เวลานี้เองซือเวิ่นอวี๋ก็เอ่ยปาก แต่ละถ้อยคำดั่งอสนีบาตที่ฟาดอยู่ข้างหูหวงหร่าง “ตี้ซานเมิ่งเซียนเซิง ได้ยินชื่อเสียงมานาน”
เสียงที่คุ้นเคยนี้ทำให้มือขวาของหวงหร่างกำแน่น นางล้วงเข้าไปในแขนเสื้อโดยไร้เหตุผล กำเข็มใบชาโปร่งใสเล่มนั้นไว้!
ก่อนหน้านี้นางเข้าสู่ความฝันสองครั้ง บุรุษที่พบบนยอดเจดีย์คือฮ่องเต้ซือเวิ่นอวี๋!
หวงหร่างมีข้อสงสัยมากมายเหลือเกิน แต่ยามนี้ในที่แห่งนี้หาใช่ที่ที่จะไขความสงสัยของนางได้
นางคารวะซือเวิ่นอวี๋เพียงเล็กน้อยเป็นการแสดงความเคารพอย่างพอเป็นพิธี
ซือเวิ่นอวี๋ไม่ถือสา อมยิ้มพลางเอ่ยชม “เซียนเซิงปรับปรุงข้าวเหลียงหมี่และเมล็ดบัวขม ทำเพื่อบ้านเมืองและราษฎรมาสิบกว่าปี ทำให้ภัยแล้งที่ไม่พานพบในรอบร้อยปีมิอาจคร่าชีวิตราษฎรของเราไปได้ คู่ควรกับป้ายทองนี้ของเรา”
กล่าวจบเขาก็โบกมือ มีคนแบกป้ายทองแผ่นหนึ่งขึ้นมา บนนั้นมีตัวอักษร ‘ชี้แนะใต้หล้า’ สี่ตัวเปล่งประกายสีทองเจิดจรัส
หวงหร่างค้อมกายคารวะเขาอีกครั้ง จิตใจยุ่งเหยิงดั่งกองป่าน
ฮ่องเต้ผู้นี้มีความแปลกพิสดารตรงที่ใดกันแน่ เหตุใดถึงสามารถดึงนางเข้าสู่ความฝันที่แปลกประหลาดเช่นนี้ได้
ขณะที่กำลังใจลอย ทันใดนั้นข้างหลังก็มีกระบี่เล่มหนึ่งแหวกอากาศมา!
เป้าอู่ตวาดเสียงโกรธเกรี้ยวทันใด รีบพุ่งมาทางนี้โดยพลัน หวงหร่างหันกลับไปพร้อมกระบี่ สกัดกั้นการโจมตีของอีกฝ่าย หลังจากนั้นนางกับคนร้ายผู้นี้ต่างตกตะลึง
กระบี่แห่งจิต!
สิ่งที่อยู่ในมือหวงหร่างคือมรรคากระบี่ขั้นสูงสุดของสำนักเซียนอวี้หู แต่กระบี่ของคนร้ายผู้นี้กลับธรรมดาอย่างยิ่ง
หลังจากอึ้งงันไป เขาก็ประมือกับหวงหร่างอย่างฉับไว หวงหร่างแยกแยะกระบวนท่าของคนผู้นี้ได้อย่างรวดเร็ว…เซี่ยหลิงปี้!
นางรู้จักคนผู้นี้ดีเกินไปจริงๆ
เซี่ยหลิงปี้ประมือกับนางสามสิบกว่ากระบวนท่า ในใจตื่นตระหนกไม่น้อย
ตี้ซานเมิ่งผู้นี้มิเพียงใช้ทักษะวิชาขั้นสุดยอดของสำนักเซียนอวี้หู ทว่ายังกระจ่างแจ้งในเพลงกระบี่ของเขาเป็นอย่างดีเหมือนรู้จักนิ้วมือในฝ่ามือตนเอง
เซี่ยหลิงปี้ถึงขั้นสงสัยว่าคนผู้นี้ล่วงรู้ฐานะของเขาแล้ว!
ฝูงชนใต้หอส่งเสียงฮือฮา ส่วนองครักษ์ของราชสำนักก็ล้อมคนร้ายไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
ซือเวิ่นอวี๋ถอยไปด้านข้าง จ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างผ่อนคลาย
เซี่ยหลิงปี้ต่อสู้อยู่นานก็มิอาจเอาชนะได้ เหงื่อเย็นจึงผุดขึ้นมาชั้นหนึ่ง
หากเขาไม่นำกระบี่แห่งจิตออกมา ของวิเศษทั่วไปมิอาจต่อกรกับกระบี่แห่งจิตของหวงหร่างได้โดยสิ้นเชิง แต่ถ้าหากเขาเสกกระบี่แห่งจิตออกมา ฐานะย่อมถูกเปิดเผยอย่างมิต้องสงสัย
แน่นอน เขายังมีอีกทางเลือกหนึ่ง
เขาตวาดเสียงโกรธเกรี้ยว ร่างกายพลันแปรเป็นหมอกดำกลุ่มหนึ่ง ท่ามกลางหมอกดำ โครงกระดูกนับไม่ถ้วนเผยคมเขี้ยวออกมา ดุดันน่าสยดสยอง!
คัมภีร์ปีศาจมารวิญญาณ!
เขาใช้วิชามารนี่จนได้!
หวงหร่างรู้สึกสั่นสะเทือนเพราะพลังปราณของเขา คนถอยไปข้างหลัง โครงกระดูกโผเข้าใส่นาง ฝ่าทะลวงพลังลมจากกระบี่ของนาง ระหว่างกัดทึ้ง หมวกพรางหน้าติดผ้าโปร่งสีดำของหวงหร่างก็ฉีกขาด!
เรือนผมยาวของนางแผ่สยาย เผยให้เห็นใบหน้าหมดจดเกลี้ยงเกลา
พวกชาวบ้านต่างพากันอุทาน ส่วนหวงหร่างก็ไม่ทันได้ปิดบังใบหน้า!
นางตวัดกระบี่ต้านทานไว้ แต่โครงกระดูกหมอกดำมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้เป็นเช่นนี้ แต่นางก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าวิชามารของเซี่ยหลิงปี้ในตอนนี้ยังมิได้ทรงอานุภาพเหมือนนอกความฝัน!
เหตุใดถึงแตกต่างกันมากเพียงนี้
หรือเพียงเพราะว่านอกความฝันเขาชิงร่างของเซี่ยหงเฉิน