จูเซียงไม่เข้าใจ แต่ในเมื่อเจ้ากรมสั่งมาย่อมต้องมีเหตุผล นางเองก็ไม่ถามให้มากความ ความยอดเยี่ยมของผู้ใต้บังคับบัญชามักจะสะท้อนออกมาจากการปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างล้ำเลิศ!
ด้วยเหตุนี้ศิษย์กองวิหคเพลิงของกรมซือเทียนจึงเริ่มตัดเย็บชุดกระโปรงชุดนี้กันตั้งแต่เช้าตรู่ ชุดกระโปรงนี้สลับซับซ้อนทีเดียว ไข่มุก บุปผาถัก เชือกผูก พู่ระย้า ขนจิ้งจอกที่ประดับคอเสื้อ กอปรกับงานปักที่ละเอียด ทำให้ทุกคนต้องแบ่งงานกันทำ ยุ่งวุ่นวายอยู่ครึ่งค่อนวัน
เจ้ากรมซือเทียนเองก็มิได้อยู่นิ่งเฉย เขาปักลายซ่อนบนกระโปรงชั้นนอกด้วยตนเอง
สายตาของศิษย์กองวิหคเพลิงทั้งกองเต็มไปด้วยความฉงนสงสัย แต่ไม่มีใครกล้าถาม
…ผู้ใดจะกล้ายุ่งเรื่องของเขากันเล่า
เวลาหนึ่งวันสำหรับหวงหร่างแล้วผ่านไปไวอย่างแท้จริง
ความรับรู้ที่นางมีต่อวันเวลาได้บกพร่องไปนานแล้ว นางลืมตาและมองเห็นแสงอาทิตย์ขยับเคลื่อนเลือนหายไปอย่างช้าๆ แสงอาทิตย์สูญเสียประกายสีทองไป ค่อยๆ กลายเป็นซีดขาว ระหว่างนั้นมีคนเข้ามาในห้อง แต่กลับไม่กล้าเลิกม่านออกดู ดังนั้นหวงหร่างย่อมมองไม่เห็นว่าเป็นใคร รู้เพียงว่าคนผู้นั้นเติมถ่านใยเงินลงในอ่างไฟเล็กน้อย ก่อนจะถอยออกไปโดยไว
ทว่าเพียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยนี้ก็เพียงพอให้นางตื่นเต้นยินดีอยู่นาน ความตื่นเต้นยินดีเล็กน้อยนี้ทำให้นางสามารถเฝ้ารอคอยอย่างนิ่งสงบต่อไปได้
ยามประตูถูกผลักเข้ามาอีกครั้ง หวงหร่างจดจำเสียงฝีเท้านั้นได้
เป็นตี้อีชิวจริงๆ เขาเดินมายังข้างเตียงและเลิกม่านเตียงขึ้น หวงหร่างรู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งยกไหล่นางขึ้นมา จากนั้นนางก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ตี้อีชิวมิเพียงกลับมา ทว่ายังนำเอาชุดกระโปรงของนางกลับมาด้วย
หวงหร่างรู้สึกว่ากรมซือเทียนแห่งนี้ความสามารถยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
ตี้อีชิวถอดเสื้อตัวในของนางออกและเริ่มผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้นาง หวงหร่างจึงได้มองเห็นเขาในวันนี้ เขาสวมหมวกขุนนางสีดำบนศีรษะ บนหมวกปักดิ้นทองลายปีกคู่ที่สยายออก บนร่างสวมชุดขุนนางสีม่วง เอวคาดเข็มขัดหยก ข้างใต้ห้อยถุงมัจฉาทองเท้าสวมรองเท้าขุนนางสีดำ เป็นรองเท้าหุ้มแข้งประดับลายทอง เนื่องจากข้างนอกอากาศหนาว เขาจึงคลุมกายด้วยเสื้อขนสัตว์แบบบางสีดำ
