ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 35 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 35

เหล่านักพรตวิ่งกรูกันเข้าไปห้อมล้อมข้างกายลิ่นเฉิงโย่ว มองดูไปพลางส่งเสียงอุทานแสดงความประหลาดใจ “เป็นรากวิญญาณหยกเพลิงจริงๆ ด้วย ‘สระหยกน้ำใสหลั่งไหลสู่รากวิญญาณ’ แต่ไหนแต่ไรมาเคยเห็นชื่อนี้แค่ใน ‘คัมภีร์เหวินชิงอวี้ซ่าน’ วันนี้นับว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ว่ากันว่าในอดีตท่านเยี่ยนหมิงนำของสิ่งนี้กลับมาจากแคว้นผอหลัว ใช้อาคมเต๋าเพาะปลูก ผ่านร้อนผ่านหนาวกว่าร่วมสิบปีถึงจะแตกกิ่งออกมาสักกิ่ง ดื่มน้ำแกงจากมันแล้วไม่เพียงช่วยขจัดโรคภัยยืดอายุขัย ยังมีสรรพคุณช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายด้วย”

เจี้ยนเทียนกวักมือเรียกเถิงอวี้อี้อย่างยินดีปรีดา “คุณชายหวังมานี่เร็วเข้า รู้อยู่ว่าท่านถือกำเนิดในตระกูลขุนนางใหญ่ ที่ผ่านมาคงเคยพบเห็นอะไรมาไม่น้อย แต่ข้ากล้าพนันได้เลยว่าท่านไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนอย่างแน่นอน”

เถิงอวี้อี้เดินเข้าไปพินิจพิจารณาโดยละเอียด มองเห็นว่ากลางฝ่ามือข้างขวาของลิ่นเฉิงโย่วถือของสิ่งหนึ่งมีรูปร่างคล้ายร่มเห็ดขนาดใหญ่ มองแวบแรกดูเหมือนเห็ดหลิงจือ แต่ของสิ่งนี้แยกออกเป็นสองสีอย่างชัดเจน หมวกเห็ดด้านบนสีเข้มดุจเปลวเพลิง ส่วนก้านด้านล่างกลับเปล่งประกายเย็นเยียบดั่งหยกขาว สีแดงกับสีขาวต่างขับเน้นความโดดเด่นของอีกฝ่าย ราวกับน้ำแข็งและเปลวเพลิงหลอมรวมอยู่ด้วยกัน

เจวี๋ยเซิ่งกับชี่จื้อลูบศีรษะเบาๆ “ที่แท้ศิษย์พี่เพิ่งไปเอาเจ้าสิ่งนี้มานี่เอง พอกินมันเข้าไปแล้วจะช่วยให้รับมือมารผีดิบง่ายขึ้นบ้างใช่หรือไม่ขอรับ”

ลิ่นเฉิงโย่วเอ่ยตอบ “ไม่ได้น่าอัศจรรย์ปานนั้น แต่ก็มีสรรพคุณช่วยปกป้องคุ้มครองอยู่ ดื่มน้ำแกงของมันแล้วชีพจรหัวใจจะได้รับการปกป้องจากฤทธิ์ยา ต่อให้โดนปีศาจทำร้ายบาดเจ็บ ก็จะโชคดีรอดตายมาได้ แต่น่าเสียดายยาออกฤทธิ์สั้นเหลือเกิน อย่างมากที่สุดคงอยู่ได้เพียงสามวันเท่านั้น”

“สามวันเพียงพอแล้ว” เหล่านักพรตดีใจจนเนื้อเต้น ไหนเลยจะคิดมากถึงเพียงนั้น “หลายปีมานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมากเท่าใดออกตามหารากวิญญาณหยกเพลิง น่าเสียดายเนื้อหาในคัมภีร์เล่มนั้นหายสาบสูญไปครึ่งหนึ่ง คนทั่วหล้าทั้งไม่รู้ว่ามันถูกปลูกเอาไว้ที่ใด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะต้องกินเข้าไปอย่างไร มาวันนี้เข้าใจทุกอย่างแล้ว ที่แท้เอามาต้มน้ำแกงดื่มนี่เอง ซื่อจื่อ ของหายากระดับนี้ท่านไปได้มาจากที่ใดหรือ”

