คืนนี้หลังสอบสวนได้เบาะแสเกี่ยวกับเอ้อจีจากปากหลูจ้าวอัน ลิ่นเฉิงโย่วก็รีบสั่งให้องครักษ์ลับที่เฝ้าอยู่นอกศาลต้าหลี่ไปแจ้งควนหนูให้รวบตัวนางโดยพลัน แต่เมื่อควนหนูนำกำลังคนบุกเข้าไปนางก็กินยาพิษฆ่าตัวตายไปแล้ว

“ดูจากสภาพศพ คงตายตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้แล้ว” ควนหนูปาดเหงื่อ “สองสามวันมานี้เอ้อจีไม่ย่างเท้าออกจากเรือน กำลังคนหลายกลุ่มผลัดเปลี่ยนกันจับตาดูนาง สองวันเต็มๆ ที่ตอนเช้านางเพียงออกไปซื้อขนมแป้งม้วนยัดไส้จากร้านใกล้ๆ วัดผูถี คิดว่าคงได้ข่าวเรื่องหลูจ้าวอันถูกจับ คิดว่าประเดี๋ยวก็จะสืบสาวมาถึงตัวนาง กลับไปไม่นานก็กินยาพิษฆ่าตัวตายอยู่ในเรือนแล้ว”

“ส่งคนไปเฝ้าร้านขายขนมร้านนั้นทันทีเลยหรือไม่ เถ้าแก่ร้านเป็นใคร”

“ไม่รู้ว่าเถ้าแก่ร้านคือใคร แต่ร้านนี้เปิดกิจการอยู่ในฉางอันมาห้าหกปีแล้ว ตำแหน่งที่ตั้งร้านอยู่ไกลลับตาคน ปกติจึงมีคนไปซื้อไม่มาก ตอนพวกเราเร่งไปถึงก็ปิดร้านไปแล้ว ข้าน้อยแอบทิ้งกำลังคนไว้สองกลุ่มให้คอยจับตาดูอยู่ใกล้ๆ”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com