ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 7-8 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 7-8

ปีศาจเฒ่ารู้แก่ใจดีว่าไม่เกินสองครั้งตนเองจะต้องโดนบีบให้คืนร่างเดิมแน่ นางทนทรมานมานับร้อยปี จะยอมกลับไปเป็นต้นไม้ที่ไร้ความรู้สึกได้เช่นไร

หลังต่อสู้ดิ้นรนกับตนเอง ก็จำต้องเก็บความแค้นไว้ในใจ “ข้าพูด ข้าพูดแล้ว…”

นางกลืนน้ำลายเตรียมจะเอ่ยปากบอก จู่ๆ บนท้องฟ้ากลับปรากฏลำแสงสว่างวาบ มีเสียงคำรามดังก้องกัมปนาทเหนือศีรษะทั้งที่เป็นค่ำคืนฟ้ากระจ่าง ทุกคนยังไม่ทันแสดงท่าทีตอบสนอง สายฟ้ารัศมีเจิดจ้าก็ผ่าโครมลงมาเบื้องล่าง

ลิ่นเฉิงโย่วหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย สายฟ้าเส้นนี้พุ่งตรงไปยังตาค่ายกล เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อช่วยชีวิตปีศาจเฒ่า

เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วฉับไว รีบกระชากปีศาจต้นไม้กระโดดไปด้านหลัง มังกรไฟจากแผ่นยันต์หลุดพ้นการควบคุมของเขาทำให้ปีศาจเฒ่าคืนร่างเดิมไปในพริบตา

สายฟ้าประหลาดเหมือนมีสัมผัสรับรู้ มันเลี้ยวโค้งหลบไปอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นสลายเป็นกลุ่มหมอกสีขาวหายลับไปกลางอากาศ ไปมาไร้ร่องรอยราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน

เจวี๋ยเซิ่งกับชี่จื้อเรียกไม้สยบมารกลับมา ก่อนจะกระโดดผลุงขึ้นแล้วเดินมามุงดูตรงหน้า ก้มศีรษะมองร่างเดิมของปีศาจเฒ่า ก็เห็นต้นไม้น้อยที่ลำต้นไม่อวบหนาเท่าใด บนยอดต้นไม้ห่อหุ้มด้วยตะไคร่น้ำสีเขียว กลิ่นหอมประหลาดโชยมาปะทะจมูก

นักพรตน้อยทั้งสองยังไม่หายตื่นตระหนกดี “ศิษย์พี่ สายฟ้านั่นมาเพื่อช่วยปีศาจเฒ่าหรือขอรับ”

ลิ่นเฉิงโย่วจ้องทิศทางยามสายฟ้าพุ่งตรงมาเขม็ง ก่อนหยิบหนอนล่ามวิญญาณออกมาจากอกเสื้อมัดต้นไม้น้อยเอาไว้แล้วโยนให้เด็กทั้งสอง “กลับไปรออยู่ในบ่วงสลายปราณพิฆาต”

เขายังหันไปสั่งการองครักษ์ที่เช็ดเหงื่ออยู่ว่า “พวกเจ้าเร่งนำส่งกลุ่มคนเจ็บกับฮูหยินอันกั๋วกงไปพักฟื้นที่เรือนเจาเล่อ ข้าไปประเดี๋ยวหนึ่งก็กลับ”

ลิ่นเฉิงโย่วกระโดดขึ้นไปบนแนวกำแพง พลันหายลับไปท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี

 

เรือนเจาเล่อพื้นที่คับแคบ มีห้องนอนทั้งหมดเพียงห้องเดียว สกุลเถิงกับสกุลต่งไม่มีทางเลือกอื่น จำใจต้องเข้ามาพักในห้องเดียวกัน

เหล่าขันทีตกใจขวัญหนีดีฝ่อกันถ้วนหน้า องครักษ์ก็หวาดผวาอยู่ในใจเช่นกัน กระทั่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ทุกคนยังกลัวจนเหมือนไร้วิญญาณไปบ้าง

ตู้ฮูหยินสองขาสั่นพั่บๆ นางกอดเถิงอวี้อี้ไว้ในอ้อมแขนพลางลูบปลอบขวัญเป็นการใหญ่ เถิงอวี้อี้ย้อนคิดถึงสถานการณ์เมื่อครู่ตอนลิ่นเฉิงโย่วต่อกรกับปีศาจ ความสงสัยมากมายอัดแน่นในอก นอกจากลิ่นเฉิงโย่วจะซักไซ้ปีศาจเฒ่าว่าเพราะเหตุใดจึงไปที่ป่าไผ่ ยังคาดเดาว่ามีคนรอนางปีศาจอยู่ที่นั่น เถิงอวี้อี้ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เมื่อนางพาพวกตวนฝูเร่งเดินทางไปถึง ในป่ามีเพียงปีศาจเฒ่าและญาติผู้พี่กับสาวใช้ นางรู้เพียงว่าญาติผู้พี่ถูกจู่โจมทำร้าย กลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องเลย

