เซี่ยหยวนซูขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ยังคงต้องวางแผนให้ดี เขาอยากให้เรื่องทุกอย่างอยู่ภายใต้การบงการของเขา ข้าทำเช่นนี้เกรงว่าเขาคงมิอาจยอมรับข้าได้ ต่อให้ข้าเป็นบุตรชายแท้ๆ ของเขาก็ตาม” คำพูดประโยคหลังเขาเอ่ยอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
หวงหร่างยอมรับอยู่ในใจ…เซี่ยหยวนซูผู้นี้ฉลาดขึ้นแล้ว
จากนั้นนางก็เอ่ยด้วยสีหน้าหม่นหมอง “คำพูดนี้ของซูหลางมีเหตุผล ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ปรมาจารย์แค่ไม่ยอมรับท่านเท่านั้น แต่ข้า…ข้าย่อมไม่มีทางรอด เขาไม่ชอบข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว”
เซี่ยหยวนซูมิได้เอ่ยอะไร เขาเองก็เข้าใจ เรื่องนี้หากเปิดเผยออกไป เซี่ยหลิงปี้จะต้องสังหารหวงหร่างแน่นอน เขาเดินกลับไปกลับมาในตำหนักเยี่ยอวิ๋น คิดหาหนทางไม่ออกชั่วขณะ ร้อนรนกระวนกระวายทีเดียว
หวงหร่างมองเขาอย่างสงบนิ่ง เนิ่นนานจึงเอ่ยว่า “หากปรมาจารย์รู้เรื่องนี้มิพ้นคงจะสังหารข้าและตำหนิซูหลางอย่างหนัก จากนั้นก็โยกย้ายซูหลางไปที่อื่น แต่ถึงอย่างไรซูหลางก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ทั้งยังมีพลังวัตรของเซี่ยหงเฉิน หลายปีให้หลังจะต้องได้กลับสำนักเซียน นั่งตำแหน่งสูงอีกครั้งเป็นแน่ ซูหลาง หากจนด้วยหนทางจริงๆ ท่านก็ไปยอมรับผิดกับปรมาจารย์เถิด!”
นางทำหน้าเศร้า แต่ละถ้อยคำล้วนจริงใจ เซี่ยหงเฉินยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง…ยามอยู่ต่อหน้าหวงหร่างเขามีสติดีเสมอ ไม่มีทางหวั่นไหวไปกับคำพูดหรืออารมณ์ของนาง ดังนั้นในความคิดของเขา คำพูดนี้มิได้หมายความตามที่พูด
เซี่ยหยวนซูลงมือถึงขั้นนี้ ไฉนเลยจะยอมให้ทุกอย่างสูญเปล่า เขาเดินไปข้างโต๊ะแล้วตบลงไปอย่างแรง “ตาเฒ่านั่นไม่ชอบหน้าข้ามาแต่ไหนแต่ไร ข้าจะยอมอดทนข่มกลั้นต่อไปได้อย่างไร! อาหร่าง เจ้าจริงใจต่อข้า ข้ายังจะทนเห็นเจ้าตายไปต่อหน้าต่อตาได้หรือ!”
น้ำเสียงของหวงหร่างสิ้นหวังยิ่งนักขณะถาม “เช่นนั้น…ซูหลางจะทำอย่างไรได้อีก”
ไม่ผิดจากที่คิด เซี่ยหยวนซูพลันเกิดความกล้าขึ้นมา ตะโกนเสียงเกรี้ยวกราดว่า “วันนี้ข้าเซี่ยหยวนซูจะต้องเป็นประมุขสำนักเซียนอวี้หูให้จงได้! ใครก็ขัดขวางข้าไม่ได้ทั้งนั้น แม้แต่ตาเฒ่าผู้นั้นก็ไม่ได้!”
เวลานี้เซี่ยหงเฉินบนเตียงพลันเข้าใจว่าหวงหร่างจะทำอะไร!
…นางจะลงมือกับท่านอาจารย์!
มือข้างหนึ่งของเขาจับขอบเตียงแน่น ร้องบอกด้วยความโมโห “เซี่ยหยวนซู! ท่านอย่าได้หลงกลหวงหร่าง สตรีผู้นี้จิตใจชั่วร้าย เชื่อไม่ได้เด็ดขาด! ท่านอาจารย์เป็นบิดาแท้ๆ ของท่าน ท่านจะลงมือกับเขาได้อย่างไร!”
