บทที่ 755
องค์หญิงใหญ่ฉางหรงกลับถึงวังแล้วอารมณ์ไม่ดีถึงขีดสุด นางทำหน้าตาบอกบุญไม่รับอยู่ตลอดแม้แต่ตอนที่ฉือชั่นเข้ามาแสดงคารวะ
ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจชอบกล เขาลอบสอบถามเหตุการณ์ตอนนายหญิงตราตั้งถวายพระพรแก่ไทเฮาแล้วในใจเขายิ่งกังขามากขึ้น จึงจับตาดูความเคลื่อนไหวของมารดาอยู่ลับๆ
ผ่านไปเพียงสองวันแพทย์หลวงหยางเข้าสู่วังองค์หญิงใหญ่อย่างเงียบๆ แต่ตอนกลับไปสองขาของเขาสั่นระริก หน้าตาซีดเผือดคล้ายคนเสียขวัญไปแล้วก็ไม่ปาน
ฝ่ามือเรียวยาวขาวกระจ่างข้างหนึ่งจับข้อมือของแพทย์หลวงหยางเอาไว้ ก่อนที่เขาจะร้องอุทานก็มีมืออีกข้างหนึ่งปิดปากเขาไว้ จากนั้นลากตัวเข้าไปในเรือนชาวบ้านธรรมดาๆ หลังหนึ่งในตรอกเล็ก
แพทย์หลวงหยางถูกตรึงตัวไว้กับบานประตู พอปากได้รับอิสระเขาก็เอ่ยถามอย่างแตกตื่นลนลาน “จะ…เจ้าเป็นใคร”
ครั้นเห็นรูปโฉมโนมพรรณของคนผู้นั้นได้ถนัดตา เขานิ่งงันไปก่อนพูดด้วยน้ำเสียงแปลกแปร่ง “คุณชายฉือ?”
ฉือชั่นหรี่ตาลงกล่าวเสียงเย็นๆ “ท่านแม่ข้าเป็นอะไร”
“องค์หญิงใหญ่…” แพทย์หลวงหยางตอบไม่ออก
บอกเรื่องที่องค์หญิงใหญ่ตั้งครรภ์ต่อบุตรชายนางจะเหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะบิดาของเด็กในครรภ์เป็นผู้ใดก็ไม่กระจ่างแน่ชัด
“พูด” ฉือชั่นทำสีหน้าดุดัน
หลายวันมานี้ท่านแม่ดูผิดปกติอย่างยิ่งยวด อีกทั้งแพทย์หลวงยังทำท่ามีลับลมคมในอย่างนี้อีก ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้
หรือว่าท่านแม่จะเป็นโรคร้ายที่รักษาไม่ได้…
เมื่อคิดถึงความเป็นไปข้อนี้ฉือชั่นก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
หลายปีมานี้ไม่ว่าระหว่างพวกเขาสองแม่ลูกจะมีปมในใจอะไรอยู่ แต่ที่สุดแล้วนางคือมารดาของเขา มารดาคนที่เอาเลือดของตนเองป้อนให้เขาดื่มเพื่อให้มีชีวิตรอดมาได้บนเขาหลิงไถ
“คุณชายฉือ คือว่า…” แพทย์หลวงหยางลังเลไม่แน่ใจ
บอกไปแล้วต้องพบกับจุดจบไม่ดีแน่ แต่ไม่บอกก็ดูเหมือนจะไม่พบกับบทลงเอยที่ดีเช่นเดียวกัน บอกหรือไม่บอกเป็นปัญหาที่บีบคั้นหัวใจโดยแท้
ฉือชั่นชักมีดสั้นที่เปล่งประกายเย็นเยียบออกมา ใบหน้างามเลิศฉาบด้วยน้ำค้างแข็งชั้นหนึ่ง “จะไม่พูดจริงๆ หรือ”
แพทย์หลวงหยางย่นหัวคิ้วเข้าหากัน “คุณชายฉือ ข้าได้รับพระเสาวนีย์ขององค์ไทเฮามาตรวจพระอาการขององค์หญิงใหญ่ หากไม่กลับไปเกรงว่าองค์ไทเฮาจะทรงส่งคนมาตามหานะขอรับ”
เขาไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าหนุ่มเหลือขอผู้นี้จะกล้าสังหารเขา
ฉือชั่นหัวเราะขลุกขลัก “วางใจได้ ข้าไม่สังหารคน”
เขากล่าวจบก็ควงมีดสั้นในมือด้วยท่วงท่างดงามก่อนตวัดแทงไปที่ลำตัวท่อนล่างของแพทย์หลวงหยางด้วยความว่องไวดุจดาวตก
แพทย์หลวงชราทำตาเหลือกสิ้นสติไป
ฉือชั่นพูดอะไรต่อไม่ออก “…”
ผ่านไปนานเท่าไรก็สุดรู้แพทย์หลวงหยางตื่นขึ้นในที่สุด ใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มของฉือชั่นสะท้อนเข้าคลองจักษุ เขาเลื่อนมือลงไปจับๆ คลำๆ โดยไม่รู้ตัว
ยังอยู่!
