หวงหร่างหันกลับมา วางกล่องใส่อาหารลงบนโต๊ะเงียบๆ
แม้ใต้เท้าเจ้ากรมจะโมโห แต่ยังคงถอยหลังไปหนึ่งก้าว เท้าถอยไปแล้ว แต่ปากยังแข็งอยู่ เขายิ้มหยัน “อะไร ข้าพูดถูกหรือไร”
เดิมทีเป็นเรื่องหึงหวงริษยา แต่หวงหร่างกลับพูดว่า “ตี้อีชิว ท่านถือสาเซี่ยหงเฉินมากเพียงนี้เชียวหรือ”
นางถามจริงจังเกินไป ใต้เท้าเจ้ากรมรู้สึกเหมือนจะเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี แต่เขายังคงยิ้มเย็นแล้วตอบว่า “ข้าไม่ควรถือสาหรือ”
หวงหร่างกล่าว “ย่อมสมควรอยู่แล้ว ข้าควรคิดได้ตั้งแต่แรก”
พูดไปแล้วข้าก็เป็นสตรีที่ผ่านการแต่งงานมาก่อน ไม่คู่ควรกับเจ้ากรมซือเทียน
นอกความฝันปากพูดไม่ได้ หลายอย่างล้วนมิอาจถามไถ่อย่างละเอียด ใครจะรู้ว่าใจเขาคิดเช่นไร
นางกล่าว “ในเมื่อใต้เท้าเจ้ากรมถือสาถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ช่างเถิด”
กล่าวจบนางก็หันหลังจากไป
ใต้เท้าเจ้ากรมรู้ว่าแย่แล้วจึงรีบไล่ตามออกจากประตูไป เห็นเพียงนอกประตูศิษย์เดินไปมาขวักไขว่ ขุนนางแต่ละคนเข้ามาทำงานตามตำแหน่งหน้าที่แล้ว เขาย่อมไม่สะดวกจะตามนางไป
อีกทั้งไล่ตามไปแล้วจะให้พูดอะไรเล่า
ใต้เท้าเจ้ากรมเช่นเขายังคงรักหน้าตาของตนเองอยู่!
เขากลับเข้าไปนั่งในห้อง ใคร่ครวญไปมา รู้สึกว่าเซี่ยหงเฉินเป็นตัวการของเรื่องนี้อย่างแท้จริง
วันหลังต้องไม่อนุญาตให้เขาย่างกรายเข้ามาในประตูใหญ่กรมซือเทียนอีกจึงจะดี
จนกระทั่งยามบ่าย ข่าวที่เลวร้ายยิ่งกว่าก็แพร่มา!
จงจื่อกุยจากสำนักปรับปรุงพันธุ์พืชรุดมาถึงอย่างเร่งรีบ เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้ากรม วันนี้จู่ๆ หวงหร่างก็บอกว่าจะลาออก”
“ลาออกหรือ” ใต้เท้าเจ้ากรมถึงกับสะดุ้ง
จงจื่อกุยก็ร้อนใจเช่นกัน เขาเอ่ยอีกว่า “อีกทั้งนางยังถือคำสั่งของท่านในอดีต ดูจากท่าทางคิดจะจากไปทันที”
ใต้เท้าเจ้ากรมลุกขึ้น ก่อนจะนั่งลงช้าๆ
นางจะไป…ทั้งยังลาออก นี่แสดงว่าตัดสินใจแล้ว
“เจ้ากรม ท่านตัดสินใจเถิด!” จงจื่อกุยเร่งรัด “ตอนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าสำนักปรับปรุงพันธุ์พืชจะประสบความสำเร็จบ้าง หากนางจากไป…”
หัวหน้าสำนักสูงวัยบ่นยืดยาว ตี้อีชิวว้าวุ่นใจ สุดท้ายก็เอ่ยส่งเดช “หัวหน้าสำนักจงกลับไปก่อนเถิด เรื่องของนางข้าจะคิดหาทางเอง”
จงจื่อกุยแก่ชราแล้วย่อมมากด้วยประสบการณ์ เขารู้ว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา จึงไม่ลืมเอ่ยเตือน
“เจ้ากรม หากนางกลับไปสำนักกระบี่หรูอี้ อยู่ห่างจากเมืองหลวงเป็นพันหลี่ อยากจะพบหน้าอีกครั้งย่อมเป็นเรื่องยาก”
ตี้อีชิวมีหรือจะต้องให้เขาเอ่ยเตือน รีบพูดทันที “เซียนเซิงกลับไปเถิด!”
จงจื่อกุยจึงจากไป ตี้อีชิวย่ำเท้าไปมาในห้องหนังสือ เสียใจภายหลังนั้นย่อมแน่นอนอยู่แล้ว แต่บุรุษอกสามศอกอย่างเขายังต้องไปก้มศีรษะขออภัยนางด้วยหรือ อีกทั้งเขาทำผิดตรงที่ใด
กับเซี่ยหงเฉินนางพูดเสียงอ่อนหวาน มิเพียงแย้มยิ้มต้อนรับ ยังตักโจ๊กให้เขา!
หึ เซี่ยหงเฉินช่างดีเลิศเลอ สง่าผ่าเผยดุจจันทราฟ้าหลังฝน แม้กระทั่งโจ๊กยังอุดปากเขาไม่ได้ ยังสามารถแจกแจงวัตถุดิบในนั้นได้อีก!
ใต้เท้าเจ้ากรมยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ข้าผิดตรงที่ใดเล่า!