ครั้งนี้เทียนไขสว่างขึ้นกว่าเดิม ภายใต้แสงสว่างจ้า ในที่สุดใต้เท้าเจ้ากรมก็มองเห็นชัดเจนว่าในห้องนี้มีเพียงสระน้ำกับฉากบังลมเท่านั้น หลังฉากบังลมมีนักดนตรีแค่สองสามคน
เขามองไปยังสระน้ำอีกครั้ง ในน้ำไม่พบร่องรอยของคนงาม มีเพียงดอกบัวสีขาวดอกหนึ่งลอยกระเพื่อมตามคลื่นน้ำอยู่
ใต้เท้าเจ้ากรมย้อนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ รู้สึกเหมือนจมลงสู่เมฆหมอกและห้วงฝัน
บ่าวชายยิ้ม “ข้าน้อยบอกแล้วว่าที่นี่…มีผีหลอก คุณชายเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็รีบจากไปเถิด” กล่าวจบเขาก็ชำเลืองมองกระดูกแก้วผลึกสีชมพูในมือใต้เท้าเจ้ากรม จากนั้นก็ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “เป็นโครงกระดูกสีชมพูแท้ๆ”
ตี้อีชิวกำกระดูกคนงามท่อนนั้น เข้าใจกิเลสและความปรารถนาในโลกมนุษย์นับแต่นี้ไป
ทางด้านหวงหร่างกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า
เจ้าหอช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยตนเองพลางพูดเบาๆ “ความชื่นชอบเล็กน้อยของบุรุษนี้นับว่าถูกเจ้าเอามาเล่นสนุกอย่างช่ำชอง!”
หวงหร่างหัวเราะคิกคัก “มิใช่เพราะพบคนที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้หรือ จึงเปิดหูเปิดตาให้เขาสักหน่อย”
เจ้าหอเอ่ยว่า “ด้วยความสามารถนี้ของเจ้า บุรุษเช่นไรบ้างที่จะคว้ามาครองไม่ได้ ไยจำเพาะต้องเลือกแตงที่ยังไม่สุก ด้วยเล่า!”
“หึ” หวงหร่างไม่ชอบฟังเสียแล้ว “แตงนี้นอกจากอ่อนไปบ้าง อย่างอื่นล้วนดีมาก”
เจ้าหอเข้าใจ “ดูจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเขาคงเป็นผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวง ทั้งยังหล่อเหลาอ่อนเยาว์ เฮ้อ ไม่แปลกที่เจ้าจะทุ่มเทถึงเพียงนี้ แต่อุตส่าห์มาถึงขั้นนี้แล้ว ไยเจ้าถึงไม่ปล่อยให้เรื่องราวเป็นไปตามครรลอง ค้างแรมกับเขาเสียเลยเล่า”
หวงหร่างสวมเสื้อผ้าเสร็จก็ตอบว่า “ทำเช่นนั้นไม่ได้ นั่นจะเป็นการทำลายหน้าตาของผู้อาวุโสบ้านข้า”
ยามที่เอ่ยคำว่า ‘หน้าตา’ คำนี้ ตัวนางเองก็ยังตกใจ
เมื่อก่อนนอกความฝันนางหาใช่คนที่สนใจเรื่องหน้าตาไม่
…บิดาอย่างหวงซู่จะมีหน้าตาอะไรให้กล่าวถึง
แต่บัดนี้นางเป็นหลานสาวของเหอซีจินกับชวีม่านอิง
เหอซีจินเป็นเจ้าสำนักกระบี่หรูอี้ มีชื่อเสียงด้านคุณธรรมอย่างกว้างขวางในสำนักเซียนมาโดยตลอด ชวีม่านอิงยิ่งเป็นสตรีที่ไม่ด้อยไปกว่าบุรุษ
ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่อาจทำให้พวกเขาสามีภรรยามัวหมอง
หวงหร่างส่ายหน้า แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมตัวจากไป
เจ้าหอยังคงเสียดาย เอ่ยว่า “น่าเสียดายจริงๆ หากเจ้าตั้งใจกว่านี้สักหน่อย ไม่แน่ว่าแม้กระทั่งเซี่ยหงเฉินก็ยากจะหนีพ้น”
หวงหร่างหัวเราะ “อย่าเลยๆ มามาโปรดเมตตา ถือเสียว่าข้าไม่เคยมาที่นี่แล้วกัน”
นางจ่ายเงินเสร็จก็ออกจากหอเป้าฉินอย่างเร่งรีบ
ตกกลางคืน เจ้ากรมพลิกตัวไปมา นอนไม่หลับทั้งคืน
ไม่ง่ายเลยกว่าจะเข้าสู่ห้วงฝัน ในห้วงฝันยังคงเป็นผืนน้ำสีฟ้า ริมฝีปากแดงของคนงามดุจอัคคี เขาประชิดเข้าไป ในโพรงปากล้วนเป็นกลิ่นบุปผาอ่อนจาง
แขนหยกของคนงามที่เกี่ยวรอบลำคอ เสียงครางหวานแว่วออกมาจากริมฝีปาก ห้วงฝันยุ่งเหยิงคลุ้มคลั่ง แต่ละฉากกระจัดกระจาย
ไม่ง่ายเลยกว่าท้องฟ้าจะมีแสงสลัว ใต้เท้าเจ้ากรมตื่นนอน พบว่าฟูกที่นอนเปรอะเปื้อนเป็นวง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 7 ก.ย. 68