ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 3-4 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 3-4

“ฮูหยิน จู่ๆ ข้าก็รู้สึกปวดหัวคลื่นไส้ คิดว่าคงแปดเปื้อนพลังชั่วร้ายจากปีศาจนั่นมาด้วย ไม่รู้ว่ากินยานี้แล้วจะได้ผลหรือไม่”

“แน่นอนว่าย่อมได้ผล”

ตู้ฮูหยินเพิ่งเรียกสติกลับคืนมาได้ นางรีบเดินปรี่เข้ามาสังเกตสีหน้าเถิงอวี้อี้ “อวี้เอ๋อร์?”

เถิงอวี้อี้ปลอบโยนนาง “ท่านป้าไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้ากินยาเดี๋ยวก็หายแล้ว”

นางพยายามบิดเปิดขวดยา ก่อนจะกล่าวอย่างหมดหนทาง “ข้าเปิดขวดใบนี้ไม่ได้ ฮูหยินโปรดช่วยข้าได้หรือไม่เจ้าคะ”

“เรื่องแค่นี้มีอะไรยากกัน ส่งขวดมาให้ข้าก็จบแล้ว”

เถิงอวี้อี้ทำทีชี้แขนขวาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อมาตลอดของฮูหยินอันกั๋วกง “ฮูหยิน ตั้งแต่เข้าเขตเรือนมาก็ไม่เห็นท่านยกมือข้างนี้ขึ้นมาเลย หรือว่าจะได้รับบาดเจ็บ”

ฮูหยินอันกั๋วกงพลันโกรธจัดจนหน้าเปลี่ยนสี

เถิงอวี้อี้ขันอาสาด้วยความจริงใจอย่างยิ่ง “ข้ากับท่านพ่อเคยเรียนวิธีนวดคลายเส้นจากชาวหูมาบ้าง หากฮูหยินไม่รังเกียจ ข้าช่วยดูอาการให้ท่านได้นะเจ้าคะ” พอกล่าวจบก็เตรียมก้าวออกไป

ใบหน้าตึงเครียดของฮูหยินอันกั๋วกงคลี่ยิ้มบางๆ “ไม่ต้องรบกวนคุณหนูเถิงหรอก แขนคงเคล็ดตอนร่วมการละเล่นวงสุราในงานเลี้ยง ก็เลยออกแรงไม่ค่อยได้ เป็นเช่นนี้ประจำอยู่แล้ว นอนพักสักครู่คงหาย”

เถิงอวี้อี้จ้องมองฮูหยินอันกั๋วกงอย่างเงียบงันก่อนเอ่ยว่า “ฮูหยินฝีมือบรรเลงฉินเป็นเลิศร่ำลือไปถึงลั่วหยาง ไม่ว่าขลุ่ยปี้ลี่ หรือพิณคงโหวล้วนเก่งกาจ คิดว่าจะต้องรักถนอมมือคู่นี้ยิ่งกว่าคนทั่วไป เหตุใดบาดเจ็บแล้วไม่ตามหมอมาตรวจอาการเล่าเจ้าคะ”

ตู้ฮูหยินตะลึงงันไปทันใด ส่วนคนอื่นๆ ต่างเผยสีหน้าสับสนเช่นกัน

ฮูหยินอันกั๋วกงเอียงศีรษะมองแขนขวาของตนเอง ริมฝีปากแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม “เจ้าว่าเป็นเพราะอะไรเล่า”

เถิงอวี้อี้กัดฟันถามต่อไป “เพราะข้าไม่เข้าใจนี่ล่ะเจ้าค่ะ ถึงต้องขอคำชี้แนะจากฮูหยิน”

ฮูหยินอันกั๋วกงกวักมือซ้ายเรียกนาง “มานี่สิ ข้าจะบอกเจ้าเองว่าเพราะเหตุใด”

เถิงอวี้อี้ชำเลืองมองไปทางประตูเรือน รู้สึกขนลุกชันเมื่อตระหนักได้ว่าอยู่ดีๆ เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วจากระเบียงทางเดินและศาลากลางน้ำข้างนอกอันตรธานหายไปแล้ว

