ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 61
บทที่ 61
เถิงอวี้อี้กับตู้ถิงหลันยกชายกระโปรงเดินเข้าไปข้างใน ก็เห็นเสื้อผ้าอาภรณ์งามหรูหราเต็มห้องตามคาด เมื่อแยกแยะอย่างละเอียดแล้วพบว่าส่วนใหญ่เป็นใบหน้าที่คุ้นตาทั้งสิ้น
อู่ฉี่ชอบสวมกระโปรงสีแดงมาแต่ไหนแต่ไร วันนี้ยังสวมกระโปรงหรูฉวินทำจากผ้าแพรสีแดงทับทิม พอมองเห็นเถิงอวี้อี้กับตู้ถิงหลันสองคนเดินเข้ามา นางก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยเสียงหัวเราะสดใส “มาสายเช่นนี้ ควรจะลงโทษพวกเจ้าเสียดีหรือไม่”
นางทำอะไรล้วนร่าเริงมีชีวิตชีวา น้ำเสียงก็กังวานใส ตู้ถิงหลันกับเถิงอวี้อี้คารวะพร้อมกัน ก่อนยิ้มบางๆ ก่อนเอ่ยว่า “ควรสิ ลงโทษดื่มสุราหรือแต่งบทกวีก็ได้ ไม่กล้าบิดพลิ้วอย่างเด็ดขาด” จากนั้นก็หันไปหาทุกคน “รบกวนให้ทุกท่านคอยนานแล้ว”
เด็กสาวทั้งหลายทยอยส่งยิ้มแล้วคารวะตอบ
อู่ฉี่พาสองสาวพี่น้องเข้ามาหาทุกคนอย่างกระตือรือร้น “พวกเรากำลังปรึกษากันว่าจะชมดอกไม้หรือประชันบทกวีก่อนดี ตอนนี้เยี่ยมเลย พริบตาเดียวก็มีสตรีเปี่ยมพรสวรรค์มากันถึงสองคน ไม่อย่างนั้นพวกเรามาประชันบทกวีก่อนแล้วกัน พวกเจ้ามีความเห็นอย่างไร”
เถิงอวี้อี้กับตู้ถิงหลันเข้านั่งประจำที่ ตำแหน่งที่นั่งข้างเคียงคือหลี่ไหวกู้นั่นเอง
มวยผมคู่สีดำขลับของหลี่ไหวกู้เสียบหวีหยกเลี่ยมทองไว้ ตรงกลางหน้าผากติดชุ่ยเตี้ยน ที่ริมฝีปากแต้มชาดเป็นสีเดียวกับผลอิงเถาที่สดฉ่ำปานจะหยาดหยด ขับเน้นให้นางบอบบางดั่งบุปผานุ่มนวลดั่งหยก
นางคลี่ยิ้มน้อยๆ “อาอวี้ พี่หลัน”
เถิงอวี้อี้ยิ้มจนตาหยี “ซานเหนียง”
หลี่ไหวกู้มองสำรวจเถิงอวี้อี้ “เมื่อวานอยากชวนเจ้าออกมาเที่ยวเล่น แต่บ่าวไพร่ในจวนบอกว่าเจ้าไม่ค่อยสบายออกไปข้างนอกไม่ได้ ข้ายังนึกว่าผื่นลมบนหน้าเจ้ายังไม่หายดี วันนี้กลับดูดีขึ้นมากแล้วนะ”
ตู้ถิงหลันกระแอมกระไอเบาๆ ไม่ใช่น้องสาวออกไปที่ใดไม่ได้ แต่เพราะปลอมตัวเป็น ‘คุณชายหวัง’ ไปเดินเตร็ดเตร่แถวตลาดตะวันตกต่างหาก เมื่อวานตอนเทียบเชิญจากหลี่ไหวกู้ส่งมาถึงนางเป็นคนให้ลุงเฉิงตอบกลับไปเช่นนั้น
เถิงอวี้อี้แสร้งเผยสีหน้าประหลาดใจ “ที่แท้เจ้ามาชวนข้าออกไปเที่ยวนี่เอง เมื่อวานตอนเช้าข้าตื่นขึ้นมาแล้วคล้ายจะเป็นหวัดจึงต้องนอนพักอยู่บนเตียง กำลังสะลึมสะลือก็ได้ยินเสียงบ่าวไพร่เข้ามารายงาน ไม่ทันได้ตั้งใจฟังให้ดี รบกวนให้เจ้าต้องเป็นห่วงแล้ว หลังจากวันนั้นพอกินยาลูกกลอนหน้าหยก ผื่นลมบนหน้าก็ดีขึ้นแล้ว”
หลี่ไหวกู้แสดงสีหน้าห่วงใยเต็มเปี่ยม อยากจะพูดคุยต่อสักสองสามคำ อีกข้างหนึ่งของตู้ถิงหลันก็มีคนเอ่ยทักทาย “คุณหนูตู้ คุณหนูเถิง”
เถิงอวี้อี้หันหน้าไปมองตามเสียง “คุณหนูต้วน”
เด็กสาวผู้นี้ชื่อต้วนชิงอิง เป็นญาติผู้น้องของต้วนหนิงหย่วน นางมีนัยน์ตาหงส์ ผิวพรรณขาวสะอาด รูปลักษณ์สืบทอดความองอาจผึ่งผายของคนสกุลต้วน ใบหน้าจึงกว้างกว่าสตรีทั่วไปอยู่บ้าง แต่ไฝสีชาดเม็ดเล็กตรงหว่างคิ้วเม็ดนั้นช่วยเพิ่มความงามโดดเด่นให้กับเครื่องหน้าได้มากทีเดียว
