ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 59
ทุกคนพลันสะดุ้งโหยง
ตู้ถิงหลันครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จึงกล่าวอย่างอกสั่นขวัญแขวนว่า “คุณชายหูพูดออกมาว่า ‘พวกเจ้า’ หากนี่เป็นประโยคสุดท้ายที่เขาตะโกนออกมาก่อนจะเกิดเรื่อง คนที่คุณชายหูมองเห็นตอนนั้นจะมีมากกว่าหนึ่งคนหรือไม่”
เจวี๋ยเซิ่งเรียกสติกลับมาได้ “จริงด้วย ไม่อย่างนั้นไม่มีทางพูดว่า ‘พวกเจ้า’ หากหนึ่งในนั้นคือหลูจ้าวอัน แล้วอีกคนเป็นใครกัน”
เถิงอวี้อี้ปรายตามองกลีบดอกมะลิในถ้วยน้ำชา เรื่องนี้น่าสนใจไม่เบา น้ำบ่อนี้ของหลูจ้าวอันดูท่าจะลึกยิ่งกว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้เสียอีก การตายของญาติผู้พี่ในชาติก่อน โรคประหลาดของคุณชายหูในชาตินี้ จุดเชื่อมโย่งสลับซับซ้อน หมอกปริศนาบดบัง ยิ่งสืบสาวต่อยิ่งพบเรื่องชวนตระหนกตกใจ หากคุณชายหูถูกหลูจ้าวอันทำร้ายจริง แล้วคนที่อยู่กับเขาในตอนนั้นเป็นใครกันเล่า เหตุการณ์ที่คุณชายหูพบเจอเข้าจนทำให้คนเกิดความคิดชั่วแล่นหมายสังหารทันทีจะต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน
“ต้องรีบบอกให้ศิษย์พี่ของพวกท่านรู้” เถิงอวี้อี้วางถ้วยน้ำชาลงแล้วกล่าวขึ้น “เซ่าถัง เจ้าก็ไปด้วย เรื่องนี้มีความสำคัญใหญ่หลวง เจ้าต้องเล่าสิ่งที่พบเห็นในจวนสกุลหูเมื่อวานนี้ให้ลิ่นเฉิงโย่วฟังอย่างไม่มีตกหล่น”
ชี่จื้อรู้สึกสองจิตสองใจ “แต่วันนี้ศิษย์พี่ยุ่งอยู่กับการสืบคดีสตรีที่ตั้งครรภ์สองสามคดีนั้น พวกเราไม่แน่ว่าจะได้พบหน้าเขาหรือไม่น่ะสิ”
“อย่างนั้นก็รออยู่นอกศาลต้าหลี่” เถิงอวี้อี้ขบคิดในใจ จะปล่อยให้หลูจ้าวอันรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าตู้เซ่าถังกำลังสืบเรื่องของเขาอยู่ ดังนั้นนางจึงบอกกับตู้เซ่าถังว่า “ข้าจะให้ลุงเฉิงแปลงโฉมให้เจ้าก่อน ฮั่วชิวก็ด้วยนะ”
เรื่องนี้มัวรอช้าไม่ได้ สามพี่น้องกลับไปที่เรือนชั้นใน ลุงเฉิงหยิบหนวดปลอมหลายชิ้นจากคลังเก็บของมาช่วยตู้เซ่าถังแปลงโฉม เขามีความเชี่ยวชาญวิชาแขนงนี้มาแต่เดิม เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งถ้วยชาก็เปลี่ยนแปลงใบหน้าของตู้เซ่าถังไปได้แล้ว
หลังจัดการเสร็จเรียบร้อยเถิงอวี้อี้กับตู้ถิงหลันก็เดินวนเวียนรอบตู้เซ่าถัง ก่อนส่งเสียงจิ๊จ๊ะชื่นชมอย่างอัศจรรย์ใจ ตู้เซ่าถังเองก็ตกตะลึงตาค้างเช่นกัน ฝีมือของลุงเฉิงเรียกได้ว่าแนบเนียนไร้ที่ติ คราวนี้เกรงว่าต่อให้มารดาอยู่ในที่นี้ก็คงจำเขาไม่ได้แล้ว
ฮั่วชิวมีความรู้วิชาแปลงโฉมเช่นกัน เมื่อพวกเถิงอวี้อี้สามคนเดินออกมา เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเองเสร็จเรียบร้อย
พวกเขาไปรวมตัวกับเจวี๋ยเซิ่งและชี่จื้อที่ห้องโถงบุปผา แล้วมุ่งหน้าออกจากจวนไปพร้อมกัน
ตอนกำลังเดินไปเถิงอวี้อี้สั่งกำชับตู้เซ่าถัง “ต่อหน้าคนอื่นบอกว่าตนเองแซ่ถังก็พอแล้ว”
ตู้เซ่าถังพยักหน้ารับรู้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีส่วนร่วมกับ ‘เรื่องใหญ่โต’ ถึงเพียงนี้ ในใจบอกไม่ถูกว่ากำลังตื่นเต้นหรือหวาดกลัว เพราะก้าวเดินฉับๆ รวดเร็วไป จนเกือบจะสะดุดเท้าหกล้ม
เจวี๋ยเซิ่งกับชี่จื้อรีบเข้ามาพยุงตู้เซ่าถัง “คุณชาย…คุณชายถัง”