บริเวณหน้าประตูเงียบสงัดราวหลุมศพรกร้าง สายลมไม่อาจพัดผ่านเข้ามาได้ เสียงจากข้างในก็ไม่อาจเล็ดลอดออกไปได้เช่นกัน

นางเหงื่อแตกพลั่กราวกับตากฝน นอกจากจะไม่ก้าวออกไปข้างหน้าแล้ว ยังแอบลูบคลำกระบี่หยกในแขนเสื้อเล่มนั้น

ฮูหยินอันกั๋วกงสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของเถิงอวี้อี้ จึงดึงร่างคุณหนูสูงศักดิ์ข้างกายผู้หนึ่งเอาไว้ ส่งยิ้มหวานหยดพลางสั่งว่า “ไปสิ เอาของที่อยู่ในแขนเสื้อนางมาให้ข้า”

ตอนแรกเด็กสาวยังสับสนงุนงง ทว่าต่อมากลับทำเหมือนคนนอนละเมอ พอนิ่งงันไปชั่วขณะก็เดินเข้าไปหาเถิงอวี้อี้ด้วยสีหน้าเลื่อนลอย การเคลื่อนไหวก็แข็งทื่อไปหมด ราวกับมีคนบังคับควบคุมอยู่เบื้องหลัง

เถิงอวี้อี้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รีบร้อนจะชักกระบี่ออกมา ไม่คาดคิดว่าไหล่ทั้งสองข้างจู่ๆ จะโดนพลังประหลาดน้ำหนักมหาศาลกดทับไว้ ตรึงร่างกายนางให้หยุดอยู่กับที่ หลังจากนั้นไม่ว่านางจะออกแรงสักเพียงใดฝักกระบี่ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลย

นางฝืนปั้นรอยยิ้มออกมา “ฮูหยิน นี่ท่านจะทำอะไรกัน”

ฮูหยินอันกั๋วกงจัดรอยยับบนผ้าคลุมไหล่ปักลายสีเทาดุจควันตรงข้อพับแขนพลางเอ่ยถามด้วยท่าทางผ่อนคลายสบายใจ “คุณหนูเถิง ประโยคนี้ข้าควรเป็นฝ่ายถามมากกว่า ในแขนเสื้อเจ้าซุกซ่อนอะไรไว้”

เถิงอวี้อี้มองสำรวจไปทั่วบริเวณ เวินกงกงกับท่านป้าอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ทว่าสายตาของพวกเขาล้วนว่างเปล่าและไร้สติสัมปชัญญะ นางหัวเราะเย้ยหยัน “ปีศาจในป่าไล่ตามมาแล้ว ข้าอยากจะตัดกรงเล็บซ้ายของมันออกมาอีกข้างด้วย”

ฮูหยินอันกั๋วกงราวกับโดนคนตบหน้าฉาดใหญ่ แววตาอันดุร้ายมีไฟลุกโชนอย่างรวดเร็ว

ผู้ดูแลหญิงสกุลต่งอยู่ห่างออกไปจึงมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ชัดเจน ได้แต่ร้อนใจว่ารออยู่นานปานนี้แล้วยังไม่ได้ยาช่วยชีวิตมาเสียที ฮูหยินอันกั๋วกงมีน้ำใจมอบยาให้ คุณหนูเถิงกลับขัดขวางไว้อย่างไร้เหตุผล

นางกระทืบเท้าอย่างขัดใจ “คุณหนูเถิง ฮูหยินอันกั๋วกงหวังดีถึงเพียงนี้ ท่านไม่รับน้ำใจก็ช่างเถอะ ไยต้องพูดจาเสียมารยาทเช่นนั้นด้วย”

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงคนผู้หนึ่งหัวเราะเยาะพลางเอ่ยว่า “เพราะว่านางไม่โง่งมน่ะสิ”

สุ้มเสียงนั้นยังไม่ทันจางหาย ก็มีบางสิ่งถูกยิงลอยมาบนท้องฟ้าเหนือเรือนที่พัก มันรวดเร็วดุจประกายไฟและคล้ายคลึงกับลูกธนู ทะลวงผ่านสีสันอันมืดมิดยามค่ำคืน พุ่งเข้าใส่หน้าผากฮูหยินอันกั๋วกงอย่างแรง