แพทย์หลวงหยางถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ มาตรว่าเขามีอายุปูนนี้แล้ว แต่ศักดิ์ศรีของบุรุษจะสูญสิ้นไปมิได้
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังลอยมา “ไม่ต้องคลำหาแล้ว ตอนนี้ยังอยู่มิได้หมายความว่าหลังจากนี้จะยังอยู่”
แพทย์หลวงหยางรู้สึกกรุ่นโกรธอยู่ในใจ เจ้าลูกเต่าบัดซบข่มขู่ข้ารึ!
ฉือชั่นใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดผืนหนึ่งเช็ดมีดสั้นพลางยิ้มพรายกล่าวว่า “แพทย์หลวงหยางก็ถือได้ว่าเห็นข้ามาตั้งแต่เล็กจนโต คงรู้นิสัยข้าดีกระมัง ถึงจะก่อปัญหาอะไรขึ้นจริงๆ อย่างมากข้าไม่เอาชุดขุนนางบนตัวชุดนี้ก็ได้ เสด็จยายกับเสด็จลุงยังจะทำอย่างไรกับข้าได้อย่างนั้นหรือ”
แพทย์หลวงหยางยกมือปาดเหงื่อออก
“ข้าจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ท่านแม่ข้าเป็นอะไร”
ครั้นเห็นมีดสั้นแผ่ประกายเย็นเยียบน่ากลัวขยับมาใกล้ขึ้นๆ ชายชราหลับตาลงบอกเสียงดัง “องค์หญิงใหญ่ทรงตั้งพระครรภ์แล้ว”
มีดสั้นร่วงหล่นลงปักเข้าหลังฝ่าเท้าของฉือชั่นพอดี โลหิตสีแดงฉานซึมออกมาจากรองเท้าหนังในพริบตา
“คุณชายฉือ เท้าของท่านได้รับบาดเจ็บแล้ว ต้องทำแผล…”
ฉือชั่นยื่นมือกระชากตัวเขาเข้ามาหา ก่อนพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกใด “พูดประโยคเมื่อครู่นี้ซ้ำอีกทีซิ”
แพทย์หลวงหยางเห็นท่าทางเย็นชาของเขาที่ยังแฝงความพยศเฉกเด็กหนุ่มไว้หลายส่วนแล้วก็ลอบถอนใจก่อนกล่าวขึ้น “องค์หญิงใหญ่ทรงตั้งพระครรภ์แล้ว วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อขับเด็กในพระครรภ์องค์หญิงใหญ่…”
“เช่นนั้นเหตุใดท่านถึงกลับเร็วนัก” ฉือชั่นรู้สึกว่าหัวสมองของเขาเจียนแตกออกรอมร่อ ทว่าไม่รู้เหตุใดหัวใจกลับสงบนิ่งจนน่าแปลก ราวกับไม่รู้สึกถึงการเต้นของมัน