ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 2.1-2.2 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 2.1-2.2

ฉู่จิ่นเมี่ยวถอดเสื้อคลุมออก เผยเสื้อบุสองชั้นสาบตรงลายดอกแขนกว้างที่สวมอยู่ด้านในออกมา ท่อนล่างเป็นกระโปรงหม่าเมี่ยน ผ้าต่วนสีน้ำเงิน ชายกระโปรงใช้ดิ้นทองปักเป็นลายปักษาและบุปผากว้างสองชุ่น แม้แต่ผู้ที่เคยเห็นความหรูหราฟุ่มเฟือยจนชินอย่างจางหมัวมัวยังต้องอ้าปากค้าง ชุดนี้ของคุณหนูสี่ไม่นับรวมเครื่องประดับก็มีค่าตั้งเท่าไรแล้ว คุณหนูสี่แทบจะเปลี่ยนได้วันละชุด แม้จะเป็นเช่นนี้จ้าวซื่อก็ยังบ่นว่าเสื้อผ้าไม่พอ เมื่อวานก็เรียกคนเข้าจวนเพราะต้องการซื้อผ้ามาตัดชุดให้คุณหนูใหญ่กับคุณหนูสี่

จางหมัวมัวนึกถึงชุดที่ฉู่จิ่นเหยาสวมขณะเข้าห้องมา เกรงว่าคงมีค่าเทียบไม่ได้แม้แต่หนึ่งในสิบของคุณหนูสี่ คุณหนูที่แท้จริงมีชีวิตเช่นนั้น นางได้ยินว่าคุณหนูห้าต้องทำงานหนักตั้งแต่เล็กจนฝ่ามือมีแต่รอยด้าน จางหมัวมัวถอนหายใจ หากให้กล่าวด้วยใจเป็นกลาง นางก็ยังรู้สึกว่าคุณหนูห้าน่าสงสาร แต่จะมีประโยชน์อันใดเล่า คุณหนูสี่ต่างหากที่เป็นดวงใจซึ่งคนทั้งหลายเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต คุ้นชินกับการใช้จ่ายในจวนโหวยิ่งกว่า ความหรูหราบนกายนั้นราวกับใช้น้ำทองของมีค่าชุบออกมา มีผู้ที่สูงส่งและมีลักษณะท่าทางเช่นนี้เป็นตัวเปรียบเทียบ คุณหนูห้าย่อมถูกกลบจนไม่เห็นรัศมีไปในทันใด

ฉู่จิ่นเมี่ยวถอดชุดเสื้อคลุมที่เทอะทะออกแล้วเดินตรงไปยังห้องรองทางทิศตะวันตกซึ่งจ้าวซื่อใช้หลับนอน ท่าทางผ่อนคลายประหนึ่งกำลังอยู่ในห้องของตนเอง เดินไปพลางร้องเรียกไปพลาง

“ท่านแม่ ข้ามาแล้ว…”

ฉู่จิ่นเมี่ยวเพิ่งจะก้าวเข้าประตูมาก็มองเห็นฉู่จิ่นเหยายืนอยู่ด้านข้าง ฉู่จิ่นเหยาได้ยินเสียงอยู่นานแล้วว่าฉู่จิ่นเมี่ยวเข้ามา บัดนี้ได้เห็นอีกฝ่าย นางจึงหันหน้าไปยิ้มอย่างอ่อนหวานให้

“พี่หญิงสี่ ท่านมาแล้วหรือ” ฉู่จิ่นเหยาถามด้วยท่าทางไม่คุ้นเคยอยู่บ้าง นางเห็นคุณหนูคนอื่นๆ ทักทายกันเช่นนี้ ไม่รู้ว่านางหัดทำตามถูกหรือไม่ ฉู่จิ่นเหยาเพิ่งได้กลับมาอยู่กับครอบครัวแท้ๆ ของตนเอง นางอยากมีความสัมพันธ์อันดีกับบิดามารดาและพี่สาวน้องสาว ต่อให้คนตรงหน้าเป็นคุณหนูตัวปลอมที่สวมฐานะของนาง ฉู่จิ่นเหยาก็ยังอยากอยู่ร่วมกับอีกฝ่ายอย่างปรองดอง เรื่องนี้จะโทษใครได้ ทำได้เพียงโทษท่านพ่อซูกับท่านแม่ซูเห็นแก่ตัวและใจดำอำมหิต หน้ามืดตามัวไร้จิตสำนึก ฉู่จิ่นเมี่ยว ฉู่จิ่นเหยา ตลอดจนฉางซิงโหวและจ้าวซื่อ คนทั้งหมดล้วนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เช่นนั้นจะมีความผิดใด แม้ฉู่จิ่นเหยาจะเติบโตมาในหมู่บ้านชนบท แต่นางรู้ความมาตั้งแต่เล็ก นางรู้ว่าจะเอาแต่ตัดพ้อต่อว่าอย่างเดียวไม่ได้ มิฉะนั้นญาติพี่น้องคงได้ห่างเหินกัน ระหว่างคนเราอย่างไรก็ต้องจริงใจต่อกันและพูดคุยกันดีๆ จึงจะใช้ได้

