ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 7-8 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 7-8

หัวใจนางสะท้านไหวเตรียมจะเพ่งพินิจอย่างละเอียด ผู้ดูแลหญิงสกุลต่งก็ดึงผ้าม่านมาบังไว้เพราะกลัวลมพัดเข้าไป

เถิงอวี้อี้จึงเดินวนไปอีกฝั่งหนึ่งของผ้าม่านแล้วลอบมองสำรวจอย่างแนบเนียน ทว่าทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าหลายคู่ข้างนอกย่ำตรงมา บริเวณหน้าเรือนเริ่มมีเสียงพูดคุยกัน ขันทีกล่าวตกปากรับคำสองสามประโยคก็แหวกผ้าม่านประตูเดินเข้ามาแจ้งว่า “แม่ทัพน้อยต้วนจากจวนเจิ้นกั๋วกงกับฮูหยินหย่งอันโหวมาขอรับ”

ตู้ฮูหยินถามอย่างตกตะลึง “แม่ทัพน้อยต้วนกับฮูหยินหย่งอันโหว?”

แม่ทัพน้อยต้วนมีนามว่าต้วนหนิงหย่วน เป็นบุตรชายคนโตของเจิ้นกั๋วกงและเป็นคู่หมั้นของเถิงอวี้อี้ ส่วนฮูหยินหย่งอันโหวมีนามว่า ‘ต้วนเหวินอิน’ เป็นพี่สาวร่วมอุทรของต้วนหนิงหย่วน พอต้วนเหวินอินอายุได้สิบเจ็ดปีก็แต่งงานออกไปอยู่จวนหย่งอันโหวที่เมืองลั่วหยาง

สองพี่น้องสกุลต้วนอายุห่างกันเพียงสามปี ความสัมพันธ์สนิทสนมแน่นแฟ้นกันมาแต่ไหนแต่ไร ในวันหน้าหากเถิงอวี้อี้แต่งงานกับต้วนหนิงหย่วนยังต้องเรียกต้วนเหวินอินว่า ‘พี่สาว’

ตู้ฮูหยินแย้มยิ้มพลางลุกขึ้นยืน

ขันทียังกล่าวอีกว่า “คืนนี้สกุลต้วนก็มาร่วมงานเลี้ยงที่หอจื่ออวิ๋นด้วย ได้ยินว่าคุณหนูเถิงเผชิญเหตุการณ์สะเทือนขวัญมา แม่ทัพน้อยต้วนกับฮูหยินหย่งอันโหวตั้งใจรีบมาดูแล รวมถึงฮูหยินหลายท่านที่เป็นเครือญาติและมิตรสหายกับจวนเจิ้นกั๋วกงพอได้ยินเรื่องนี้ก็จะตามมาสมทบอีกแรง แต่จนใจที่ซื่อจื่อสั่งปิดตายประตูกลางเพื่อจับปีศาจ พวกเขาได้แต่รอฟังข่าวที่ห้องโถงกลาง ตอนนี้พอรู้ว่าซื่อจื่อปราบปีศาจตนนั้นได้สำเร็จ ก็เลยมุ่งหน้ามายังเรือนใน ฮูหยินหย่งอันโหวสอบถามอยู่ด้านนอก ฮูหยินกับคุณหนูสะดวกใจพร้อมให้เข้ามาเยี่ยมหรือไม่ขอรับ”

ระหว่างการแจ้งข่าวของขันที ตรงระเบียงทางเดินด้านนอกก็มีเสียงสตรีกระซิบพูดคุยลอยมาแต่ไม่ได้ยินเสียงของต้วนหนิงหย่วนเลยสักนิด

เถิงอวี้อี้หัวเราะเย้ยหยันในใจแต่สีหน้ากลับสงบนิ่งเป็นปกติ

ตู้ฮูหยินเข้าใจว่านางกำลังเขินอาย จึงตบหลังมือนางเบาๆ พร้อมลดเสียงเอ่ยว่า “มาได้ทันเวลาเพียงนี้ สกุลต้วนนับว่าตั้งใจแล้ว”

หน้าเตียงกางผ้าม่านผืนหนาบังไว้มิดชิด ตู้ฮูหยินไม่มีเรื่องใดให้พะว้าพะวังอีก นางจัดผ้าคลุมไหล่ตรงข้อพับแขนแล้วกล่าวต้อนรับอย่างกระตือรือร้น “รีบเชิญเข้ามา”

ตอนนี้ด้านนอกมีเสียงเอะอะดังขึ้นระลอกหนึ่ง มีคนเดินเข้ามาในเขตเรือนแล้ว

“คนบาดเจ็บมีทั้งหมดห้าคน นอกจากสกุลเถิงแล้ว คนอีกสกุลหนึ่งเป็นผู้ใด” นั่นเป็นเสียงของลิ่นเฉิงโย่ว