เสื้อผ้าอาภรณ์เช่นนี้ กอปรกับเครื่องหน้าคมคาย ทำให้เขาดูสูงส่งยิ่ง เห็นได้ชัดว่ามิอาจเข้าใกล้โดยง่าย
หวงหร่างประเมินรูปโฉมของคนผู้นี้เสร็จและปล่อยให้ตี้อีชิวสวมเสื้อผ้าให้นาง เริ่มจากแถบผ้ารัดอกที่แนบชิดร่างกายของสตรีมากที่สุด ข้างในเป็นปุยฝ้าย ตรงกลางเป็นผ้าต่วน ข้างนอกเป็นผ้าโปร่ง
แถบผ้ารัดอกเช่นนี้ทำเอาหวงหร่างรู้สึกว้าวุ่นในใจ…มากมายหลายชั้นเช่นนี้จะไม่ทำให้ข้าดูอ้วนหรือ
แน่นอนว่าตี้อีชิวไม่ล่วงรู้ความคิดในใจหวงหร่าง เพียงก้มหน้าก้มตาสวมถุงเท้ารองเท้าให้นาง เขาประคองเท้านางขึ้นมา ดวงตาไม่ว่อกแว่ก มือไม้นิ่ง เอาเป็นว่าสิ่งที่ไม่ควรมองล้วนไม่มองส่งเดช สิ่งที่ไม่ควรจับล้วนไม่จับส่งเดช
หวงหร่างนั่งตรงขอบเตียง บางครายังถูกเขาอุ้มขึ้นมา ดึงกางเกงตัวในที่บางดุจปีกจักจั่น
เขินอายหรือ ข้าไม่รู้สึกอะไรสักนิด ไม่ได้เขินอายสักหน่อย หึ
ตี้อีชิวสวมเสื้อผ้าให้นางจนเสร็จอย่างว่องไว จากนั้นก็อุ้มนางไปนั่งหน้าคันฉ่องสำริด
หวงหร่างได้เห็นตนเองอีกครั้งในสิบปีให้หลัง เรือนผมสีดำของนางที่แผ่สยายยังคงนุ่มสลวยเงางาม ชุดกระโปรงสีทองอ่อนขับเน้นผิวพรรณของนางให้เป็นสีขาวราวน้ำนม คอชุดประดับด้วยขนจิ้งจอกหิมะอย่างประณีต หัวไหล่มีบุปผาแพรเย็บติดสองดอก ใจกลางบุปผายังประดับด้วยไข่มุก ส่วนกลีบดอกใช้ด้ายทองเย็บอย่างแน่นหนา
ดวงหน้านางดูเล็กลงกว่าเดิม แต่แข็งทื่อจนดูปราศจากชีวิต ตี้อีชิวสางผมให้นางราวกับนางเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง
เดิมทีผมยาวของนางเรียบลื่นยิ่ง แต่ยามสางกลับติดหวี
ตี้อีชิวรีบก้มลงมอง หวงหร่างย่อมรู้ว่านั่นคือสิ่งใด…บนกระหม่อมนางมีเข็มทองปักเข้ามาในกะโหลกสองเล่ม และยามนี้ซี่หวีก็กระทบกับปลายเข็มที่โผล่อยู่ด้านนอก
จากนั้นตี้อีชิวก็แตะปลายเข็มนั้นอย่างแผ่วเบา สางผมอย่างเบามือกว่าเดิม
เขาน่าจะอยากเกล้ามวยให้นาง หวงหร่างเองก็ตั้งตารอคอยอย่างยิ่ง…เจ้ากรมซือเทียนผู้นี้เกล้ามวยเป็นด้วยหรือ
ในคันฉ่องสำริด ใต้เท้าเจ้ากรมข้างหลังนางประเดี๋ยวเกล้ามวยผมนางจนกลายเป็นรังไก่ ประเดี๋ยวมัดจนกลายเป็นรังนก
อาจารย์ชิวยุ่งง่วนอยู่ครึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็ตามสาวใช้คนหนึ่งมาเกล้ามวยก้นหอยให้หวงหร่าง