บทที่ 1.1 การกลับมาของคุณหนู
รัชศกเจี้ยนซิงปีที่ยี่สิบ พ้นวันที่สิบห้ากลิ่นอายวันปีใหม่ก็จางหายไปแล้ว แต่ละเรือนแต่ละครอบครัวต่างสำรวมจิตใจ เริ่มลงมือหาเลี้ยงชีพในปีใหม่ ผู้ที่ทำงานให้ตระกูลใหญ่ก็ต้องเก็บข้าวของกลับเรือนเจ้านายแล้วเช่นกัน
ณ จวนฉางซิงโหว* ดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ท่อนบนสวมเสื้อบุสองชั้นสีชมพูดอกท้อลายสมปรารถนา ท่อนล่างใส่กระโปรงจีบสีคราม บนศีรษะเกล้าผมเป็นมวยสองข้างกำลังเปิดม่าน นางเพิ่งจะเล่นสนุกมา บนใบหน้ายังเผยรอยยิ้ม ครั้นมองเห็นผู้มาเยือนรอยยิ้มของนางก็ชะงักค้างไป
แต่ถึงอย่างไรชิวเยี่ยก็เคยใช้ชีวิตอยู่ที่เรือนในมานาน นางจึงกลบเกลื่อนท่าทีตอบสนองที่แท้จริงได้อย่างรวดเร็ว เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนเข้ามาด้วยท่าทางกระตือรือร้นและสุภาพอ่อนโยน
“คุณหนูห้า วันนี้ท่านมาเสียเช้า ด้านนอกอากาศหนาว รีบเข้ามาเถิดเจ้าค่ะ!”
ฉู่จิ่นเหยากลับมิได้ตรงเข้าประตู นางยอบกายให้ชิวเยี่ยอย่างที่ตนเองเคยเห็นแล้วยืดกายขึ้นกล่าวว่า “คารวะพี่ชิวเยี่ย ท่านแม่อยู่ข้างในหรือไม่”
ถึงอย่างไรฉู่จิ่นเหยาก็เป็นคุณหนู ต่อให้ชิวเยี่ยเป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายจ้าวซื่อฮูหยินแห่งจวนฉางซิงโหวก็ไม่มีความจำเป็นต้องเกรงอกเกรงใจเช่นนี้ เพียงพยักหน้ากล่าวทักทายสักคำก็เพียงพอแล้ว
แต่ฉู่จิ่นเหยาไม่รู้ ถึงแม้นางจะรู้ก็ไม่รู้อีกว่าควรพยักหน้าเช่นไรและควรกล่าวทักทายเช่นไร สิ่งที่เป็นธรรมชาติอย่างหายใจหรือดื่มน้ำสำหรับคุณหนูเรือนในเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยากเกินไปสำหรับฉู่จิ่นเหยา
อันที่จริงฉู่จิ่นเหยาควรต้องเป็นคุณหนูสี่ บุตรสาวสายตรงคนที่สองซึ่งเกิดจากจ้าวซื่อผู้เป็นภรรยาเอกในจวนฉางซิงโหว หากแต่ชะตาชีวิตของนางออกจะขรุขระอยู่บ้าง ขณะนางเพิ่งเกิดตรงกับช่วงที่ชาวต๋าต๋า มารุกรานชายแดนพอดี คาดไม่ถึงว่าจ้าวซื่อที่คลอดบุตรสาวอยู่ข้างนอกกลับอุ้มเด็กมาผิด นางอุ้มเอาเด็กอีกคนหนึ่งกลับจวนมาแทนแล้วตั้งชื่อให้ว่าฉู่จิ่นเมี่ยว ฉู่จิ่นเหยาเพิ่งจะถูกนำตัวกลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ทว่าฉู่จิ่นเมี่ยวอาศัยอยู่ในจวนโหวมาสิบสามปี ผูกพันลึกซึ้งกับมารดาและหญิงรับใช้ ฮูหยินผู้เฒ่าฉู่ผู้เป็นย่าก็ตัดใจปล่อยให้หลานสาวที่เอ็นดูมาสิบสามปีจากไปไม่ลง จึงตัดสินใจให้คุณหนูทั้งสองอยู่ด้วยกันในจวน ฉู่จิ่นเมี่ยวเป็นคุณหนูสี่ต่อไป ส่วนฉู่จิ่นเหยาก็เป็นคุณหนูห้าตามลำดับอายุที่น้อยกว่าฉู่จิ่นเมี่ยว