เถิงอวี้อี้แปลกใจเล็กน้อย ลิ่นเฉิงโย่วรีบกลับมาเร็วถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าตรวจสอบพบอะไรหรือไม่

“เป็นคุณหนูรองบุตรสาวนายอำเภอต่งแห่งอำเภอวั่นเหนียน คืนนี้นางมีนัดหมายกับคุณหนูอีกหลายคนที่งานเลี้ยงริมน้ำ ระหว่างเดินทางไปร่วมงานไม่ทันระวังเจอปีศาจร้ายพอดี เร่งเดินทางกลับเข้าเมืองไปรักษาเกรงว่าจะไม่ทันกาล พอได้ยินว่าเชิญนักพรตมาแล้วจึงฝากฝังให้ฮูหยินหย่งอันโหวดูแล และเข้ามาในหอจื่ออวิ๋นด้วยขอรับ”

เถิงอวี้อี้ชำเลืองมองหลังม่านด้วยแววตาแฝงความนัยลึกซึ้ง นางน่าจะเดาได้แต่แรกแล้ว หากไม่มีผู้สูงศักดิ์เชื้อเชิญ คนในครอบครัวขุนนางทั่วไปไม่อาจเข้าหอจื่ออวิ๋นได้ ที่แท้ ‘ผู้สูงศักดิ์’ ที่พาต่งเอ้อร์เหนียงเข้ามามิใช่ใครอื่น เป็นต้วนเหวินอินพี่สาวของต้วนหนิงหย่วนนี่เอง

พวกเขาพี่น้องรักใคร่ผูกพันกันมาตลอด ในชาติก่อนต้วนหนิงหย่วนเกือบโดนขับออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงเพราะยืนกรานขอถอนหมั้นกับนาง ต้องอาศัยต้วนเหวินอินรีบเดินทางมาจากเมืองลั่วหยางเพื่อช่วยพูดขอร้องแทนน้องชาย

หลายวันมานี้ก็เป็นเทศกาลซั่งซื่อ ไม่น่าแปลกใจที่ต้วนเหวินอินจะกลับเมืองฉางอัน แต่พอสกุลต่งเกิดเรื่อง ไปขอร้องผู้ใดไม่ขอ ดันมาขอร้องต้วนเหวินอิน และสิ่งที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือทั้งสองตระกูลไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ต้วนเหวินอินกลับรับปากอย่างเหลือเชื่อ นอกเสียจากว่าน้องชายอย่างต้วนหนิงหย่วนจะฝากฝังมา เถิงอวี้อี้ก็คิดเหตุผลอื่นไม่ออกแล้ว

นางลองคำนวณวันเวลา ตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ อีกประมาณสามเดือนต้วนหนิงหย่วนถึงจะไปขอถอนหมั้นที่จวนสกุลเถิง เห็นได้ชัดว่าต้วนหนิงหย่วนมีใจให้ต่งเอ้อร์เหนียงมานานกว่าที่นางคาดเดาเอาไว้มาก

ลิ่นเฉิงโย่วเอ่ยว่า “ข้าจะเข้าไปตรวจดูอาการคนเจ็บในห้อง ข้างในนั้นจัดการเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่”

ผู้ดูแลหญิงสกุลต่งได้ยินเพียงเท่านี้ ก็ผุดลุกขึ้นจากเตียงของคุณหนูทันที นางวิ่งปรี่ออกนอกประตูห้องไปโดยไว ก่อนจะคุกเข่าลงโครมใหญ่ “ขอร้องซื่อจื่อโปรดช่วยชีวิตคุณหนูรองของข้าน้อยด้วย เมื่อครู่มอบยาให้คุณหนูเถิงจัดการแจกจ่าย แต่ว่าคุณหนูรองของข้าน้อยไร้วาสนา ไม่ได้รับส่วนแบ่งมาสักเม็ด ตอนนี้ชีวิตนางแขวนอยู่บนเส้นด้าย ขอร้องซื่อจื่อโปรดช่วยนางด้วยเจ้าค่ะ”

จากนั้นก็ได้ยินเสียงบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งโพล่งออกมาว่า “ไม่ได้แบ่งยาให้คุณหนูรองของเจ้ารึ”

นี่เป็นเสียงที่แฝงด้วยความโกรธเกรี้ยวและตำหนิติเตียนของต้วนหนิงหย่วน

ผู้ดูแลหญิงสกุลต่งเอาแต่โขกศีรษะ ร้องไห้สะอึกสะอื้นปิ่มจะขาดใจ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com