กรมซือเทียน กองวิหคเพลิง
ตี้อีชิวนั่งอยู่ในห้องหนังสือ บนโต๊ะมีเอกสารวางอยู่หลายกอง
ผนังห้องด้านหลังเขาบริเวณที่ใกล้กับขื่อมีเบ้าตาเบ้าหนึ่งแขวนอยู่…เป็นเบ้าตาขนาดใหญ่ ข้างในยังใส่ลูกกลมที่มีรูปลักษณ์คล้ายดวงตาเอาไว้ ตอนนี้ลูกกลมหมุนวนเบาๆ อยู่ในเบ้าตา มีแสงสีขาวสายหนึ่งส่องไปยังผนังฝั่งตรงข้าม
บนผนังฝั่งตรงข้ามแขวนผ้าต่วนหิมะเรียบลื่นไว้ แสงสีขาวสะท้อนลงบนนั้น ฉายภาพที่ชัดเจนออกมา
หากหวงหร่างอยู่ นางจะต้องตกใจมากเป็นแน่ เพราะในภาพนั้นนางสวมชุดกระโปรงสีทองยืนอยู่กลางทุ่งข้าวสาลี ข้าวสาลีกำลังจะสุก รวงข้าวอวบสมบูรณ์ห้อยลงมา ทุ่งข้าวสาลีสีทองอ่อนผืนนี้อบอุ่นและเจิดจ้าเช่นเดียวกับนาง นางตรวจดูการเจริญเติบโตของข้าวสาลีอย่างจริงจัง มือขาวเนียนถูรวงข้าวรวงหนึ่ง เมล็ดข้าวสาลีที่เจริญเติบโตเต็มที่กลิ้งไปมาในฝ่ามือนางดุจไข่มุก
นางก้มหน้าลงไปสูดดม ภาพทั้งหมดจึงกลายเป็นใบหน้าด้านข้างที่ประณีตของนาง
…ดวงเนตรนี้คล้ายของวิเศษ ภาพที่เก็บอยู่ภายในนั้นคือตำบลเซียนฉาเมื่อหลายปีก่อน!
ตี้อีชิวก้มหน้าพลิกดูเอกสาร เงยหน้าขึ้นมองเป็นครั้งคราว
ในห้องมีเพียงเสียงพลิกหน้ากระดาษที่ดังขึ้นเป็นบางครั้ง
เวลานี้เองก็มีเสียงดังขึ้นมากะทันหันดั่งลูกธนู “เจ้ากรม สหายเก่าเซี่ยหยวนซูมาขอพบขอรับ”
ตี้อีชิวชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้น หยิบดวงเนตรบนผนังลงมาเก็บเข้าไปในลิ้นชักชั้นล่างสุดของโต๊ะทำงาน ในนั้นมีวัตถุหน้าตาเหมือนกันอยู่เต็มลิ้นชัก
นอกกองวิหคเพลิง
มีคนผู้หนึ่งที่สวมชุดคลุมกันลมกำลังรอคอยคนอยู่
ตี้อีชิวมองคราเดียวก็จำอีกฝ่ายได้ทันที…เซี่ยหยวนซู
เขาไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อคนผู้นี้ ดังนั้นสีหน้าจึงเฉยชาพลางเอ่ยว่า “ที่แท้เป็นพี่เซี่ย มาเยือนกลางดึกเช่นนี้มีเรื่องเร่งด่วนอันใดหรือ”
เซี่ยหยวนซูโบกมือ “ครั้งนี้ข้าอยากจะขอของสิ่งหนึ่งจากใต้เท้าเจ้ากรม”
ตี้อีชิวมิใคร่กระตือรือร้นนัก ตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย “อ้อ?”
เซี่ยหยวนซูขยับเข้าไปใกล้เขาแล้วเอ่ยเสียงค่อย “ของวิเศษที่สามารถดูดพลังวัตรคนได้ ข้ารู้ว่าใต้เท้าเจ้ากรมมี”
“หึๆ” ตี้อีชิวหัวเราะเบาๆ ท่าทางไม่สนใจนัก “แน่นอนว่าย่อมมีอยู่แล้ว ทว่าคนอย่างข้าจะทำสิ่งใด แต่ไหนแต่ไรล้วนขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ”
เห็นได้ชัดว่าเซี่ยหยวนซูเตรียมการมาล่วงหน้า “ขอแค่ใต้เท้าเจ้ากรมบอกราคามา”
ปกติตี้อีชิวไม่ยินดีจะคบหากับเขา เพราะอันที่จริงเซี่ยหยวนซูไม่เป็นที่โปรดปรานและไม่ได้รับความไว้วางใจจากเซี่ยหลิงปี้ แม้อีกฝ่ายจะเป็นคุณชายของสำนักเซียนอวี้หู แต่แท้จริงแล้วกลับปราศจากอำนาจ
ยามนี้เซี่ยหยวนซูเอ่ยปากเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่
ตี้อีชิวถาม “คุณชายใหญ่ต้องการดูดพลังวัตรของใครหรือ”
ข้อนี้เซี่ยหยวนซูไม่ยินดีตอบ เขาพูดเสียงค่อยอีก “ข้าจ่ายเงินก้อนโตซื้อวัตถุเวทจากใต้เท้าเจ้ากรมที่นี่ ไยใต้เท้าเจ้ากรมต้องสนใจด้วยเล่าว่าข้าจะเอาไปใช้กับใคร”
เจ้าคนโง่เขลา ไม่ว่าเจ้าจะเอาไปใช้กับใครข้าล้วนยินดีทั้งนั้น ดีที่สุดคือสังหารเซี่ยหลิงปี้ให้ตาย ตี้อีชิวเยาะหยันในใจ แต่กลับชูนิ้วมือขึ้นสี่นิ้วแจ้งราคาแก่เขา เซี่ยหยวนซูเห็นเขายอมบอกราคาก็ยินดีปรีดา
“หินวิเศษสี่ร้อยหมื่นก้อน ตกลง! ขอแค่วัตถุเวทใช้ได้ผลก็พอ!”
ขณะที่ตี้อีชิวเจรจาการค้าครั้งนี้ ในใจก็อดคาดเดามิได้ว่า…ทุ่มเงินก้อนโตเช่นนี้ เจ้าคนโง่เขลาผู้นี้จะเอาของวิเศษไปใช้กับใครกัน