หากปีศาจเฒ่ามิได้บุกเข้าป่าไผ่ด้วยเหตุบังเอิญแต่ไปตามนัดหมายเล่า คนผู้นั้นจะซ่อนตัวอยู่ที่ใด ที่ญาติผู้พี่ถูกปีศาจจู่โจมจะเป็นเพราะไปเห็นอะไรเข้าโดยไม่ตั้งใจหรือไม่

นางคิดทบทวนซ้ำไปมาเป็นนานสองนาน ยิ่งคิดยิ่งตื่นตระหนก ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงท่านป้าเรียกญาติผู้พี่เบาๆ ถึงได้สติกลับคืนมา

ยาที่ลิ่นเฉิงโย่วให้มามีสรรพคุณวิเศษนัก ร่องรอยสีทองแปลกประหลาดบนร่างญาติผู้พี่เลือนหายไปจนหมด ส่วนไป๋จื่อกับหงหนูแม้ยังหมดสติอยู่แต่ก็มีสัญญาณว่าจะดีขึ้นแล้ว

ตวนฝูถูกแยกให้อยู่ตรงระเบียงทางเดินข้างนอก พอเถิงอวี้อี้เดินไปตรวจดูอาการ ก็พบว่าลมหายใจค่อยๆ สม่ำเสมอคงที่แล้ว

บนเตียงเตี้ยริมหน้าต่างฮูหยินอันกั๋วกงกับคุณหนูรองสกุลต่งนอนเคียงข้างกัน คนหนึ่งลมหายใจรวยริน ส่วนอีกคนเนื่องจากไม่ได้กินยาจึงยังไม่ฟื้นคืนสติขึ้นมา

ผู้ดูแลหญิงสกุลต่งก็รอดตายมาได้ รอจนเริ่มสงบสติอารมณ์ลง คิดถึงยาวิเศษที่ลิ่นเฉิงโย่วมอบให้กลับโดนคุณหนูเถิงแย่งชิงไปหมด อีกทั้งคนเจ็บของสกุลเถิงสามสี่คนนั่นกินยาแล้วเริ่มเห็นวี่แววว่าอาการดีขึ้น มีเพียงคุณหนูรองของนางผู้เดียวที่ชีวิตยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย นางจิตใจร้อนรุ่มราวไฟสุม คอยดูแลต่งเอ้อร์เหนียงพลางถลึงตาใส่เถิงอวี้อี้บ่อยครั้ง สายตาหลบๆ ซ่อนๆ ทว่าเต็มไปด้วยการตำหนิและแค้นเคือง

เถิงอวี้อี้สัมผัสได้ถึงสายตาจดจ้องจากด้านหลัง จึงหันหน้าไปอยากจะดูให้รู้เรื่อง

ตอนนี้เองก็มีคนจากในวังเข้ามาแจ้งข่าว “ก่อนซื่อจื่อจะไปบอกว่ามีเรื่องหนึ่งต้องตรวจสอบหลักฐาน หลายท่านในห้องนี้เป็นคุณหนูที่ยังไม่ออกเรือน มอบหมายให้พวกข้าน้อยมาเตรียมการบางอย่างไว้ล่วงหน้า”

ก่อนหน้านี้ตู้ฮูหยินได้ยินคำพูดหลายประโยคอย่างเลือนราง จึงเข้าใจว่าลิ่นเฉิงโย่วต้องการเข้ามาตรวจสอบอาการบาดเจ็บ เดิมทีมีข้อกังวลชายหญิงไม่พึงชิดใกล้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็วางใจได้เสียทีจึงรีบเอ่ยตอบรับ “ทราบแล้ว”

ผู้ดูแลหญิงสกุลต่งตั้งตารอจะขอยาช่วยชีวิตคนจากลิ่นเฉิงโย่วมาเพิ่ม จึงเอ่ยตกปากรับคำอย่างดี “น้อมรับทุกคำสั่งของซื่อจื่อเจ้าค่ะ”

เหล่าขันทีนำร่างสตรีที่บาดเจ็บห้านางมาวางเรียงกันบนเตียงหลังใหญ่ โดยมีผ้าม่านผืนหนาบดบังสายตาและเผยให้เห็นเพียงพื้นรองเท้า

ตอนเถิงอวี้อี้ช่วยจับผ้าม่านบังเอิญเหลือบมองต่งเอ้อร์เหนียงครู่หนึ่ง นางต้องประหลาดใจเมื่อสังเกตเห็นว่าบนใบหน้าต่งเอ้อร์เหนียงไม่ปรากฏรอยสีทองอมเทา ลมหายใจก็นับว่าสงบมั่นคงดี

เอ๊ะ มิใช่ว่าโดนพิษปีศาจหรือ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com