บทที่ 16 ล้างแค้น
เมืองหลวง กรมซือเทียน
ตี้อีชิวต้อนรับแขกสามคนที่มาเยือน…เหอซีจิน จางซูจิ่ว และอู่จื่อโฉ่ว
สามคนนี้เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในสำนักเซียน เหอซีจินมากด้วยความสามารถ แต่เนื่องจากลิ้นมีบาดแผลเก่า เวลาพูดจาจึงไม่ลื่นไหล กลายเป็นคนพูดน้อยเสมอมา จางซูจิ่วรักสุราดั่งชีวิต แต่เนื่องจากฮูหยินชิงชังสุรายิ่งนัก หลังจากแต่งงานจึงได้ชื่อว่าจางซูจิ่ว ผู้ไม่แตะต้องสุราแม้แต่หยดเดียว ส่วนอู่จื่อโฉ่วคนประหนึ่งชื่อ ทั้งเตี้ยและอัปลักษณ์ เขามีใบหน้าดุดันแต่กำเนิด ‘ชั่วร้ายโหดเหี้ยม’ คำนี้บรรยายรูปลักษณ์ของเขาได้อย่างสมจริง ในวัยเยาว์เพื่อช่วยเหลือสตรีนางหนึ่ง เขาจึงต่อสู้กับโจรราคะอย่างดุเดือด ไต้เทียนซั่วปรมาจารย์แห่งยุคที่ผดุงความยุติธรรมช่วยเหลือราษฎรมาโดยตลอดเห็นเข้าก็ปักใจเชื่อว่าเขาคือโจรโฉด จึงหักขาข้างหนึ่งของเขาทันที ทำให้เขาเดินเหินไม่สะดวกเล็กน้อย
ทว่าอู่จื่อโฉ่วได้ลาภจากเคราะห์ ไต้เทียนซั่วรู้สึกละอายและเสียใจภายหลังที่ตนวู่วามไปชั่วขณะ จึงตัดสินใจรับเขาเป็นศิษย์ ภายหลังเห็นเขาพรสวรรค์เลิศล้ำ จึงยกบุตรสาวสุดที่รักให้แต่งงานกับเขา
“สุรา สุรา!” จางซูจิ่วเพิ่งเข้าประตูมาก็ตะโกนขึ้นทันที
อู่จื่อโฉ่วแค่นเสียงคราหนึ่ง เดินกะโผลกกะเผลกเข้าไปพลางด่าว่า “นี่ท่านอดอยากปากแห้งมานานเพียงใดแล้ว หนอนที่อ่อนแอปวกเปียก! ข้าว่าท่านควรหย่าสตรีที่บ้านและส่งนางกลับบ้านเดิมไปเสีย บอกนางว่าชั่วชีวิตนี้อย่าหวังจะเหยียบย่างเข้าประตูใหญ่สกุลจางของท่านอีก! ดูว่านางยังจะกล้ามากเรื่องอีกหรือไม่!”
“…” ขณะที่เหอซีจินเบ้ปาก ทำหน้าดูแคลน
ทั้งสามคนเพิ่งเข้าประตู หลี่ลู่ก็ยกสุราเข้ามา…แค่เห็นก็รู้ว่าพวกเขากระหายสุราอีกแล้ว
พอสุราถูกยกเข้ามา อู่จื่อโฉ่วก็เข้าไปแย่งมาไหหนึ่งทันที
…ปากบอกว่าไม่ แต่ร่างกายกลับซื่อตรงทีเดียว หลี่ลู่พิจารณาทั้งสามคนเงียบๆ พวกเขาเป็นพี่น้องร่วมสาบาน ผู้คนในสำนักเซียนเรียกขานอย่างขบขันว่า ‘สามเซียนผู้กลัวภรรยา’ หลายปีมานี้พวกเขาไปมาหาสู่กับเจ้ากรมซือเทียนอย่างใกล้ชิด ว่ากันว่าเป็นเพราะฮูหยินของพวกเขาล้วนกระตือรือร้นอยากแนะนำสตรีให้เจ้ากรม
ทันใดนั้นเหอซีจินที่แต่ไหนแต่ไรคำพูดไม่มากเอ่ยว่า “มะ…มีธุระ”
จางซูจิ่วที่อยู่ด้านข้างเอาแต่ดื่มสุรา อู่จื่อโฉ่วจึงเป็นฝ่ายพูดต่อ “ทางบ้านพี่สะใภ้สกุลเหอมีน้องสาวคนหนึ่งยังไม่ออกเรือน พี่สะใภ้สกุลเหอหวังว่าหากท่านมีเวลาก็น่าจะไปพบนางสักหน่อย”
เขาเพิ่งพูดจบ จางซูจิ่วก็คุยโว “พี่สะใภ้สกุลเหอชอบท่านจริงๆ บอกว่าหลายปีมานี้ท่านสำรวมตนไม่ออกนอกลู่นอกทาง นิสัยเถรตรง หากท่านครองคู่กับน้องสาวของพี่สะใภ้สกุลเหอ เช่นนั้นต่อไปพวกเราย่อมเป็นครอบครัวเดียวกัน”
เหอซีจินเสริมคำหนึ่ง “ใช่”
อู่จื่อโฉ่วโอบไหล่ตี้อีชิวพลางพูดต่อ “ถึงเวลานั้นพวกเราสี่คนพี่น้องค่อยปักธูปก้านยาวกันใหม่ สาบานเป็นพี่น้องอีกครั้ง เจ้าอายุน้อยกว่าพวกเราทุกคน เช่นนั้นเจ้าเป็นน้องสี่แล้วกัน!”
…เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วย เหอฮูหยินขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาที่น่าเกรงขามดุจพยัคฆ์ น้องสาวของนางจะว่าไปแล้วก็เหมือนหมาในและสุนัขป่า ถึงเวลานั้นสามเซียนผู้กลัวภรรยาย่อมกลายเป็นสี่ยอดบุรุษผู้กลัวภรรยาแล้ว กล้ามเนื้อใบหน้าของหลี่ลู่สั่นกระตุกพลางคิดเงียบๆ
ตี้อีชิวนั่งอยู่หลังโต๊ะ ใคร่ครวญดูเนิ่นนาน จากนั้นก็ตอบอย่างจริงใจ “ขอบคุณเหอฮูหยินที่เอ็นดูข้า เรือนในของข้าว่างเปล่าจริงๆ ขาดภรรยาที่เก่งกาจไป เพียงแต่ตอนนี้ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสทั้งสาม หลังเรื่องนี้เสร็จสิ้นข้าจะไปจวนสกุลเหอกับผู้อาวุโสทั้งสามเพื่อขอบคุณฮูหยิน”
ความหมายนี้ชัดเจนว่าตกลงแล้ว!
สามเซียนผู้กลัวภรรยายินดีปรีดา เหอซีจินแสดงท่าทีเป็นคนแรก “ว่ามาเถิด!”
อู่จื่อโฉ่วพูดเช่นกัน “พี่น้องกันทั้งนั้น ยังจะเกรงใจอะไรอีก ว่ามาเถิด!”
จางซูจิ่วเอาแต่ดื่มสุรา แต่ก็ไม่ลืมพยักหน้า