หวงหร่างโน้มน้าวต่อทันที “ซูหลาง หงเฉินพูดถูก ถึงอย่างไรปรมาจารย์ก็เป็นบิดาแท้ๆ ของท่าน แม้เขาจะรักใคร่หงเฉินมากกว่า แต่ท่านก็เป็นบุตร จะลงมือกับบิดาแท้ๆ ของตนเองได้อย่างไร”
นางไม่พูดยังดี แต่พอโน้มน้าวเช่นนี้ หนามในใจเซี่ยหยวนซูก็ถูกดึงออกมาทั้งหมด เขาคว้าถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาแล้วเขวี้ยงใส่เซี่ยหงเฉินที่อยู่บนเตียง
“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้! เขาเป็นบิดาแท้ๆ ของข้าหรือ! ฮ่าๆ ข้าว่าเขาเป็นบิดาแท้ๆ ของเจ้ามากกว่ากระมัง! ตั้งแต่เล็กจนโตในสายตาเขามีแต่เจ้า ข้านับเป็นตัวอะไร!”
เขาเขวี้ยงถ้วยชาออกไปอย่างแรง อีกทั้งเซี่ยหงเฉินบนเตียงมองไม่เห็น ร่างกายยังถูกพิษ ยิ่งมิอาจหลบเลี่ยงได้ จึงถูกถ้วยชากระแทกที่ขมับ เลือดไหลอาบใบหน้าทันที หวงหร่างอุทานเบาๆ รีบเข้าไปตรวจดูบาดแผลของเซี่ยหงเฉิน
เซี่ยหงเฉินชิงชังอย่างยิ่ง จึงผลักนางออกไป หวงหร่างถูกเขาออกแรงผลักก็ล้มลงกับพื้นทันที นางร้องเบาๆ พลางกดข้อเท้าตนเองไว้ ร่างอ่อนยวบเหมือนไร้กระดูก ราวกับบอบบางจนแทบจะแบกรับน้ำหนักของอาภรณ์ไม่ไหว
เซี่ยหยวนซูรีบประคองหวงหร่างขึ้นมา เขาชี้เซี่ยหงเฉินอย่างเดือดดาล “เจ้ามันคนมีตาแต่ไร้แวว ตาบอดก็สมควรแล้ว! อาหร่าง เจ้าบาดเจ็บตรงที่ใดหรือไม่”
หวงหร่างน้ำตาเอ่อคลอ “ข้ารู้ว่าหลายปีมานี้ซูหลางได้รับความไม่เป็นธรรมมามากมาย ข้ารู้” นางวางศีรษะบนไหล่ของเซี่ยหยวนซู คนงามดั่งหยกอบอุ่นกรุ่นกลิ่นหอม หัวใจของเซี่ยหยวนซูราวกับจะหลอมละลาย
เขาตบไหล่หวงหร่างเบาๆ พลางพูดว่า “อาหร่าง พวกเราร่วมมือกันกำจัดตาเฒ่านั่นเถิด ข้าต้องการให้สำนักเซียนทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของข้าอย่างแท้จริง!”
“เซี่ยหยวนซู!” เซี่ยหงเฉินเอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่เซี่ยหยวนซูกลับเหมือนถูกมารครอบงำจิตใจ ไม่รับฟังคำเตือนใดๆ ทั้งสิ้น
หวงหร่างได้ยินคำพูดนี้ของเซี่ยหยวนซูแล้ว น้ำเสียงก็เผยความประทับใจ แต่กลับมิเห็นด้วย นางเอ่ยว่า “แต่อย่างไรเสียพวกท่านก็เป็นพ่อลูกแท้ๆ กัน ซูหลาง ข้าไม่อยากให้พวกท่านต้องขัดแย้งกันเช่นนี้ ท่านเชื่อข้า รายงานเขาตามความเป็นจริงเถิด ต่อให้ข้าต้องตายก็มิอาจทนเห็นพวกท่านพ่อลูกแตกหักชี้อาวุธใส่กันได้…”
นางยังพูดไม่จบ เซี่ยหยวนซูก็ตัดบท “เจ้าไม่ต้องโน้มน้าวอีกแล้ว อาหร่าง เจ้า…อยู่กับข้าอีกสักครั้งเถิด ต่อให้ต้องตาย ข้าก็จะตายไปกับเจ้า”
เซี่ยหงเฉินรู้สึกสิ้นหวัง