ทว่าเพียงแค่ปฏิเสธไม่ตรวจอาการให้ลูกสะใภ้คนเล็กของนาง นายหญิงตราตั้งขั้นสามผู้หนึ่งก็กระทำเรื่องพรรค์นี้ออกมามันคุ้มค่าหรือ
เฉียวเจาเม้มปาก นางไม่คิดว่าผู้ที่มีศักดิ์ฐานะในระดับหวังซื่อจะกระทำเรื่องที่ให้ร้ายคนอื่นเพื่อระบายความโกรธแต่ประการเดียวโดยไม่หวังผลอื่นใด
หวังซื่อได้ประโยชน์อะไรจากการทำลายชื่อเสียงของนาง
ความคิดในหัวเฉียวเจาแล่นไปมาหลายตลบ นางแลมองต้นพุทธรักษากอหนึ่งนอกหน้าต่างแล้วกระจ่างแจ้งในบัดดล
สามีไปออกศึกแดนไกล ภรรยามีข่าวลือว่าคบชู้ถูกคนหัวเราะเยาะ หากเป็นสามีภรรยาทั่วไป หลังจากสามีกลับมาจะมีผลลัพธ์เช่นไร
เกรงว่าหนังสือหย่าแผ่นเดียวยังน้อยไปด้วยซ้ำ
ถ้านางหย่ากับสามีแล้วกลับสกุลเดิม ดูจากที่ผ่านมาสกุลหลีปกป้องนางมาโดยตลอด ชีวิตย่อมปลอดภัยไร้ข้อกังวลใดๆ แต่ชื่อเสียงของสกุลหลีกับสถานการณ์ของนางคงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งแล้ว
ถึงตอนนั้นตำแหน่งฮูหยินเสนาบดีศาลยุติธรรมอันทรงเกียรติก็จะมีประโยชน์มากเป็นพิเศษใช่หรือไม่
เฉียวเจาเดินไปที่ริมหน้าต่างมองต้นพุทธรักษาที่งามสดสวยไม่เป็นสองรองใคร นางรู้สึกหนาวเย็นยะเยือกถึงกลางใจ
‘คนไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินลงทัณฑ์’ นางได้รู้ซึ้งอีกคำรบหนึ่งว่าใช้คำกล่าวนี้กับคนบางคนแล้วเหมาะเจาะปานใด
“ฮูหยิน ข้ายังพบเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากขอรับ”
“เรื่องอะไร” นางหมุนกายกลับมา
“คนของเราจับตาดูคนในครอบครัวของพวกเขาอยู่ตลอดมิใช่หรือขอรับ วันก่อนลูกสะใภ้คนเล็กกลับสกุลเดิม ได้ยินโดยบังเอิญตอนนางร้องไห้ปรับทุกข์ว่าสามีนอนอยู่ห้องด้านข้างตลอด แล้วจะมีบุตรได้ที่ใดกัน…”
ครั้นปะทะเข้ากับสายตาแปลกใจน้อยๆ ของเฉียวเจา เฉินกวงเกาท้ายทอยอย่างกระดากใจ เขารีบกล่าวอธิบาย “ฮูหยิน มิใช่ว่าพวกข้ามีเจตนาแอบฟังเรื่องส่วนตัวของสามีภรรยานะขอรับ แค่ได้ยินโดยไม่ตั้งใจ…”
“นี่คือเรื่องน่าสนใจที่เจ้าบอกหรือ” เฉียวเจาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าคู่สามีภรรยาหนุ่มสาวที่เข้ากันไม่ได้น่าสนใจที่ตรงใด
แค่กๆ นอนแยกห้องกันตลอดก็ต้องเข้ากันไม่ได้แน่นอน
“ไม่ใช่เรื่องนี้แน่นอน…” เฉินกวงพูดถึงตรงนี้แล้วชะงักกึก ดวงหน้าขาวเกลี้ยงเป็นสีแดงเรื่อๆ อย่างน่าสงสัย
แววตาของเฉียวเจาทอประกายวูบหนึ่ง นางเอ่ยถามว่า “มีอะไร”
“ฮูหยิน พูดเรื่องนี้ออกมากลัวว่าหูของท่านจะแปดเปื้อนขอรับ”
เฉียวเจายิ้มแล้ว “คนข้างนอกนินทาข้าอย่างนั้น ข้ายังอยู่ดีมีสุข แล้วจะมีเรื่องอะไรที่ฟังไม่ได้”
เฉินกวงชั่งใจเล็กน้อยก่อนทำใจแข็งกล่าวว่า “บุตรชายคนเล็กของพวกเขามีใจเสน่หาบุรุษขอรับ”
“มีใจเสน่หาบุรุษ?”
“ขอรับ ก็คือไม่ชมชอบสตรี ชมชอบแต่บุรุษ คนของเราสะกดรอยตามบุตรชายคนเล็กของพวกเขาไป พบเห็นเขาอยู่กับบุรุษผู้หนึ่ง ฮึๆ เขายังเป็นฝ่ายที่โดนทับอยู่ด้านล่างด้วยนะ…” เฉินกวงรีบปิดปาก เขาทำตาละห้อยมองเฉียวเจา
ข้าเป็นคนจริงจังมากจริงๆ ฮูหยินอย่าได้เข้าใจผิดเด็ดขาดนะ!
บุรุษกับบุรุษ…
ในใจแม่นางเฉียวยามนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกตะลึงพรึงเพริด ภาพในสมุดเล่มเล็กๆ วนเวียนอยู่ในห้วงความคิดคล้ายโคมม้าวิ่ง
นางมั่นใจว่าในสมุดเล่มเล็กไม่มีภาพอธิบายในเชิงนี้!
* เมล็ดมะกล่ำตาหนู ชาวจีนเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าถั่วแห่งความคิดถึง นิยมนำมาร้อยเป็นสร้อยข้อมือเพื่อเป็นของที่ระลึกของคนรัก
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 6 ธ.ค. 65 เวลา 12.00 น.