ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม บทที่ 427-บทที่ 428 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม บทที่ 427-บทที่ 428

4 of 4หน้าถัดไป

ปิงลวี่กะพริบตาปริบๆ “พอท่านแม่ทัพเห็นว่าควบคุมสถานการณ์ได้ ท่านเดาดูว่าท่านแม่ทัพทำอะไรเป็นเรื่องแรกเจ้าคะ”

“อะไรหรือ” เฉียวเจาสนใจใคร่รู้เป็นอันมาก

ตอนนั้นนางไม่กล้าทำให้เขาเสียสมาธิ จึงรออยู่ในห้องอย่างสงบเสงี่ยมตามที่เขากำชับ แต่แท้จริงแล้วในใจแสนจะทุรนทุรายด้วยห่วงพะวงเหตุการณ์ด้านนอกอยู่ตลอด

เห็นคุณหนูของตนก็มีเวลาที่โง่เขลาเช่นกัน ปิงลวี่จึงยกมือปิดปากพูดอย่างชอบใจ “เรื่องแรกที่ท่านแม่ทัพทำก็คือกลับมาหาท่านน่ะสิเจ้าคะ”

เฉียวเจาหน้าร้อนซู่ นางกระแอมกระไอเสียงหนึ่งก่อนกล่าว “เลิกเรียกท่านแม่ทัพๆ ไม่ขาดปาก เจ้าเป็นสาวใช้ของข้า ไม่ใช่ของเขา”

“เป็นของใครก็ไม่แตกต่างกันนี่” สาวใช้น้อยพูดเสียงอุบอิบ

“เจ้าว่าอะไร” แม่นางเฉียวปั้นหน้าตึงพลางเอ่ยถาม

ปิงลวี่หาได้เกรงกลัวไม่ ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของนางพลางพูดกลั้วเสียงหัวเราะคิกคัก “คุณหนู ข้าไม่เคยเห็นบุรุษที่เก่งกาจห้าวหาญไร้ใดผู้เทียมทานและฉลาดปราดเปรื่องอย่างท่านแม่ทัพมาก่อน ท่านลองใคร่ครวญรับรักท่านแม่ทัพเถอะนะเจ้าคะ”

สาวใช้น้อยพูดจบก็เผ่นหนีเอาตัวรอดอย่างฉับไวจนหวุดหวิดจะชนกับอาจูตรงหน้าประตู

อาจูที่ยกถ้วยน้ำชาไว้รีบหลบออกด้านข้าง นางโคลงศีรษะก่อนเดินเข้าไป “คุณหนู ดื่มน้ำชงน้ำผึ้งเจ้าค่ะ”

เฉียวเจายกถ้วยน้ำชงน้ำผึ้งขึ้นพลางเหลือบมองสาวใช้

นางไม่ได้สั่งให้อาจูไปชงน้ำผึ้งเสียหน่อย

อาจูเอ่ยอธิบายต่อนางอย่างเข้าใจความหมาย “แม่ทัพเซ่าบอกว่าน้ำผึ้งทำให้จิตใจสงบได้…”

มือของเฉียวเจาที่ถือถ้วยไว้ชะงักไปเล็กน้อย ดังนั้นนี่มิใช่จะบอกว่าสาวใช้สองคนของนางล้วนไปสวามิภักดิ์ต่อท่านแม่ทัพผู้องอาจกล้าหาญมีวรยุทธ์ล้ำเลิศเหนือใครแล้วหรือ

นางหลุบตาลงดื่มน้ำผึ้งคำหนึ่งด้วยสีหน้านิ่งสนิท

น้ำชงน้ำผึ้งมีรสหวานมาก ขับไล่ความวิตกหวาดหวั่นนานัปการที่ทับถมอยู่กลางใจออกไปได้ในพริบตา

น้ำผึ้งมีสรรพคุณกล่อมอารมณ์และช่วยให้นอนหลับ นี่กลับเป็นเรื่องจริง คนผู้นั้นรู้อะไรๆ ไม่น้อยจริงๆ

แม่นางเฉียวกุมถ้วยน้ำชงน้ำผึ้งไว้ด้วยสองมือแล้วเริ่มใจลอย

อาจูยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆ อย่างนอบน้อม มิได้รบกวนผู้เป็นนายอย่างรู้กาลเทศะ

 

เรื่องของเจ้าเมืองหลี่นับว่าคลี่คลายลงแล้ว

เจียงอู่สั่งให้องครักษ์จินหลินคุมตัวเจ้าเมืองหลี่เข้าเมืองหลวงในความผิดฐานสมคบคิดกับโจรเร่ร่อนก่อความเดือดร้อนให้ราษฎรพร้อมหลักฐานแน่นหนา ต้องโดนตัดสินโทษประหารชีวิตอย่างหนีไม่พ้น ถึงแม้ผู้หนุนหลังเขาจะเป็นต้นไม้ใหญ่เฉกสมุหราชเลขาธิการหลันซาน ทว่าหนนี้ก็สุดปัญญาจะคุ้มหัวเขาได้อีกต่อไป