พอกล่าวจบแล้วถึงรู้สึกว่าประโยคนี้ไม่จำเป็นต้องถามเลย สมุนไพรล้ำค่าระดับนี้จะหาพบข้างนอกได้อย่างไร คาดว่าคงไปเอามาจากในวังหลวง จะว่าไปแล้วด้วยนิสัยดื้อรั้นเกเรไม่มีใครเทียมของลิ่นเฉิงโย่ว ตราบใดที่เขาตั้งใจตามหา ไม่ว่าจะสมุนไพรเซียนที่ลอยล่องบนฟ้า หลบซ่อนอยู่บนพื้นดิน งอกงามอยู่ในภูเขาลึก หรืออยู่กับมังกรสีชาดที่อยู่ใต้น้ำ ก็ไม่มีสิ่งใดที่เขาจะหามาไม่ได้

ลิ่นเฉิงโย่วเอ่ยว่า “ปีศาจสองตนนี้ซุ่มเงียบมาสองวันเต็มแล้ว ทั้งในเมืองและนอกเมืองไร้ความเคลื่อนไหว เรื่องนี้ผิดปกติอย่างยิ่ง คำนวณวันที่ออกจากค่ายกลดู อย่างช้าที่สุดภายในสองวันนี้พวกมันจะต้องออกมาก่อความวุ่นวาย เพื่อป้องกันไม่ให้มีอะไรผิดพลาดข้าจึงสั่งคนให้ไปเอาเจ้าสิ่งนี้มาโดยเฉพาะ ชี่จื้อ เอาไปที่ห้องครัวเถอะ”

เหล่านักพรตดีใจเป็นล้นพ้น “ดีๆๆ ใครจะคิดว่าตอนยังมีชีวิตอยู่จะได้กินน้ำแกงเคี่ยวจากรากวิญญาณหยกเพลิงสักครั้งหนึ่ง”

ชี่จื้อถือรากวิญญาณหยกเพลิงจากไปอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ ทุกคนช่วยกันเก็บกวาดศาลเจ้าเล็กๆ แห่งนี้ ไม่นานนักก็ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนใหญ่เสร็จเรียบร้อย เพียงแต่ทางห้องครัวปรุงอาหารชักช้ายิ่ง รอจนกระทั่งบรรดาสาวใช้จัดวางชามตะเกียบเสร็จและกลับออกไปแล้วอาหารก็ยังไม่ยกมาตั้งโต๊ะ

ทุกคนเดินอ้อมโต๊ะน้ำชามานั่งประจำที่ ลำดับที่นั่งก็ไม่มีการแบ่งแยกยศศักดิ์ ลุงเฉิงกับฮั่วชิวพยายามปฏิเสธสุดกำลัง แต่จนใจที่ห้านักพรตยืนกรานลากพวกเขามานั่งด้วยให้ได้ พอเห็นว่าลิ่นเฉิงโย่วกับเถิงอวี้อี้ไม่มีความเห็นเป็นอื่น ก็เลยต้องตอบรับคำเชิญนั่งร่วมโต๊ะ

เมื่อเป็นเช่นนี้บรรยากาศภายในศาลเจ้าจึงสนุกสนานครื้นเครง เนื่องจากประตูหน้าต่างเปิดกว้าง พอเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นสวนท่ามกลางความมืดยามราตรี สายลมโชยแผ่วโอบล้อม จันทร์เต็มดวงขมุกขมัว ทิวทัศน์มีเสน่ห์น่ารื่นรมย์

เจี้ยนเล่อจิบสุราหลงเกาอย่างอิ่มเอมพลางกล่าว “คุณชายหวัง วิธีจัดการมารผีดิบที่ท่านพูดถึงนั้นคืออะไรกัน ในใจข้าอึดอัดเหมือนโดนแมวข่วน ท่านก็อย่าเก็บเงียบไว้ผู้เดียวเลย รีบเล่าให้พวกเราฟังเถอะ”

เถิงอวี้อี้เอ่ยยิ้มๆ “ในอดีตเมื่อครั้งราชาผีดิบในแคว้นหนานจ้าวออกอาละวาด ผู้ที่กำราบมันได้ไม่ใช่ภิกษุนักบวช แต่เป็นพลทหารในค่าย วิธีการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาเต๋า จะว่าไปช่างธรรมดาสามัญนัก”

“วิธีธรรมดาสามัญ ทั้งยังไม่เกี่ยวข้องกับวิชาเต๋า?” น้ำเสียงลิ่นเฉิงโย่วฉายแววเยาะหยัน “คุณชายหวังคงจะไม่บอกว่าพวกเขาถอนเขี้ยวคู่นั้นของมันกระมัง”