เถิงอวี้อี้ดึงตัวตู้เซ่าถังหลบออกมา ก่อนลดเสียงลงเอ่ยว่า “แค่ไปศาลต้าหลี่สักครั้งหนึ่ง ไยต้องลนลานถึงเพียงนี้ จำเอาไว้ เจ้าเป็นบุรุษ อยู่ข้างนอกไม่ว่าพบเจอเรื่องใดจะต้องไม่ตื่นตกใจจนผิดพลาดเสียเอง”
ตู้เซ่าถังมองเจวี๋ยเซิ่งกับชี่จื้อที่อยู่ห่างไปไม่ไกลอย่างละอายใจ นักพรตน้อยสองคนนี้อายุน้อยกว่าเขาสองสามปีกลับยืนหยัดเผชิญหน้าเพียงลำพังได้แล้ว
พี่อวี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย…
เขารีบจัดหมวกผ้าบนศีรษะให้เข้าที่ “พี่อวี้วางใจได้ ข้ารู้ว่าจะต้องทำเช่นไร”
เถิงอวี้อี้ทำหน้าบูดบึ้งเล็กน้อย มองเขาประเดี๋ยวหนึ่งถึงได้พยักหน้าตอบรับ
ก่อนก้าวออกจากประตูจวนตู้ถิงหลันยังสั่งกำชับน้องชายอีกหลายเรื่อง ส่วนเถิงอวี้อี้มองดูบ่าวไพร่ยกกล่องขนมที่นางเตรียมไว้ขึ้นรถม้าอารามชิงอวิ๋นไปทีละกล่อง ตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่ได้ตกหล่นกล่องใดไปถึงได้วางใจ
ตู้เซ่าถังกับเจวี๋ยเซิ่งและชี่จื้อเดินทางไปด้วยกัน ส่วนเถิงอวี้อี้กับตู้ถิงหลันนั่งรถม้าคันเดียวกัน
ระหว่างทางเมื่อรถม้าวิ่งผ่านจวนหลังหนึ่งเถิงอวี้อี้ได้ยินข้างนอกเสียงดังเอะอะ จึงมองลอดผ้าม่านรถออกไป ก็เห็นพลเฝ้าระวังกลุ่มหนึ่งเคาะประตูจวนหลังนั้น หัวหน้าพลเฝ้าระวังกลุ่มนี้สอบถามบ่าวไพร่ที่มาเปิดประตูว่า “ในจวนมีสตรีตั้งครรภ์หรือไม่ ไม่จำกัดว่าเป็นเจ้านายเท่านั้น บ่าวหญิงระดับล่างก็ต้องรายงานมา เรื่องนี้สำคัญใหญ่หลวง หากกล้าปิดบังเจ้าหน้าที่ทางการจะต้องรับโทษสถานหนัก!”
บ่าวเฝ้าประตูแตกตื่นตกใจ ตอบอย่างร้อนรนว่า “ฮูหยินบ้านข้าน้อยไม่ได้ตั้งครรภ์ ขอเชิญใต้เท้าทั้งหลายรอสักครู่ ข้าน้อยจะเข้าไปสอบถามดูว่ามีผู้ดูแลหญิงคนใดตั้งครรภ์บ้าง”
เถิงอวี้อี้เอ่ยขึ้นอย่างฉงนใจ “พวกเขากำลังตรวจสอบสตรีตั้งครรภ์ที่อยู่ในฉางอันตอนนี้น่ะหรือ”
ตู้ถิงหลันนิ่งอึ้ง “กลัวว่าคนร้ายจะลงมืออีกใช่หรือไม่ ดังนั้นจึงคิดจะป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า? เวลานี้ฉางอันสงบสุขรุ่งเรือง อย่างน้อยมีผู้คนอาศัยอยู่มากมายหลายแสนคน ตรวจสอบไปทีละบ้านทีละจวนอย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องตรวจสอบไปถึงเมื่อใดกัน”
เถิงอวี้อี้คิดทบทวน ลองเปลี่ยนเป็นคนอื่นอาจจะตรวจสอบไม่ไหว ทว่าหากเป็นความคิดของลิ่นเฉิงโย่วก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว ลิ่นเฉิงโย่วกราบทูลความถึงพระเนตรพระกรรณฮ่องเต้โดยตรงได้ นายอำเภอเมืองฉางอันกับนายอำเภอวั่นเหนียนสองแห่งต้องคิดถึงอนาคตอันสดใสของตนเอง ไม่กล้าปฏิเสธคำสั่งของเขาอยู่แล้ว แม้ราษฎรในเมืองฉางอันมีจำนวนมาก ทว่าครัวเรือนกลับมีจำนวนจำกัด ขอเพียงระดมกำลังคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อตรวจสอบทั่วทั้งเมือง ภายในไม่กี่วันก็สามารถสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างได้แล้ว
ถึงแม้จะคิดได้เช่นนี้แต่นางก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี อีกฝ่ายเพียรพยายามอย่างหนักเพื่อวางแผนใส่ร้ายจวงมู่ มาวันนี้จวงมู่ถูกจับกุมแล้ว เหตุใดลิ่นเฉิงโย่วถึงไม่ใช้แผนซ้อนแผนเล่า