ฉือชั่นที่ยังอยู่ในวัยเยาว์ต้องเผชิญกับเหตุพลิกผันในครอบครัวอย่างไม่คาดฝันต่อๆ กัน รวมถึงพวกคนที่แฝงเจตนาร้ายต่างๆ นานาแม้ว่าจะอำพรางไว้ได้อย่างดีก็ตาม ส่งผลให้เขากลายเป็นคนขวางโลกมากขึ้นทุกวัน กอปรกับรูปโฉมที่ถอดแบบมาจากบิดา ยิ่งเติบใหญ่ยิ่งหล่อเหลาสง่างาม ด้านองค์หญิงใหญ่ก็ประเดี๋ยวใกล้ชิดประเดี๋ยวห่างเหินกับบุตรชายผู้นี้ แต่พวกหญิงสาวในเมืองหลวงกลับวิ่งไล่ตามอย่างคลั่งไคล้ ทำให้เขามีนิสัยแปลกประหลาดมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเสียงซุบซิบนินทาซึ่งได้ยินมาบ้างหลังแต่งเข้าจวนจิ้งอันโหว นางดึงความคิดคืนมาแล้วอดมองไปทางฉือชั่นด้วยสายตาแกมเห็นใจจางๆ อย่างช่วยไม่ได้
เทียบกับเขาแล้ว บิดามารดาของนางแสนจะปกติปานใดหนอ!
ฉือชั่นสัมผัสได้อย่างเฉียบไวเป็นพิเศษ แววตาแปลกๆ ของเด็กสาวนั้นทิ่มแทงใจเขา
“มีอะไรไม่สะดวกใจกัน” เขากล่าวอย่างเย็นชาแล้วปรายตามองเฉียวเจาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ทั้งยังเผยรอยยิ้มดูแคลนตรงมุมปากที่เหยียดยกขึ้น “บอกเจ้าแล้วจะมีประโยชน์อันใด”
เฉียวเจาเป็นคนใจคอกว้างขวาง หากเปลี่ยนเป็นยามปกติบางทีนางอาจพูดล้อเล่นตามสบายสองสามคำผ่อนคลายบรรยากาศกระอักกระอ่วน แต่ครอบครัวนางเพิ่งประสบเภทภัยใหญ่หลวง จะเป็นคนเปิดเผยรู้จักปล่อยวางเพียงใดก็ไม่มีแก่ใจพูดคุยเรื่อยเปื่อยในเวลานี้ เมื่อเห็นเขาไม่มีท่าทีจะบอก นางก็ไม่คะยั้นคะยออีก เปล่งเสียงรับในลำคอเอื่อยๆ แล้วหยิบเม็ดหมากที่ฉือชั่นโยนกลับลงโถมาเดินหมากที่ค้างคาอยู่กับตนเองต่อไป
เดิมทีฉือชั่นรอนางกล่าวตอบอยู่ ปรากฏว่าได้ยินเสียง “อ้อ” ในลำคอคำเดียว แม่นางน้อยก็เริ่มเดินหมากคนเดียวอย่างเพลิดเพลิน พลันความรู้สึกโกรธก็พลุ่งขึ้นมาจุกติดกลางลำคอกลืนก็ไม่เข้าคายก็ไม่ออก พาให้ดวงหน้าหล่อเหลาง้ำงอไปหมด
‘อ้อ’ ต้องเป็นเสียงตอบที่น่าชิงชังมากที่สุดอย่างที่ไม่มีคำใดเทียบได้เด็ดขาด! ฉือชั่นคิดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
จูเยี่ยนทนดูต่อไปไม่ไหว เขากำมือจ่อริมฝีปากแล้วส่งเสียงไอเบาๆ “สือซี ขอโทษด้วย ถ้ามิใช่ข้าอยากดูภาพวาดของอาจารย์เฉียว ภาพนั้นคงไม่เสียหาย แล้วก็คงไม่เป็นต้นเหตุทำให้เจ้าต้องเดินทางไกลเป็นพันลี้อย่างสูญเปล่า…”
กระนั้นฉือชั่นใจกว้างกับสหายรักเป็นพิเศษ เขาโบกมือไปมาพลางกล่าว “ตอนนี้พูดเรื่องนี้ไปก็ไร้ความหมาย ข้าคิดหาหนทางอื่นเป็นอันสิ้นเรื่อง”
“ท่านพ่อข้ายังมี ‘ภาพโคห้าตัว’ ของท่านปรมาจารย์หานในมืออีกภาพหนึ่ง…”
ฉือชั่นตัดบทจูเยี่ยน “มารดาข้าไม่สนใจภาพวาดของจิตรกรเอกราชวงศ์ก่อนพวกนั้นเลย นางชมชอบแต่ภาพวาดของอาจารย์เฉียว”
ดวงตาของเฉียวเจาทอประกายวูบ
องค์หญิงใหญ่ฉางหรงชมชอบภาพวาดของท่านปู่?
เฉียวเจามีปฏิภาณไหวพริบดี ฉุกคิดถึงเรื่องที่ฉือชั่นมาเยือนถึงที่ขอร้องให้ท่านปู่ชี้แนะทักษะการวาดภาพให้เขาเมื่อสามปีก่อนได้อย่างว่องไว
คนทั่วหล้าล้วนล่วงรู้ว่าช่วงบั้นปลายชีวิตท่านปู่สุขภาพอ่อนแอ ไม่มีแรงกายแรงใจสอนใครมานานแล้ว หรือว่าคนผู้นี้ขอร้องให้ท่านปู่ชี้แนะทักษะวาดภาพเป็นคำเท็จ จุดมุ่งหมายแท้จริงคือขอภาพวาดจากท่านปู่ต่างหาก
ด้วยชื่อเสียงฐานะของท่านปู่ในหมู่บัณฑิตนักปราชญ์ หากเวลานั้นฉือชั่นขอภาพวาดตรงๆ เป็นไปได้มากว่าจะถูกปฏิเสธทันที แต่คนผู้นี้เอ่ยอ้างเหตุผลขอคำชี้แนะและตามตื๊อท่านปู่ไม่เลิกรา ท้ายที่สุดท่านต้องยอมยกภาพวาดภาพหนึ่งให้เป็นการไล่เขากลับไป
เฉียวเจาอดมองฉือชั่นอย่างพินิจไม่ได้