ฉู่จิ่นเหยาเติบโตมาในครอบครัวชาวนา ไม่เข้าใจเรื่องมารยาทพิธีรีตองของจวนโหวเหล่านี้โดยสิ้นเชิง นางกลัวผู้อื่นจะหัวเราะเยาะจึงพยายามสังเกตว่าผู้อื่นทำความเคารพและพูดคุยกันอย่างไร จากนั้นก็หัดตามเอาเอง เช่นนี้นางจึงทำผิดพลาดไปมากมายด้วยความไม่รู้ เป็นต้นว่าการทักทายในวันนี้
ชิวเยี่ยรับการคารวะจากฉู่จิ่นเหยาก่อนจะคารวะตอบ จากนั้นก็รีบเชิญฉู่จิ่นเหยาเข้าไปด้านใน ม่านขนเตียว หนาหนักกันลมหนาวได้ดี ในห้องโถงใหญ่ถึงได้อบอุ่นขึ้น มิได้มีไอหนาวกรูเข้ามาเต็มห้องอีก ชิวเยี่ยถอนหายใจก่อนกล่าว
“วันนี้ลมแรงไม่น้อย หากเปิดม่านไว้นานลมพัดถูกพวกบ่าวยังไม่เท่าไร แต่หากทำให้ฮูหยินหนาวจนตัวแข็งจะแย่เอา”
ฉู่จิ่นเหยาคาดไม่ถึงจึงรีบพูดว่า “ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าคิดไม่ถึง…”
“คุณหนูห้ามิต้องกล่าวเช่นนี้เจ้าค่ะ ท่านเป็นเจ้านาย ความผิดคับฟ้าล้วนเป็นเพราะบ่าวไพร่ชั้นล่างรับใช้ได้ไม่ดี” พูดจบชิวเยี่ยก็ทำหน้าบึ้งตึง ถลึงตามองคนที่อยู่ด้านหลังฉู่จิ่นเหยา “นางเด็กสองคนนี้ คุณหนูห้าเพิ่งจะกลับมา พวกเจ้าก็เพิ่งกลับมาเช่นกันหรือไร หากยังเอาแต่เลินเล่อเช่นนี้ ระวังเนื้อหนังของพวกเจ้าไว้ให้ดี”
ติงเซียงและซานฉาที่อยู่ด้านหลังฉู่จิ่นเหยารีบออกปากรับผิด ชิวเยี่ยตำหนิอีกหลายคำถึงค่อยกล่าวด้วยสีหน้าที่อ่อนลง
“เอาล่ะ ผิดแล้วแก้ไขได้ก็ดีแล้ว คราวหน้าพวกเจ้าจงระมัดระวัง!”
คราวนี้แม้แต่ฉู่จิ่นเหยาก็ฟังออกว่าพฤติกรรมเมื่อครู่นี้ของตนเองนั้นไม่เหมาะสม ทว่าชิวเยี่ยมิอาจตำหนินางได้จึงไปตำหนิสาวใช้ที่ตามนางมาคารวะยามเช้าแทน
ในใจฉู่จิ่นเหยารู้สึกผิดที่อยู่ดีๆ ก็พลอยทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไปด้วยอีกครั้ง หากนางทำได้ดีกว่านี้สักนิด จะทำให้ผู้อื่นถูกตำหนิแทนนางได้อย่างไร
อันที่จริงการที่ฉู่จิ่นเหยาคิดเช่นนี้ได้ถูกทางครอบครัวห้ามไว้ ในตระกูลใหญ่เช่นตระกูลโหว คุณหนูที่ยังไม่ออกเรือนล้วนสูงส่งควรค่าแก่การทะนุถนอม หากกระทำความผิดการกักบริเวณและคัดจรรยาสตรีก็เป็นบทลงโทษที่หนักมากแล้ว โทษทัณฑ์ถึงเนื้อหนังจำพวกการโบยล้วนเป็นบ่าวไพร่ที่ต้องรับไว้ ใครใช้ให้ยามเจ้านายเข้าใจผิดไปแล้วตนที่เป็นสาวใช้ไม่ตักเตือนกันเล่า ยิ่งไปกว่านั้นติงเซียงกับซานฉาถูกตำหนิคราวนี้ก็มิได้เป็นการปรักปรำสักนิด ฉู่จิ่นเหยาเพิ่งถูกนำตัวกลับมา นางไม่เข้าใจว่าต้องทำความเคารพและทักทายอย่างไร แต่สาวใช้อย่างพวกติงเซียงก็ไม่เข้าใจเช่นนั้นหรือ ขอเพียงเอ่ยเตือนสักนิดก่อนออกมาก็คงไม่กลายเป็นเช่นนี้ ทว่าติงเซียงเป็นพวกไม่ชอบพูด ตีให้ตายก็ยังทำให้พูดออกมาไม่ได้สักคำ ส่วนซานฉาสายตาล่องลอย ดูก็รู้ว่าใจลอยไปไกล ยิ่งไม่มีทางคิดเรื่องเหล่านี้แทนเจ้านาย