แต่ฉู่จิ่นเมี่ยวมิได้เผยรอยยิ้มดั่งที่ฉู่จิ่นเหยาคาดหวัง เพียงเก็บงำสีหน้าแล้วตอบรับอย่างเฉยเมยว่า “ใช่” พูดจบก็กล่าวอีกประโยคอย่างฉับไว “ใครเป็นพี่สาวเจ้า”

แม้เสียงของฉู่จิ่นเมี่ยวจะไม่ดัง แต่ก็มิได้จงใจลดเสียงลง สาวใช้ไม่น้อยที่อยู่รอบๆ รวมถึงฉู่จิ่นเหยาเองล้วนได้ยินทั้งสิ้น ฉู่จิ่นเหยากระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที ทว่าสาวใช้ที่ตามฉู่จิ่นเมี่ยวมากลับเผยรอยยิ้มร้าย อาศัยจังหวะที่คนไม่สนใจลอบส่งสายตากับสาวใช้ที่สนิทสนมกัน ปรายตามองไปยัง ‘คุณหนูห้า’ นกกระจอกที่เพิ่งบินกลับมาจากบ้านป่าผู้นี้

ฉู่จิ่นเหยาได้ยินว่าในตระกูลใหญ่ล้วนต้องตื่นเช้ามาคารวะบิดามารดาญาติผู้ใหญ่ นางไม่กล้าชักช้าจึงเตรียมตัวเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ เคราะห์ดีตอนที่นางอยู่ในหมู่บ้านชนบทก็ต้องตื่นเช้ามาเก็บฟืน ดังนั้นการตื่นเช้าจึงมิใช่เรื่องยากแม้แต่น้อยสำหรับนาง กลับรู้สึกว่าตนเองได้รับความโปรดปรานจนน่าตกใจเสียด้วยซ้ำ แค่นางสวมเสื้อผ้าถึงกับมีคนคอยปรนนิบัติมากเพียงนี้เชียวหรือ

ถึงกระนั้นการตื่นเช้าเป็นเรื่องง่าย แต่จะมาทำอะไรเมื่อถึงเรือนจ้าวซื่อนั้นกลับสร้างความลำบากให้ฉู่จิ่นเหยาไม่น้อย ครอบครัวเดิมในหมู่บ้านชนบทมีพิธีรีตองเช่นนี้เสียที่ใด หลังตื่นนอนก็ตรงไปกวาดพื้นตักน้ำในลานบ้าน ขณะซูฮุ่ยผู้เป็นพี่สาวยังไม่ออกเรือน งานในลานบ้านและในห้องครัวล้วนเป็นหน้าที่ของพวกนางสองพี่น้อง ครั้นท่านพ่อซูกับท่านแม่ซูตื่นนอนก็จะได้เห็นลานบ้านที่สะอาดสะอ้านกับข้าวสวยร้อนๆ ที่หุงสุกแล้ว จากนั้นท่านพ่อซูก็จะออกไปทำนา บางครั้งท่านแม่ซูก็จะไปด้วย เมื่อทั้งสองไปแล้วฉู่จิ่นเหยาถึงจะกลับไปเคาะประตูปลุกซูเซิ่งผู้เป็นน้องชาย ซูเซิ่งเป็นเด็กชายคนเดียวในบ้านจึงมีค่ามากกว่าเด็กหญิงเช่นพวกนางมาก

เพราะฉะนั้นฉู่จิ่นเหยาจึงไม่รู้จริงๆ ว่าการคารวะบิดามารดาต้องทำอะไรบ้าง อีกทั้งในจวนโหวก็ไม่จำเป็นต้องให้นางกวาดพื้นซักผ้า พอฉู่จิ่นเหยามายืนอยู่ในห้องจ้าวซื่อจึงทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ข้างกายจ้าวซื่อมีสาวใช้รุมล้อมเป็นโขยง สาวใช้เหล่านี้บ้างก็ยื่นเสื้อผ้าให้ บ้างก็เช็ดมือให้จ้าวซื่อ และยังมีอีกสองสามคนสวมที่ครอบผมทองถักให้จ้าวซื่ออย่างระมัดระวัง คนเหล่านี้ล้อมรอบข้างกายจ้าวซื่อเต็มไปหมด ถึงฉู่จิ่นเหยาอยากจะก้าวเข้าไปใกล้ก็ยังทำไม่ได้

