คนงามรินน้ำทิพย์เบาๆ ดื่มไปครึ่งถ้วย ใต้เท้าเจ้ากรมนั่งลงตรงข้ามนางอย่างอดมิได้ คนงามใช้มือประคองถ้วยแล้วยื่นไปที่ริมฝีปากเขา ใต้เท้าเจ้ากรมได้กลิ่นหอมอ่อนจาง กลิ่นนั้นดั่งมธุรสดั่งบุปผา ขจัดความไม่ชื่นชอบที่เขามีต่อแป้งชาดน้ำมันหอมไป
ถ้วยหยกถูกยกมาที่ริมฝีปาก เขาอ้าปากดื่มเล็กน้อย ในถ้วยหยกมิใช่เมรัย แต่ดื่มเข้าไปกลับสดชื่นดั่งปั้วเหอ คนงามรอเขาลิ้มรสเสร็จก็เก็บมือกลับมา ปลายนิ้วนางเย็นเล็กน้อย ลูบกลางหน้าผากเขาเบาๆ แล้วเลื่อนลง ไล้ผ่านสันจมูก กลีบปาก สุดท้ายหยุดตรงลูกกระเดือกเขาครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็วางถ้วยและลงไปในสระ
ตี้อีชิวได้ลิ้มรสหวานสดชื่นเพียงน้อยนิดจากริมฝีปาก ทั้งยังได้กลิ่นหอมอ่อนจางของบุปผา
เขายื่นมือออกไปหมายจะคว้าท่อนแขนหยกของคนงาม แต่ผิวพรรณของคนงามนุ่มลื่น นางถอยหลังไปช้าๆ ดังนั้นแม้กระทั่งปลายนิ้วจึงหลุดจากมือเขาไปด้วย มือของใต้เท้าเจ้ากรมคว้าได้เพียงแขนเสื้อผ้าโปร่งครึ่งหนึ่งเท่านั้น
แขนเสื้อผ้าโปร่งบางเบา เขาไม่อาจหักใจออกแรง ได้แต่ปล่อยให้มันลื่นผ่านฝ่ามือไปประดุจเม็ดทราย
แขนเสื้อผ้าโปร่งของคนงามทิ้งตัวลง บดบังสายตาของเขา เท้าเปล่าของนางก้าวถอยหลังลงไปในน้ำอีกครั้ง น้ำในสระที่ดูลึกท่วมเท้าเล็กของนาง ทำให้ผ้าโปร่งบางพลิ้วเปียกชุ่ม สุดท้ายนางก็จมลงไปอย่างช้าๆ
ตี้อีชิวยื่นมือออกไป กุมมือหยกที่ประคองดอกบัวเอาไว้ นิ้วมือทั้งห้าของนางคลายออก ดอกบัวลอยล่องบนผิวน้ำ
ภาพตรงหน้าช่างงดงาม เห็นแล้วน่าตกใจยิ่ง
ตี้อีชิวไม่สนใจอะไรอีก ตามนางลงไปในน้ำ
น้ำในสระเย็นเล็กน้อย ท่ามกลางผืนน้ำใสกระจ่างนี้ ผ้าโปร่งสีขาวของนางแผ่พลิ้วดั่งหยกงามที่กำลังหลอมละลาย
น้ำในสระค่อยๆ โอบกอดนาง นางจมลงไปอีกครั้ง
เขาไล่ตามไป วงแขนดั่งงูน้ำของนางจึงเลื้อยพันเขาอย่างช้าๆ ริมฝีปากนางยื่นเข้ามา ลมหายใจของคนงามหอมดุจกล้วยไม้ ในน้ำที่เย็นเล็กน้อยมีเพียงริมฝีปากอวบอิ่มของนางที่อุ่นร้อน
ใต้เท้าเจ้ากรมมิได้ดื่มสุรา แต่โลหิตของเขากลับเดือดพล่านปั่นป่วน
เขาตอบกลับด้วยจุมพิตล้ำลึกที่เร่าร้อนยิ่งกว่า ผ้าโปร่งของคนงามถูกปลดเปลื้องไปในสายน้ำ พลิ้วไหวดุจก้อนเมฆ นั่นเป็นความงามที่เย้ายวนวิญญาณปานใด
ทว่าเขาที่มิได้ฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนมิอาจอยู่ใต้น้ำได้นานนัก โดยเฉพาะเมื่อลมหายใจสับสนยิ่งมิอาจกลั้นหายใจได้นาน
คนงามดึงเขาลงไปที่ก้นสระ รั้งอยู่ในอ้อมแขนเขาชั่วครู่ จากนั้นมือขาวเนียนของนางก็ออกแรงผลักเขาออก
ท่ามกลางประกายแสงสีฟ้า ใต้เท้าเจ้ากรมมองดูนางจมลงไปที่ก้นสระ ส่วนตนเองถูกนางดันกลับขึ้นไปบนผิวน้ำ เขาสูดหายใจเข้าคราหนึ่งและดำดิ่งลงไปอีกครั้งทันที แต่ใต้น้ำกลับไม่มีคนงามดั่งหยกแล้ว
ใต้เท้าเจ้ากรมเสาะหาจนทั่ว พบเพียงกระดูกคนงามที่ทำจากผลึกแก้วสีชมพูท่อนหนึ่ง
“อาหร่าง…” เขาเสาะหาไปทั่ว ทว่าใต้น้ำไร้เสียง ทั้งยังว่างเปล่าปราศจากคน เขาจึงได้แต่นำกระดูกคนงามท่อนนี้ว่ายกลับเข้าฝั่ง เสียงสังคีตหลังฉากบังลมค่อยๆ หยุดลง ประตูห้องเปิดออก บ่าวชายนำเสื้อผ้าเข้ามาให้
“คุณชายชิว เชิญเปลี่ยนเสื้อผ้าขอรับ” บ่าวชายยิ้มพลางพูด