“ข้าวฟ่างเป็นธัญพืชหลัก ชาวบ้านที่เพาะปลูกไม่มีหนึ่งหมื่นก็มีแปดพัน ตระกูลนักปรับปรุงพันธุ์พืชใหญ่ๆ ทำความเข้าใจการปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ของมันจนปรุโปร่งหมดแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องปรับปรุงอีก” ซารั่วเอินกล่าว “ต่อให้พวกเราปรับปรุงเมล็ดพันธุ์จำหน่ายที่ดีเพียงใดออกมา สุดท้ายก็เป็นดั่งแสงดาวที่ถูกตะวันจันทราบดบัง มิสู้คิดค้นเมล็ดพันธุ์แปลกๆ จึงจะทำให้คนหันมาสนใจได้!”
ซารั่วเอินปรับปรุงพันธุ์พืชมานานปี จึงมีความคิดเป็นของตนเอง
ศิษย์คนอื่นๆ ไม่แสดงความเห็น ทางหนึ่งพวกเขาไม่กล้าล่วงเกินหวงหร่าง เพราะเกรงว่าจะเสียแปลงปลูกทดลองที่ดีถึงเพียงนี้ไป อีกทางหนึ่งพวกเขาก็ไม่สนับสนุนหวงหร่างเช่นกัน ถึงอย่างไรเมื่อก่อนนางก็เป็นปลาเค็มตัวหนึ่ง ปราศจากความน่าเชื่อถือ
ทุกคนต่างเฝ้ารอว่าหวงหร่างจะโต้แย้งซารั่วเอินอย่างไร
ละครสนุกเช่นนี้ใครบ้างไม่ชอบดูเล่า หากทั้งสองถกเถียงกันขึ้นมา ทุกคนย่อมได้ชมความครึกครื้น
หวงหร่างมองดูซารั่วเอินพลางเอ่ยว่า “สมัยข้าเป็นเด็กก็คิดเช่นนี้”
ซารั่วเอินยิ้มหยัน “สมัยท่านเป็นเด็ก? สมัยท่านเป็นเด็กมิใช่อยู่ในสำนักปรับปรุงพันธุ์พืชแต่ไม่เคยปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ใดออกมาสักอย่างหรือ”
รอบด้านมีคนหัวเราะออกมา หวงหร่างกระดิกนิ้วเรียกเขา ซารั่วเอินย่อมไม่กลัวอยู่แล้ว เขาเดินไปตรงหน้าหวงหร่าง หวงหร่างบอกให้เขาแบมือออก จากนั้นก็วางเมล็ดพันธุ์เมล็ดหนึ่งลงบนมือเขา
ซารั่วเอินก้มหน้าก็พบว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวฟ่าง
เมื่อมอบเมล็ดพันธุ์ให้แล้ว หวงหร่างก็ไอเสียงดังกลบเสียงอื่นๆ ไป
ทุกคนต่างคิดว่านางจะพูดเรื่องสำคัญ จึงอดหันมามองมิได้
หวงหร่างกวาดสายตามองทุกคนอย่างน่าเกรงขาม โบกมือและใช้คำพูดแค่ประโยคเดียวซื้อใจคน
นางเอ่ยว่า “หากไม่เชื่อฟังก็จะไม่ได้แปลงปลูกทดลอง!”
ทุกคนเริ่มปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ข้าวฟ่างตามคำชี้แนะของหวงหร่าง ส่วนซารั่วเอินยังคงไม่ยอมรับ แต่แปลงปลูกทดลองของสำนักปรับปรุงพันธุ์พืชก็เล็กเกินไปจริงๆ…
หวงหร่างมองดูศิษย์กลุ่มนี้ก้มหน้าหว่านเมล็ดพันธุ์ ลอบสาแก่ใจ…คนเรายังคงต้องมีที่ดินที่นา เช่นนี้ข้าก็ไม่ต้องมีเหตุผลด้วยซ้ำ…
และข่าวที่สร้างความตื่นเต้นมากยิ่งกว่าก็แพร่ออกมาไม่นานหลังจากนั้น
เมล็ดพันธุ์จำหน่ายที่ใต้เท้าเจ้ากรมซื้อจากตระกูลนักปรับปรุงพันธุ์พืชใหญ่ๆ ในปีนี้เป็นสองในสามส่วนของปีที่ผ่านมาเท่านั้น เขาเหลือหนึ่งในสามส่วนไว้เพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์จำหน่ายจากหวงหร่างโดยเฉพาะ
เงื่อนไขคือเมื่อขายเมล็ดพันธุ์จำหน่ายเหล่านี้จะไม่มีการกำหนดจำนวนที่นาของชาวนาที่ซื้อเมล็ดพันธุ์ไปเพาะปลูก
เรื่องนี้ตระกูลนักปรับปรุงพันธุ์พืชใหญ่ๆ ยังคิดจะคัดค้าน แต่กลับไม่สำเร็จ
เมื่อเมล็ดพันธุ์จำหน่ายชุดนี้เก็บเกี่ยวได้ก็ใช้ฉลากผนึกของตี้ซานเมิ่ง พอศิษย์ทั้งหลายเห็นชื่อของตนเองปรากฏอยู่บนฉลากผนึกของตี้ซานเมิ่ง ทุกคนล้วนมีน้ำตาร้อนเอ่อคลอ ซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง
และความเชื่อมั่นที่ราษฎรมีต่อตี้ซานเมิ่งก็ทำให้เมล็ดพันธุ์จำหน่ายเหล่านี้ถูกขายออกไปจนหมดก่อนเวลาอย่างไร้อุปสรรค
สำนักปรับปรุงพันธุ์พืชก่อตั้งมาหลายสิบปียังไม่เคยขายเมล็ดพันธุ์จำหน่ายได้มากเท่านี้มาก่อน