แน่นอนว่าบทลงเอยของพวกลูกสมุนของเจ้าเมืองหลี่อย่างที่ปรึกษาของเขารวมถึงนายอำเภอจยาเฟิงก็มิได้ดีไปกว่ากัน ทั้งหมดถูกองครักษ์จินหลินจับขึ้นเกวียนลำเลียงกรงขังนักโทษคุมตัวเข้าเมืองหลวงเช่นเดียวกัน

หน่วยองครักษ์ที่ต่อสู้กับพวกทหารในคืนนั้นหายตัวไปเงียบๆ ดังเดิมราวกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน คนที่หายตัวไปด้วยยังมีองครักษ์ฝีมือสูงส่งของเจ้าเมืองหลี่นามว่าหลิวหู่ซึ่งเป็นคนที่ลงมือกับชาวสกุลเฉียว

ยามก้าวออกจากประตูทางเข้าเรือนของหญิงขายเต้าหู้ เฉียวเจาได้กลิ่นคาวโลหิตที่ดูเหมือนยังไม่จางหายไปแล้วถอนใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง

ความสุขสงบนั้นหาได้ยาก แต่การทำลายมันกลับเป็นเรื่องง่ายดายเสียเหลือเกิน

เห็นทีว่าคนในหมู่บ้านไป๋อวิ๋นต้องอยู่กันอย่างหวาดผวาไปอีกเวลานาน

“ถ้าพวกเรามุ่งหน้าลงใต้ต่อไปล่ะก็ จะไม่สามารถประจานความชั่วร้ายที่เจ้าเมืองหลี่ได้กระทำกับชาวสกุลเฉียวของข้าได้ทันทีแล้ว” เฉียวเจากล่าวทอดถอนใจ

แม้ว่าพวกนางจะมีพยานหลักฐานอยู่ในมือ แต่เซ่าหมิงยวนไม่กลับเมืองหลวง ความจริงที่เกี่ยวกับเหตุไฟไหม้เรือนสกุลเฉียวก็ไม่อาจเปิดเผยให้รู้กันทั่วได้ในตอนนี้

เซ่าหมิงยวนยกมือแตะเรือนผมของนางเบาๆ แล้วลดมือลงอย่างรวดเร็ว เขากล่าวปลอบนางว่า “อย่าใจร้อน เจ้าเมืองหลี่ถูกองครักษ์จินหลินคุมตัวเข้าเมืองหลวงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง หลังจากไปถึงยังต้องผ่านการไต่สวนของสามตุลาการ ถึงจะปิดคดีและนำตัวเข้าคุกหลวง กว่าจะประหารชีวิตก็ต้องรอฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า เขาหนีความผิดที่กระทำไว้กับสกุลเฉียวไม่พ้นหรอก”

เฉียวเจาพยักหน้า “ข้าเข้าใจดี สกุลเฉียวประสบเภทภัยร้ายแรงในครานี้มีต้นเหตุมาจากแม่ทัพคั่งวอสิงอู่หยาง ไม่มีเรื่องที่เขายักยอกเบี้ยหวัดทหารและขุนนางกับโจรสมคบคิดกันก็จะไม่มีสมุดบัญชีสองเล่มนั้น ชาวสกุลเฉียวคงไม่ต้องจบชีวิตโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นนี้ กระนั้นต้นตอที่แท้จริงยังคงเป็นหลันซานสมุหราชเลขาธิการคนปัจจุบัน พวกเจ้าเมืองหลี่เป็นเพียงผู้ร่วมก่อกรรมทำชั่ว”

จะเป็นสิงอู่หยางก็ดี หรือหลันซานก็ดี พวกเขากระทำความผิดต่อสกุลเฉียวมากกว่าเจ้าเมืองหลี่มากมายนัก การกำจัดผู้ที่เป็นคนลงมืออย่างเจ้าเมืองหลี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ส่วนสิงอู่หยางกับหลันซาน ช้าเร็วนางต้องคิดบัญชีนี้กับพวกเขาทีละคน

ด้วยเหตุนี้การเดินทางสู่ทิศใต้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มีเพียงไปถึงที่นั่นและเสาะหาหลักฐานยืนยันว่าแถบชายทะเลตกอยู่ในสถานการณ์วุ่นวาย โอรสสวรรค์ผู้ฝักใฝ่ชีวิตอมตะพระองค์นั้นถึงยอมให้ความสำคัญโดยไม่กลัวปัญหายุ่งยาก คนในครอบครัวของนางจึงจะได้รับความเป็นธรรม

“แม่ทัพเซ่าพักรักษาตัวอีกสองสามวัน พวกเราค่อยออกเดินทางเถอะ”

เซ่าหมิงยวนหลุบตาลงมองเด็กสาวข้างกายโดยไม่เอื้อนเอ่ยวาจา

เฉียวเจาเหลือบตาขึ้น “มีอะไรหรือ”

เขาถอนหายใจยาวเหยียดเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืนเจาเจาเรียกข้าว่าพี่เซ่าแท้ๆ ไฉนเพิ่งหลับไปตื่นเดียวก็เปลี่ยนไปแล้ว”

แม่นางเฉียวกลอกตาขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

พอกันที ท่าทางเหมือนถูกคนหลอกลวงทิ้งขว้างเช่นนี้ของเขาไปหัดมาจากที่ใดกันแน่

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 15 .. 65  เวลา 12.00 .

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com