เถิงอวี้อี้คลี่ยิ้มบางๆ “ใช่แล้ว มารผีดิบเจาะจงบุกค่ายทหาร แต่ละคืนเข่นฆ่าทหารไปร่วมสิบนาย ภายหลังมีหมอผีเสนอแผนการรับมือ ท่านแม่ทัพจึงสั่งคนให้หาสายพิณแหลมคมมาสองเส้นมาผูกเป็นบ่วง ทางหนึ่งคล้องกับเขี้ยวราชาผีดิบไว้ ส่วนอีกด้านให้เหล่าทหารกล้าร่วมกันออกแรงกระชากเขี้ยวคู่นั้นหลุดออกมา”

ลิ่นเฉิงโย่วสีหน้าแปลกพิกล เหล่านักพรตก็ตกตะลึงพูดไม่ออก

เถิงอวี้อี้กวาดสายตามองจากซ้ายไปขวารอบหนึ่ง ความคลางแคลงผุดขึ้นมาในใจ “เรื่องนี้มีอะไรไม่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ”

ลิ่นเฉิงโย่วยิ้มเยาะ “คุณชายหวัง เรื่องนี้ท่านไปได้ยินมาจากที่ใดกัน”

เถิงอวี้อี้กะพริบตาปริบๆ ลุงเฉิงเป็นคนสุขุมรอบคอบมาตลอด ไม่มีทางพูดโกหกกับเรื่องเช่นนี้เด็ดขาด แต่เพราะเหตุใดแววตาพวกลิ่นเฉิงโย่วจึงแปลกไปเช่นนี้

“เรียนซื่อจื่อ” ลุงเฉิงเป็นฝ่ายลุกขึ้นคำนับ “เรื่องนี้ข้าน้อยเป็นคนเล่าให้คุณชายฟังเอง ตอนนั้นข้าน้อยมีสหายเก่าผู้หนึ่งชื่อถานซวิน หลายปีก่อนเคยติดตามกองทัพไปประจำการชายแดนแถบแคว้นหนานจ้าวระยะหนึ่ง ข่าวลือเกี่ยวกับราชาผีดิบเขาก็เล่าให้ข้าน้อยฟังหลังกลับมาฉางอันแล้ว ตามที่ถานซวินเล่ามาหลังราชาผีดิบโดนถอนเขี้ยวแล้วร่างสลายกลายเป็นน้ำหนองกองหนึ่งทันที หลังจากนั้นไม่มีมารผีดิบออกอาละวาดอีกเลย คำพูดของเขาหนักแน่นน่าเชื่อถือ กล่าวว่าตนเองเห็นมากับตา แต่ข้าน้อยไม่เคยสืบหารายละเอียด เรื่องนี้ผ่านไปกว่าสิบปีแล้ว วันนี้ได้ยินทุกท่านเอ่ยถึงเขี้ยวของมารผีดิบข้าน้อยถึงนึกมาได้ว่าเคยมีเรื่องเช่นนี้อยู่ด้วย”

ลิ่นเฉิงโย่วกับเหล่านักพรตสบตากันแวบหนึ่ง บนโต๊ะอาหารเงียบเสียงลงอย่างประหลาด

เถิงอวี้อี้เอ่ยถามด้วยความสงสัย “มีตรงที่ใดผิดปกติหรือ”

ลิ่นเฉิงโย่วยิ้มเย้ยหยัน “เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้”

ลุงเฉิงสีหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย “ซื่อจื่อ ทุกคำที่ข้าน้อยพูดมาเป็นความจริงทั้งสิ้น…”

ลิ่นเฉิงโย่วอธิบายด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าไม่ใช่จะสงสัยว่าเจ้าโกหก แต่ไม่ว่ามารผีดิบหรือราชาผีดิบ เขี้ยวเป็นจุดสำคัญของพวกมันทั้งนั้น เมื่อใดโดนถอนออกไปก็จะสลายกลายเป็นน้ำหนองกองหนึ่งอย่างที่เจ้าว่า เพื่อรักษาชีวิตตนเองเอาไว้พวกมันจึงฝึกฝนให้เขี้ยวคู่นั้นแข็งแกร่งดั่งก้อนหิน ไม่ว่าจะไฟเผา มีดฟัน สายฟ้าฟาด เชือกดึง ก็สร้างความเสียหายให้มันไม่ได้เลย คนรุ่นก่อนก็เคยลองใช้เหล็กหลอมเป็นเชือกเส้นบางๆ มาถอนเขี้ยว สุดท้ายก็พ่ายแพ้ยับเยิน ดังนั้นเรื่องที่คนชื่อถานซวินนั่นเล่ามา บอกว่าใช้สายพิณสองเส้นก็สามารถถอนเขี้ยวของราชาผีดิบได้จึงไม่น่าเชื่อถือเลยจริงๆ อย่าว่าแต่วิธีที่ว่าจนทุกวันนี้ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จเลย สายพิณเดิมทีก็ขาดง่ายอยู่แล้ว จะใช้ดึงสิ่งที่แข็งแกร่งระดับนี้ได้อย่างไร”

