บทที่ 425
ถ้อยคำนี้ดังขึ้น สายตาทุกคู่พุ่งไปที่ตัวเฉียวเจาทันที
ใต้แสงคบเพลิงส่องสว่าง เด็กสาวในชุดเรียบง่ายถูกอาบย้อมด้วยประกายสีแดงอมทองระเรื่อ วงหน้างามละเมียดละไมดุจภาพวาด
ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย นางไม่ประหวั่นพรั่นพรึงแม้สักเศษเสี้ยว เพียงมองสบตากับเจียงอู่อย่างเยือกเย็น
ดวงตาของเจียงอู่มีแววนึกสนุกผุดขึ้นวูบหนึ่ง เขาเอ่ยด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “คุณหนูหลีจะให้ข้าอยู่ที่นี่หรือ”
เขาหันไปมองเซ่าหมิงยวนก่อนถามยิ้มๆ “อาศัยอะไร ข้ามิใช่กวนจวินโหวนะ”
กวนจวินโหวมีความรักลึกซึ้งต่อแม่นางน้อยตรงหน้าผู้นี้อย่างเห็นได้ชัดเจน ทว่าสำหรับเขาแล้วนางเป็นเด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้นเอง
เขายอมรับว่านางแตกต่างจากคนอื่นอยู่บ้าง แต่ก็มีเพียงแค่นี้
จะให้เขาอยู่ที่นี่รึ เขาไม่รู้ว่าสมควรหัวเราะที่แม่นางน้อยผู้นี้ไร้เดียงสาหรือว่าไม่ประมาณตนดี
“แม่นางน้อย ผ่านไปอีกสักสองสามปีเจ้ากล่าวคำนี้ บางทีข้าอาจจะใคร่ครวญดูนะ” เจียงอู่กล่าวพร้อมรอยยิ้มเฉยชา น้ำเสียงแฝงรอยเยาะหยันอยู่ในที
ประกายอำมหิตจุดวาบขึ้นในดวงตาเซ่าหมิงยวน มือนุ่มนิ่มข้างหนึ่งพลันกุมมือเขาไว้ ทำให้เขาลืมเลือนไปชั่วขณะว่าจะเอาเรื่องกับเจียงอู่
เฉียวเจาปล่อยมือเซ่าหมิงยวนทันใดแล้วสืบเท้าขึ้นหน้า กล่าวกลั้วเสียงหัวเราะแผ่วเบา “ใต้เท้าเจียงลองดูสิ่งนี้ก่อนค่อยพูดก็ได้นะ”
เด็กสาวยกมือขาวกระจ่างชูป้ายคำสั่งป้ายหนึ่งกะทันหัน
เจียงอู่หน้าเปลี่ยนสีไปถนัดตา เขาถลันมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง
เซ่าหมิงยวนขวางหน้าเขาไว้
“ท่านโหวโปรดหลีกทางด้วย ข้าอยากดูว่าในมือคุณหนูหลีเป็นสิ่งใด”
เซ่าหมิงยวนไม่ขยับกายสักนิด
“พี่เซ่า ท่านให้ใต้เท้าเจียงเข้ามาเถอะ เขาไม่มีทางทำร้ายข้าหรอก” เฉียวเจาพูดเสียงเบา
ถึงจะรู้สึกว่าเรียก ‘พี่เซ่า’ นั้นกระดากปากมาก แต่ในยามคับขันเช่นนี้ใช้ได้ผลก็พอ แม่นางเฉียวคิดคำนึงในใจ
เซ่าหมิงยวนได้ยินคำเรียกขานว่า ‘พี่เซ่า’ นั่นแล้วก็หัวใจพองโต ถึงแม้ยังจับจ้องเจียงอู่ตาเขม็งดุจเก่า แต่ก็ยอมเปิดทางให้อย่างว่องไว
“ของในมือของคุณหนูหลีคืออะไร” เจียงอู่ถามเสียงร้อนรน
น้ำเสียงของเฉียวเจาไร้ความรู้สึกใด “ใต้เท้าเจียงไม่รู้จักจริงหรือ”
นางโยนป้ายคำสั่งไปที่มือเขาโดยไม่ลังเล
หากเจียงถังมีอำนาจเหนือเจียงอู่มากพอ เช่นนั้นมอบป้ายคำสั่งไว้ในมือเจียงอู่ เขาก็ต้องช่วยเหลือสุดกำลัง ถ้าเจียงอู่ไม่ได้เชื่อฟังคำสั่งของเจียงถังสักเท่าไร ป้ายคำสั่งนั่นก็คือของไร้ค่าชิ้นหนึ่ง ถึงนางกำไว้ในมือแน่นๆ ก็เปล่าประโยชน์
เฉียวเจาคิดอ่านได้ทะลุปรุโปร่งเสมอมา ย่อมไม่กระทำอะไรเยี่ยงผู้มีจิตใจตื้นเขิน
เมื่อรับรู้ถึงน้ำหนักของป้ายคำสั่งในมือ เจียงอู่กวาดตามองอย่างละเอียดจนแน่ใจว่าเป็นป้ายคำสั่งอักษรฟ้าของกององครักษ์จินหลินอย่างไม่ต้องสงสัย
เขามองเฉียวเจาอย่างหวาดหวั่นไม่แน่ใจ
เหตุใดเด็กสาวผู้นี้ถึงมีป้ายคำสั่งอักษรฟ้าของกององครักษ์จินหลิน
ป้ายนี้เป็นของสำคัญยิ่ง ทำให้พวกเขาสิบสามราชองครักษ์ก้มหน้ารับคำสั่งได้
“คุณหนูหลีได้ป้ายคำสั่งนี้มาจากที่ใด”
เฉียวเจาอมยิ้มน้อยๆ “ใต้เท้าเจียงเห็นว่าอย่างไรเล่า คงไม่มีทางเป็นข้าแย่งชิงเอามากระมัง”
เจียงอู่ย่อมจะรู้ว่าเด็กสาวเบื้องหน้ากล่าวล้อเล่นอยู่
หากป้ายคำสั่งอักษรฟ้าของกององครักษ์จินหลินอันทรงเกียรติถูกแย่งชิงไปได้ คงไม่ต้องมีกององครักษ์จินหลินอยู่อีกต่อไป
เจียงอู่ก็ตรงไปตรงมาเช่นกัน หลังจากหายตกตะลึงในทีแรก เขาคืนป้ายคำสั่งให้นาง “คุณหนูหลีต้องการให้ข้าทำอะไร”
เฉียวเจากล่าวอย่างยิ้มแย้ม “เมื่อครู่ข้ากล่าวอย่างชัดเจนมากแล้ว ข้าต้องการให้ใต้เท้าเจียงอยู่ที่นี่ รุกถอยพร้อมกับกวนจวินโหว”
รูม่านตาของเจียงอู่หดแคบลง