ลิ่นเฉิงโย่วกับเหยียนว่านชุนเข้ามาตรวจดูศพของเอ้อจีร่วมกัน เห็นสภาพรูม่านตากับริมฝีปากก็ยืนยันได้ว่าตายเพราะถูกพิษแน่นอน ที่สำคัญยังใช้หญ้าไส้ขาดที่หาซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาด
เหยียนว่านชุนได้ยินเสียงพูดคุยตรงระเบียงทางเดินด้านนอก ก็ลดเสียงลงบอกกับลิ่นเฉิงโย่วว่า “ที่นี่หูตาผู้คนมากมาย ในคุกยังต้องให้ท่านคอยดูแล เอาอย่างนี้เถอะ ประเดี๋ยวข้าจะพาคนไปสอดส่องร้านนั้น ในบ้านเอ้อจีจะต้องมีเบาะแสไม่น้อยแน่ ข้าจะตรวจค้นทั้งด้านในด้านนอกอย่างละเอียดรอบหนึ่ง”
“กำลังคนแบ่งออกเป็นสองสาย ทางร้านขายขนมร้านนั้นให้พวกควนหนูไป” ลิ่นเฉิงโย่วกล่าว “พี่เหยียนพาคนไปตรอกเอ๋อเอ๋อร์จับกุมหวังจิ่วเอิน จำไว้ว่าพาเจ้าหน้าที่ไปมากสักหน่อย อีกอย่างให้ควนหนูส่งองครักษ์ลับมาให้พี่เหยียนเพิ่มด้วย ฝ่ายตรงข้ามวิธีการโหดเหี้ยมอำมหิต พวกควนหนูวรยุทธ์สูงส่ง มีพวกเขาดูแลพี่เหยียนข้าถึงค่อยวางใจได้บ้าง หากสืบได้เบาะแสอะไรก็ให้คนกลับมาส่งข่าวได้เลย”
“ตกลง”
จากนั้นภายในคุกก็มีการวางแนวป้องกันใหม่ เจ้าหน้าที่ทั้งหลายผ่านการตรวจค้นตัวทีละคนจนแน่ใจว่าไม่มีส่วนใดผิดปกติ ลิ่นเฉิงโย่วจึงสอบสวนยายเฒ่าหวังอีกครั้ง ไหนเลยจะรู้ว่ายายเฒ่าหวังยังไม่ยอมเอ่ยปากดังเดิม
ลิ่นเฉิงโย่วชักเคลือบแคลงใจ เงื่อนไขที่เขาเสนอล่อตาล่อใจคน ดูจากอากัปกิริยายายเฒ่าหวังเห็นชัดเจนว่าเริ่มหวั่นไหวแล้ว แต่เหตุใดยังมีท่าทีดื้อดึงถึงเพียงนี้
ยืดเยื้อมาถึงช่วงเช้าวันต่อมายายเฒ่าหวังเป็นตายอย่างไรก็ยังไม่ยอมพูด
เมื่อเห็นว่าไม้อ่อนไม้แข็งล้วนใช้ไม่ได้ผล ในใจลิ่นเฉิงโย่วจึงมีความรู้สึกแปลกประหลาดผุดขึ้นมา
หรือยายเฒ่าหวังมั่นใจว่าท่านอาจารย์ตาไม่มีทางถอนกู่ในร่างนางได้
นางแน่ใจได้อย่างไร
กู่ไร้รักทำให้คนที่โดนพิษไม่อาจหวั่นไหวกับใครได้ ทว่าเขากลับมีนางในดวงใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น เรื่องนี้เพียงพอให้คนสงสัยว่าพิษกู่ในร่างเขายังอยู่หรือไม่
หลังคิดไปคิดมาเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้กะทันหัน ไม่แน่ว่าพิษกู่ชนิดนี้ไม่ได้ทำให้คนไร้ความรู้สึกรัก แต่เป็นอันตรายอย่างอื่น หลายวันก่อนอาจารย์ตาดูหนักอกหนักใจกับเรื่องนี้มาก หรือว่านึกขึ้นมาได้เช่นกัน
เขาเดินมาถึงหน้ากรงขัง กำลังจะถามยายเฒ่าหวังให้รู้เรื่อง ทว่าอยู่ๆ ยายเฒ่าหวังกลับล้มลงกับพื้นแล้วชักกระตุก
“เจ้าหน้าที่สืบสวนลิ่น!” เจ้าหน้าที่ต่างตกใจจนหน้าถอดสี