เถิงอวี้อี้หัวใจเต้นโครมครามขึ้นมาโดยพลัน จู่ๆ ก็นึกถึงเส้นไหมในมือคนประหลาดที่ฆ่านางในชาติก่อนได้ มองดูว่าบางเฉียบถึงเพียงนั้น กลับสามารถเฉือนหนังตัดกระดูกได้ เพียงแต่อย่างหนึ่งเป็นเส้นไหม อีกอย่างหนึ่งเป็นสายพิณ

“ข้าว่าเจ้าคนแซ่ถานนั่นพูดโกหกแน่ๆ” เจี้ยนเล่อกล่าวด้วยความไม่พอใจ “อิทธิฤทธิ์ราชาผีดิบห่างชั้นกับมารผีดิบอยู่นะ ไม่แน่ว่าชาวหนานจ้าวอาจใช้วิธีอะไรสักอย่างปราบมันแล้วผู้คนในท้องที่แถวนั้นกลับเอาไปเล่าลือกันปากต่อปากแบบผิดๆ จนกลายเป็นเรื่องเหลวไหลเกินจริง”

“เป็นเรื่องเหลวไหลเกินจริงหรือไม่ ตามหาถานซวินผู้นี้ให้เจอก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ” ลิ่นเฉิงโย่วหันไปมองลุงเฉิง “พ่อบ้านเฉิง ตอนนี้เขายังอยู่ในฉางอันหรือไม่”

ลุงเฉิงตอบอย่างเยือกเย็น “ข้าน้อยก็ไม่ทราบ ได้ยินว่าไม่กี่ปีก่อนถานซวินลาออกจากตำแหน่งกลับไปพักผ่อนอยู่บ้านเพราะอาการบาดเจ็บที่เอว อาศัยอยู่ที่อันเต๋อฟางทางทิศใต้ของฉางอันมาตลอด แต่ข้าน้อยไม่ได้ไปมาหาสู่กับเขานานแล้ว จึงไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

“ข้าจะให้คนไปสืบข่าวดู หากเขายังอยู่ในฉางอัน อีกสองวันก็คงได้ข่าวแล้ว”

ลิ่นเฉิงโย่วชำเลืองมองเถิงอวี้อี้ นางท่าทางผิดปกติมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว สีหน้าซีดขาวเห็นได้ชัดว่ามีเรื่องในใจ “คุณชายหวัง?”

เถิงอวี้อี้ยกแขนเสื้อบังแล้วจิบสุราคำหนึ่ง คลี่ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ประเด็นที่ไม่สมเหตุผลที่สุดของเรื่องนี้ก็คือสายพิณคู่นั้น แต่หากบนโลกนี้มีอาวุธที่คมกริบปานนี้จริงเล่า ถึงแม้จะบางเฉียบดั่งสายฝนก็สามารถเฉือนหนังตัดกระดูกได้ มีความยืดหยุ่นบิดเป็นเกลียว และแน่นเหนียวไม่ด้อยไปกว่าของวิเศษ ไยไม่ลองสืบหาที่มาที่ไปของ ‘สายพิณ’ ที่ว่านี้ดูสักหน่อย หากสืบหาพบว่ามีอยู่จริง ยังต้องกังวลว่าจะไม่มีวิธีรับมือมารผีดิบอีกหรือ”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 87-88

    By

    บทที่ 87 ข้อห้าม กู้หมิงเค่อถูกหลี่เจาเกอยั่วโมโหจากไปแล้ว นางอมยิ้มรับช่วงหลักฐาน เอ่ยกับผู้ใต้บัญชาที่ติดตามนางมา “จงขนสิ่งเหล่านี้กลับกอง...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่าดำออกจากหมู่บ้านมาก็...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ่า เงาดำสายหนึ่งพลัน...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทที่ 2.4-2.6

    By

    บทที่ 2-4 สามีภรรยาปลอม   6   บนหอทองล่วงเข้ากลางคืนแล้ว รอบด้านล้วนจุดโคมไฟ เปลวไฟลุกโชติช่วง ในมุมที่ซย่าชิงยวนนั่งอยู่นางสามารถมองเห็นสัน...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเร้น ภายใต้ผืนนภาราตร...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทที่ 2.1-2.3

    By

    บทที่ 2-1 สามีภรรยาปลอม   1   เมื่อลู่หย่วนเดินมาถึงหน้าประตูก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ผลักประตูเปิดออก สิ่งที่ทำให้เขาสติหลุดล...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญู เบื้องหน้าท้องพระโ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com