ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 1 บทที่ 5-บทที่ 6 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 1 บทที่ 5-บทที่ 6

บทที่ 6

สวนซิ่งจื่อมิใช่ชื่อของคฤหาสน์นอกเมืองอันใด แต่เพราะด้านหลังสวนซิ่งจื่อผืนนั้นเป็นเรือนหลังใหญ่ของสกุลเฉียว ที่พำนักของจอมปราชญ์นามกระเดื่องทั่วหล้า นานวันเข้าถึงถูกชาวบ้านบริเวณรอบๆ เรียกว่า ‘สวนซิ่งจื่อ’ แทนเรือนสกุลเฉียว

อยากไปสวนซิ่งจื่อก็ต้องผ่านหมู่บ้านไป๋อวิ๋น

ขณะใกล้ถึงยามโพล้เพล้ เสียงฝีเท้าม้าก็ดังทำลายความสงบเงียบของที่นี่

คนในหมู่บ้านยืนจับตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ จับจ้องผู้มาเยือน

พวกเขานิ่งเงียบมาก แต่คนทั้งสี่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศชอบกลบางอย่างในความเงียบที่ชวนให้อึดอัดนี้ได้

ไม่มีชาวบ้านพูดคุยหัวเราะกันเสียงดัง ไม่มีเด็กเล็กๆ ล้อมวงมุงดูคนแปลกหน้า ทุกคนที่นี่สวมชุดสีขาวทั้งๆ ที่เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว เมื่อมีแสงสีทองทั่วท้องนภาเป็นพื้นหลังกลับทำให้หนาวยะเยือกในอก

“สือซี ไฉนข้ารู้สึกว่าชาวบ้านเหล่านี้แปลกๆ จะลงม้าถามไถ่ดูสักหน่อยหรือไม่” หยางเอ้อร์ชักม้าไปหาฉือชั่นแล้วเอ่ยถาม

เฉียวเจาซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าตัวฉือชั่นมองดูทุกๆ อย่างที่ทั้งคุ้นเคยทั้งแปลกตา นางกวาดสายตามองดวงหน้าเฉยชาแกมเศร้าหมองของชาวบ้านไปทีละคน ในใจพลันหนักอึ้ง ลมหายใจก็เริ่มติดขัด

นางบอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร คลับคล้ายตรงกลางอกถูกหินก้อนมหึมากดทับไว้ เสียงฝีเท้าม้านั่นราวกับไม่ได้ย่ำกับพื้น หากแต่เหยียบลงบนหัวใจนาง

“รีบไปเถอะ…” เฉียวเจาพยายามไม่ให้ใครสังเกตเห็นความผิดปกติของตนอย่างสุดกำลัง นางเปล่งเสียงพูดคำนี้อย่างยากเย็น

ฉือชั่นรับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเช่นเดียวกัน เขาบอกกับหยางเอ้อร์ “ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว ข้าจำทางได้”

เขาใช้สองเท้ากระทุ้งท้องม้าแรงๆ มันก็ออกวิ่งเร็วขึ้น จูเยี่ยนกับหยางเอ้อร์รีบไล่ตามไป

อาชาพ่วงพีสามตัวห้อฝีเท้าเต็มเหยียดจากไปจนฝุ่นตลบตลอดทาง พวกชาวบ้านสบตากันแล้วส่ายหน้าทอดถอนใจ จากนั้นแยกย้ายกันไปเงียบๆ

พอข้ามหมู่บ้านนี้ไป แลเห็นสวนซิ่งจื่อผืนนั้นอยู่ลิบๆ

ยามนี้ดอกซิ่งผลิบานแล้ว มองจากไกลๆ ดุจดั่งปุยเมฆย้อมแสงสนธยางดงามผืนใหญ่ ส่องสะท้อนกับแสงทองสุดท้ายของวันตรงปลายฟ้าทอประกายเรืองรองละลานตา

ขอบตาของเฉียวเจาแดงเรื่อโดยไม่รู้ตัว

ท่านปู่เคยบอกว่าดอกซิ่งทนความหนาวได้ อากาศยิ่งหนาวยิ่งผลิบานเร็วขึ้น อีกทั้งช่วงเวลาออกดอกยาวนานกว่าดอกท้อ

ท่านปู่ชื่นชอบดอกซิ่ง

บัดนี้ดอกซิ่งยังอยู่ แต่คนที่นางเคารพรักมากที่สุดกลับหลับใหลไปชั่วนิรันดร์แล้ว

“ย่าห์…” ฉือชั่นไม่มีแก่ใจชมความงามของทิวทัศน์อย่างเห็นได้ชัด พริบตาเดียวก็มาถึงหน้าสวนซิ่งจื่อ เขาพลิกกายลงจากหลังม้าแล้วผูกโยงมันไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่ง พาทุกคนเดินลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆ ในสวน

เฉียวเจาลอบกำมือเป็นหมัด กลางอุ้งมือเต็มไปด้วยเหงื่อ

นางตื่นเต้นถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่ กระทั่งตอนเข้าพิธีมงคลใหญ่โตยังไม่เคยเป็นเช่นนี้

นี่คงเป็นดังคำกล่าวที่ว่ายิ่งใกล้บ้านเกิดยิ่งพรั่นใจกระมัง เป็นธรรมดาของปุถุชน เฉียวเจาปลอบใจตนเองเช่นนี้

ฉือชั่นที่เดินอยู่ข้างหน้านางจู่ๆ ก็หยุดฝีเท้า

เฉียวเจาใจกระตุกวูบ “เกิดอะไร…”

ถ้อยคำหลังขาดหายไปกะทันหัน ภาพซากปรักหักพังเบื้องหน้าทำให้ใบหน้านางซีดเผือดทันควัน ร่างโงนเงนไปมาจนนางต้องคว้าอะไรบางอย่างใกล้ๆ ไว้แน่นถึงฝืนทรงตัวไว้ได้

ฉือชั่นไล่สายตาลงมองมือของเด็กสาวที่จับแขนเสื้อตนไว้

ฝ่ามือข้างนั้นเรียวเล็กบอบบางและขาวเนียนดุจหยก เห็นเส้นเลือดสีเขียวบนนั้นได้ชัด

เขานิ่งเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะมองหยางเอ้อร์แวบหนึ่ง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com