ลิ่นเฉิงโย่วรีบเข้าไปควบคุมจุดชีพจรสำคัญหลายจุดบนร่างยายเฒ่าหวังไว้ ก่อนเอายาลูกกลอนถอนพิษใส่ปากนาง แต่ยายเฒ่าหวังไม่ได้ถูกพิษอย่างเห็นได้ชัด กลับเป็นพิษกู่กำเริบมากกว่า ไม่เพียงอาเจียนหมดไส้หมดพุง ตามผิวหนังยังปรากฏรอยแดงเป็นปื้นลามไปทั่ว พิษเพิ่งกำเริบครู่เดียวก็หมดลมหายใจตายเสียแล้ว
หลูจ้าวอันมองดูนางในดวงใจตายอย่างอนาถต่อหน้าต่อตา ฉับพลันนั้นก็เจ็บปวดจนแทบขาดใจ ร้องไห้ไปนอนกลิ้งเกลือกโขกศีรษะกับพื้นไป พยายามจะฆ่าตัวตายให้ได้
ลิ่นเฉิงโย่วนึกถึงกลิ่นแปลกๆ บนหน้ากากของหลีซื่อขึ้นมาได้ สีหน้าจึงย่ำแย่ถึงขีดสุด ที่แท้สิ่งที่ติดมาบนหน้ากากไม่ใช่ยาพิษ แต่เป็นหนอนกระตุ้นฤทธิ์กู่ที่เร่งพิษในร่างยายเฒ่าหวังให้กำเริบก่อนเวลา
ถึงแม้เขาจะสั่งคนให้คลุมกรงขังนักโทษเอาไว้ทัน แต่คาดไม่ถึงเลยว่าหนอนกระตุ้นฤทธิ์กู่จะคืบคลานได้
ในช่วงชีวิตที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความรู้สึกว่าถูกคนร้ายท้าทาย ฝ่ายตรงข้ามเล่ห์อุบายมากมายไม่รู้จบ ความคิดยังรอบคอบรัดกุมจนน่าทึ่งด้วย
อยากเล่นสนุกนักใช่หรือไม่ ลิ่นเฉิงโย่วตอบโต้ในใจอย่างเย็นชา ข้าก็อยากรู้เช่นกัน สุดท้ายใครจะเล่นสนุกกับใครกันแน่
พอยายเฒ่าหวังตายไป เบาะแสก็ขาดหายกลางคันไปกว่าครึ่ง ทว่าลิ่นเฉิงโย่วกลับไม่ได้ร้อนใจมากถึงเพียงนั้นแล้ว เอ้อจีรู้ข่าวหลูจ้าวอันถูกจับอย่างรวดเร็วได้ ร้านขายขนมเป็นกุญแจสำคัญ เขาออกจากศาลต้าหลี่ไปหาหลักฐานยังร้านแห่งนั้นด้วยตนเอง
ไม่เกินความคาดหมาย ศาลต้าหลี่ยังไม่ได้ไปตรวจค้นถึงร้าน เมื่อคืนอยู่ๆ ร้านขายขนมก็เกิดไฟไหม้ โชคดีที่ควนหนูทิ้งคนเอาไว้ก่อนแล้ว มองเห็นควันหนาทึบพวยพุ่งออกมาจากในร้านก็หาน้ำดับไฟได้ทันท่วงที ตอนนั้นสองสามีภรรยาเจ้าของร้านกับผู้ช่วยในร้านหลับสนิทไปแล้ว จึงหวุดหวิดจะฝังร่างในทะเลเพลิง
การตรวจสอบต่อเนื่องไปถึงช่วงพลบค่ำ บ้านของเอ้อจีกับร้านขายขนมแป้งม้วนยัดไส้ถูกลิ่นเฉิงโย่วรื้อค้นทุกซอกทุกมุมแล้วก็ยังหาหลักฐานที่เป็นประโยชน์ไม่เจอสักชิ้น กลับบังเอิญได้เบาะแสสำคัญอย่างหนึ่งตอนสอบสวนผู้ช่วยร้านขายขนม
ผู้ช่วยในร้านรอดพ้นความตายมาได้ ในใจยังรู้สึกหวาดผวาไม่หาย เมื่อถูกถามว่าในร้านมีลูกค้าประจำคนใดบ้าง จึงคิดถึงว่าเมื่อวานตอนเช้ามีลูกค้าประจำมาซื้อขนมผู้หนึ่ง
พวกเขาไม่รู้ภูมิหลังของลูกค้าประจำผู้นั้น รู้เพียงว่าอายุประมาณสี่สิบกว่าปี เสื้อผ้าอาภรณ์สะอาดสะอ้าน กิริยาท่าทางสุภาพเรียบร้อย มีไฝขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลืองเม็ดหนึ่งตรงปีกจมูกด้านซ้าย บนไฝยังมีขนสีขาวงอกออกมาด้วย เมื่อก่อนคนผู้นี้จะมาซื้อขนมแป้งม้วนยัดไส้อยู่บ่อยๆ ตอนเอ้อจีมาถึงเขาเพิ่งเดินจากไป คนทั้งสองไม่เคยทักทายกันและกัน เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รู้จักกัน