เมื่อครั้งเยาว์วัยเถิงอวี้อี้เคยเห็นหน้าต้วนชิงอิงมาแล้วหลายครั้ง ในงานเลี้ยงวันเกิดพระสสุระหลิวครั้งที่ผ่านมาก็มาพบกันอีก เพียงเพราะสาเหตุเรื่องการถอนหมั้นระหว่างสกุลเถิงกับสกุลต้วน คนสกุลต้วนจึงไม่ปฏิบัติกับเถิงอวี้อี้อย่างมีน้ำใจไมตรีเหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะคนรุ่นเยาว์อย่างต้วนชิงอิง ก็พลันมีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างเลี่ยงไม่ได้
ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน แม้ต้วนชิงอิงจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากทักทายก่อน แต่รอยยิ้มกลับดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าใดนัก
ปกติแล้วตู้ถิงหลันเป็นคนอัธยาศัยดี แต่เรื่องการถอนหมั้นของทั้งสองตระกูล การกระทำของคนสกุลต้วนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์โดยแท้ เดิมทีในใจนางรู้สึกขุ่นเคืองอยู่แล้ว เห็นดังนั้นก็เพียงยิ้มบางๆ ตอบรับ
เถิงอวี้อี้กลับไม่สะทกสะท้านสักนิด นางคารวะตอบอย่างเฉยชา แล้วเบนสายตาไปมองทุกคนในห้องโถง
มีคุณหนูผู้หนึ่งเอ่ยถาม “คุณหนูรองอู่ วันนี้เหตุใดพี่สาวเจ้าไม่มาเล่า”
อู่ฉี่เอ่ยยิ้มๆ “วันนี้ที่จวนยุ่งอยู่กับเรื่องการหมั้นหมายระหว่างพี่สาวกับคุณชายใหญ่เจิ้ง ระยะนี้ไม่ยอมให้พี่สาวออกจากจวน งานชมดอกไม้เดิมทีพี่สาวจะเป็นเจ้าภาพ ครั้งนี้จำเป็นต้องให้ข้ามาแทนแล้ว ในเมื่อทุกคนยินดีประชันบทกวี อย่างนั้นก็เตรียมพู่กันกับหมึกเถอะ”
ในห้องโถงมีคนผู้หนึ่งไม่ใคร่พอใจ “ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับบทกวีสักอย่าง พวกเจ้าร่ายของพวกเจ้าไปสิ ข้าจะงีบหลับอยู่ข้างๆ”
ทุกคนหัวเราะกันอย่างครื้นเครง
เถิงอวี้อี้เหลียวมองไป ก็พบว่าเป็นหนึ่งในบุตรสาวฝาแฝดของเผิงเจิ้นคู่นั้น
เผิงฮวาเยวี่ยดึงตัวน้องสาวเอาไว้ ปิดปากเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “น้องสาวข้าเป็นคนพูดจาโผงผาง ทำให้ทุกคนตลกขบขันแล้ว แต่จิ่นซิ่วพูดคำนี้ไม่ผิดเลย หากเป็นการเตะลูกหนัง ไกวชิงช้า หรือเล่นจีจวี นางเชี่ยวชาญไปเสียทุกอย่าง เสียเพียงอย่างเดียวคือไม่ชอบเรียนหนังสือ จะให้นางจุ่มน้ำหมึกเขียนบทกวีลงกระดาษ กลัวว่าใช้เวลาทั้งวันก็เค้นออกมาไม่ได้แม้แต่ประโยคเดียว”
ฉับพลันนั้นมีคนหัวเราะพลางกล่าวสนับสนุน “วันนี้อากาศแจ่มใสยิ่งนัก ไยต้องมาทนอึดอัดอยู่ในห้องโถงอวิ๋นฮุ่ยเพื่อแต่งบทกวี ตามความเห็นข้าไม่สู้ออกไปชมดอกไม้ดีกว่า ในป่าดอกท้อยังมีชิงช้าอันหนึ่งด้วย ตอนชมดอกไม้จะถือโอกาสไกวชิงช้าไปด้วยก็ได้”
เด็กสาวทั้งหลายยินดีจะออกไปเดินข้างนอก ฉะนั้นจึงเอ่ยปากสนับสนุนเป็นเสียงเดียวกัน
อู่ฉี่ยิ้มแย้มพลางสั่งสาวใช้ให้จัดเตรียมขนม น้ำชา และผลไม้ จากนั้นค่อยเชื้อเชิญทุกคนย่างเท้าเดินไปทางป่าดอกท้อ