คราแรกฮูหยินอันกั๋วกงสะดุ้งตกใจ แต่แล้วบนใบหน้าพลันฉายแววดูแคลน รอจนกระทั่งสิ่งนั้นเข้าประชิดตัว นางก็หัวเราะเสียงยั่วยวนก่อนสะบัดผ้าคลุมไหล่ปัดสิ่งนั้นร่วงหล่นโดยไม่เปลืองแรงแม้เพียงนิด

เถิงอวี้อี้รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง คนผู้นั้นเปิดตัวเสียองอาจ ใครจะคิดว่าพลังอ่อนแอเช่นนี้ เดิมทีนึกว่านักพรตชิงซวีจื่อมาถึงแล้ว ดูท่าคงจะเป็นผู้อื่นเสียมากกว่า

นางแอบมองปราดไปด้านข้าง เห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงกำแพงเรือนใต้แสงจันทร์สุกสกาว กิริยาเรื่อยเฉื่อยไม่สะทกสะท้าน ดูไม่คล้ายคนที่เพิ่งเจออุปสรรคเลยจริงๆ

ฮูหยินอันกั๋วกงยกแขนเสื้อปิดบังรอยยิ้ม “ข้าก็คิดว่าอาวุธวิเศษร้ายกาจอะไร ที่แท้ก็ลูกจีจวี ได้ยินท่านกั๋วกงพูดถึงบ่อยๆ ว่าซื่อจื่อชอบเล่นเป็นพิเศษ ส่งสิ่งนี้มาให้เพราะอยากจะเล่นเป็นเพื่อนข้าหรือ”

เด็กหนุ่มผู้นั้นเดินเหยียบแสงจันทร์ตรงมา ริมฝีปากแย้มยิ้มถามกลับ “เจ้าคู่ควรรึ”

ดวงตาฮูหยินอันกั๋วกงเป็นประกายฉ่ำวาว “ซื่อจื่อมาโดยไม่ได้รับเชิญ นับว่ามีความกล้าเกินคนธรรมดา น่าเสียดายฝีมือย่ำแย่ โยนมาครั้งเดียวก็ตกอยู่ในเงื้อมมือข้าแล้ว จะคู่ควรไม่คู่ควร มิใช่ข้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์พูดหรือ”

เด็กหนุ่มหัวเราะเยาะเย้ยคำพูดของนาง

ฮูหยินอันกั๋วกงหลุบตาลงกวาดมองปลายเท้า ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปทันที นางมองเห็นลูกจีจวีที่ไม่สะดุดตาพลันแตกออกเป็นสองส่วน ชั่วอึดใจเดียวก็มีหนอนสีดำแดงตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากข้างใน

เจ้าหนอนพุ่งเข้าหารองเท้าหัวเชิดสีสดสวยดั่งเมฆต้องแสงอาทิตย์ของนาง มันบิดตัวไปมาเล็กน้อยแล้วคลานต้วมเตี้ยมวนรอบเท้า

ฮูหยินอันกั๋วกงมีสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ กระบวนท่านี้นางไม่ทันระวังป้องกัน หากโจมตีจากกลางอากาศนางคงกระโดดออกนอกเรือนได้สบายๆ ไปแล้ว ไม่คาดคิดว่าคนผู้นี้จะร้ายกาจเหลือเชื่อ ใช้อาคมพรางตาล่อลวงนางก่อน

จะหนีตอนนี้คงไม่ทันกาล นางขยับถอยหลังแล้วกระโดดหลบอย่างชิงชัง

ทว่าจนใจที่เจ้าหนอนตัวนั้นราวกับมีสติปัญญา นางกระโดดขึ้นไปหนึ่งชุ่น หนอนก็ไต่ตามขึ้นมาหนึ่งชุ่น พอถอยหลังไปหนึ่งชุ่น หนอนก็โน้มตัวมาข้างหน้าหนึ่งชุ่น ค่อยๆ ยืดตัวยาวและขยายใหญ่ขึ้นทุกที ก่อนจะกลายเป็นโซ่เหล็กเส้นหนึ่งมัดนางไว้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“สนุกหรือไม่เล่า” เด็กหนุ่มมีน้ำเสียงไพเราะเสนาะหู แต่เสียงหัวเราะสะท้อนความเย้ยหยันเต็มเปี่ยม

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com