บทที่ 100 ผลประโยชน์
เหตุการณ์จดหมายขออภัยทำเอาใต้เท้าเจ้ากรมขายหน้าไม่เหลือชิ้นดี แต่โชคดีที่สามารถเหนี่ยวรั้งฮูหยินเอาไว้ได้
หวงหร่างแก้ห่อสัมภาระที่ผูกแล้วออกอีกครั้ง เตรียมตัวเอาข้าวของข้างในวางกลับที่เดิม
ขณะที่กำลังลงมือจัดการ ข้างกายพลันมีคนหยิบชุดกระโปรงของนางออกมาจากห่อสัมภาระ ลูบให้เรียบและแขวนอย่างเรียบร้อย
หวงหร่างหันไปมองก็เห็นตี้อีชิวลงมือเงียบๆ ด้วยสีหน้าปราศจากอารมณ์
ทั้งสองคนต่างไม่พูดอะไร จัดแจงข้าวของในหอพักศิษย์อย่างเงียบงัน
ข้าวของทั้งหมดกลับคืนสู่ที่เดิม ในที่สุดใต้เท้าเจ้ากรมก็ดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมายื่นให้ที่ข้างมือหวงหร่าง หวงหร่างกระบิดกระบวนอยู่ครู่หนึ่งก็รับมาและถาม
“อะไร”
นางก้มหน้าดู นี่เหมือนเป็นรายการทรัพย์สินในบ้าน แจกแจงไว้ละเอียดยิ่ง
ใต้เท้าเจ้ากรมพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “รายการสินสอด มอบให้เจ้าดูก่อน หากไม่มีความเห็นอะไร อีกสองวันข้าจะไปเจรจาสู่ขอ”
“นี่คือรายการสินสอดหรือ” หวงหร่างตกตะลึง
“เหตุใดต้องมิใช่เล่า” ตี้อีชิวย้อนถาม
ถึงอย่างไรหวงหร่างก็เคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง กับของสิ่งนี้ใช่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน นางโมโหจนกลายเป็นขบขัน
“คนไม่รู้คงคิดว่านี่คือสมุดลงบันทึกทรัพย์สินหลังถูกริบทรัพย์! สินสอดไม่จำเป็นต้องมากถึงเพียงนี้”
ใต้เท้าเจ้ากรมเอ่ยว่า “ช้าเร็วก็ต้องมอบให้เจ้าอยู่ดี มีอะไรแตกต่างกัน”
“หึ!” หวงหร่างดูรายการซ้ำไปมาหลายรอบ จากนั้นก็ถามว่า “หอพักขุนนางของท่านไม่ต้องเสียเงินกระมัง”
“ไม่ต้อง” ตี้อีชิวขมวดคิ้ว “ราชสำนักจัดหาให้พร้อมบ่าวชายอีกสี่คน”
หวงหร่างดีอกดีใจ “เช่นนั้นพอพวกเราแต่งงานกันแล้วข้าจะย้ายไปอยู่หอพักขุนนางของท่าน หอพักศิษย์ชำรุดทรุดโทรมเพียงนี้ แต่ละเดือนยังต้องจ่ายเงินถึงห้าตำลึง!”
ใต้เท้าเจ้ากรมเตือนนาง “หอพักขุนนางคับแคบ”
“คับแคบอะไรกัน ถึงอย่างไรก็เป็นผลประโยชน์ที่ได้จากราชสำนัก ไม่กอบโกยก็เสียเปล่า” หวงหร่างคิดคำนวณอย่างลิงโลด
ใต้เท้าเจ้ากรมแก้คำพูดนาง “ผลประโยชน์ที่ได้จากราชสำนักอะไรกัน ทุกตำลึงทุกอีแปะล้วนเป็นหยาดเหงื่อแรงกายของราษฎร”
“ใช่ๆ” หวงหร่างพูด “แต่ถ้าพวกเราสองคนออกไปอยู่ข้างนอกยังต้องหาเรือนและบ่าวไพร่ ทั้งหมดล้วนเป็นเงินทั้งนั้น พวกเราสองคนก็ยุ่งไม่น้อย จะมีเวลาดูแลบ่าวไพร่ได้อย่างไร”
นางกล่าวคำพูดนี้พลางนั่งขัดสมาธิลงบนเตียง ใต้เท้าเจ้ากรมนั่งลงบนเตียงเช่นกัน เอ่ยอย่างเห็นด้วย “ก็ใช่”
หวงหร่างถือโอกาสวางเท้าลงบนหน้าตักเขา “เสื้อผ้าอาหารที่พักและค่าเดินทางของท่าน ราชสำนักล้วนจ่ายเงินให้ใช่หรือไม่”
ใต้เท้าเจ้ากรมขมวดคิ้วพลางตอบว่า “มิได้คำนวณให้ละเอียด แต่ข้าอยู่กรมซือเทียนยังไม่เคยใช้เงินเลยจริงๆ”
“ยังคงเป็นราชสำนักที่ให้ผลประโยชน์ที่ดี” หวงหร่างถอนใจ “ตอนนี้ข้าสอนพวกศิษย์ในสำนักปรับปรุงพันธุ์พืชก็นับว่าเหนื่อยยากและสร้างความดีความชอบมากมาย หากข้าจะขอตำแหน่งขุนนางสักเล็กน้อยคงไม่เกินไปกระมัง”
มือของใต้เท้าเจ้ากรมกดลงบนข้อเท้านาง ช่วยคลายกระดูกให้นางเบาๆ พลางตอบว่า “แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่ราชสำนักคัดเลือกขุนนางด้วยวิธีที่เข้มงวด หากเจ้าอยากรับตำแหน่งในกรมซือเทียน อย่างไรก็ต้องเข้ารับการคัดเลือกตามระเบียบ”
หวงหร่างไม่พอใจ “เรื่องนี้มิใช่ขึ้นอยู่กับคำพูดเดียวของท่านหรือ”
ใต้เท้าเจ้ากรมเป็นคนมีหลักการ เขาเอ่ยว่า “กฎก็คือกฎ”
หวงหร่างได้แต่เอ่ย “หากข้าเข้าทำงานในสำนักปรับปรุงพันธุ์พืชจะได้รับตำแหน่งขุนนางใด ได้รับเบี้ยหวัดเท่าใด”
พอพูดถึงเรื่องงาน ใต้เท้าเจ้ากรมก็มีท่าทีเคร่งขรึมทีเดียว เขาตรึกตรองครู่หนึ่งก่อนตอบ “หากเจ้ารับตำแหน่งอย่างมากก็เป็นแค่อาจารย์ภายใต้อาณัติของหัวหน้าสำนักจง ทว่า…หากเป็นตี้ซานเมิ่งย่อมไม่เหมือนกัน”
พอเขาเอ่ยถึงตี้ซานเมิ่ง ทั้งสองคนก็สบตากันครู่หนึ่ง สีหน้าพลันตื่นเต้น