บัดนี้ฉู่จิ่นเมี่ยวพูดเช่นนี้ต่อหน้าคนทั้งหลาย เห็นได้ชัดว่าไม่อยากเป็นพี่สาวของฉู่จิ่นเหยาและไม่รู้สึกด้วยว่าฉู่จิ่นเหยาเป็นน้องสาวร่วมบ้านของตนเอง ฉู่จิ่นเหยาอึ้งงันไปในทันใด ส่วนฉู่จิ่นเมี่ยวก็อาศัยจังหวะนี้เดินตัวปลิวไปหาจ้าวซื่อแล้ว

เมื่อฉู่จิ่นเมี่ยวเดินไปใกล้ สาวใช้น้อยใหญ่ก็ต่างหลีกทางให้นาง ปากยังเรียกขานว่า ‘คุณหนูสี่’ และกล่าวถ้อยคำมงคลไม่ขาดปาก จ้าวซื่อมองเห็นฉู่จิ่นเมี่ยวเดินมาหาแล้วก็มองนางอย่างตำหนิผ่านบานคันฉ่องด้วยรอยยิ้มละไม

“เจ้ามาก่อกวนอีกแล้ว”

“ข้ามาก่อกวนเสียที่ใดเจ้าคะ มาแสดงความกตัญญูต่อท่านแม่ต่างหาก” ฉู่จิ่นเมี่ยวพูดพลางหยิบปิ่นในกล่องเครื่องประดับของจ้าวซื่อออกมาเทียบดูด้วยท่าทางคุ้นเคย จากนั้นก็กล่าวว่า “วันนี้ท่านแม่ปักปิ่นอันนี้เถิดเจ้าค่ะ เข้ากับชุดแขนยาวสีแดงสดตัวนั้นของท่านพอดี”

บ่าวหญิงที่หวีผมเอ่ยเอาใจ “คุณหนูสี่แต่งตัวเก่งเป็นที่สุด มีคุณหนูสี่อยู่ตรงหน้า เครื่องประดับที่พวกเราจัดให้ฮูหยินก็มิอาจนำออกมาโอ้อวดได้แล้ว”

ฉู่จิ่นเมี่ยวพูดคุยหัวเราะกับพวกจ้าวซื่อ ทางด้านฉู่จิ่นเหยาที่ยืนอยู่ไม่ไกลพลันรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนเกินอย่างยิ่ง

ดูจากท่าทางช่ำชองที่ฉู่จิ่นเมี่ยวมีต่อเครื่องประดับอัญมณีเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าเห็นจนชินมาตั้งแต่เล็กแล้ว ในขณะที่ฉู่จิ่นเหยายังรู้จักบรรดาขวดและกล่องต่างๆ บนโต๊ะเครื่องแป้งนั้นไม่ครบด้วยซ้ำ

ฉู่จิ่นเหยาก้มหน้ามองมือของตนเอง นางช่วยครอบครัวเดิมทำงานมาตั้งแต่จำความได้ เด็กหญิงร่วมหมู่บ้านล้วนเป็นเหมือนนาง ฉู่จิ่นเหยาไม่เคยคิดว่าบนโลกจะยังมีเด็กหญิงกลุ่มหนึ่งมีชีวิตงดงามอย่างที่นางแค่คิดก็ยังคิดไม่ถึง แต่เรื่องนี้โทษนางได้หรือ หากเป็นไปได้นางเองก็หวังว่าตนเองจะไม่ถูกอุ้มผิดตัวในปีนั้น สามารถเติบใหญ่อยู่ในจวนโหวได้อย่างราบรื่น เป็นคุณหนูแห่งจวนโหวที่เพียบพร้อมได้

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ก็เปรียบดั่งผ้าพันเท้าของสตรี เป็นของเก่าเน่าเหม็นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหม่มี...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 1.1-1.2

บทที่ 1.1 การกลับมาของคุณหนู รัชศกเจี้ยนซิงปีที่ยี่สิบ พ้นวันที่สิบห้ากลิ่นอายวันปีใหม่ก็จางหายไปแล้ว แต่ละเรือนแต่ละครอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 2.1-2.2

บทที่ 2.1 นกเขายึดรังนกสาลิกา “จางหมัวมัว?” จางหมัวมัวได้สติกลับมา นางตระหนักได้ว่าตนเองกำลังคิดเรื่องที่คุณหนูห้าเพิ่งก...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 3-4

บทที่ 3 หัวหน้าขันทีไม่แม้แต่จะเหลือบแลอวี้ฉือรุ่ย แต่ถามออกมาตรงๆ “ท่านใดคือคุณหนูเฟยเยี่ยน” เสียนเกอเอ๋อร์ข่มโทสะไม่อย...

community.jamsai.com