เซี่ยหยวนซูเอ่ยถามว่า “อาหร่างมีแผนการอื่นหรือ”
หวงหร่างเหลือบมองเซี่ยหงเฉินคราหนึ่งก่อนตอบว่า “ปรมาจารย์กับหงเฉินได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์กับศิษย์ แต่กลับผูกพันเสมือนพ่อลูก มิสู้ซูหลางให้คนไปเชิญปรมาจารย์ บอกว่าหงเฉินฝึกวิชาจนเกิดข้อผิดพลาด ให้เขารีบมาช่วยเหลือ เมื่อเขารุดมาถึงจะต้องช่วยเหลือหงเฉินก่อนเป็นแน่ ถึงเวลานั้นท่านค่อยฉวยโอกาสลงมือ”
“ยอดเยี่ยม!” เซี่ยหยวนซูเอ่ยชม
“เจ้า!” เซี่ยหงเฉินฟังแล้วรู้สึกวิงเวียน เขาชี้หวงหร่าง แต่กลับเอ่ยคำด่าไม่ออก
หวงหร่างพูดต่อ “เพื่อให้เรื่องนี้ราบรื่นยิ่งขึ้น มิสู้ซูหลางวางกับดักไว้บนร่างเซี่ยหงเฉิน เมื่อปรมาจารย์ยื่นมือเข้ามาช่วยเขาย่อมตกหลุมพรางทันที เช่นนี้แล้วค่อยลอบโจมตีอีกครั้ง รับรองได้ว่าไม่ผิดพลาดแน่นอน”
เซี่ยหยวนซูพลันกระจ่างแจ้ง เขาแก้พันธนาการบนร่างเซี่ยหงเฉิน ดึงอีกฝ่ายขึ้นมาและซัดฝ่ามือออกไปทำให้สลบ ต่อจากนั้นเขาก็ล้วงขวดหยกใบหนึ่งออกมา เปิดจุกและโรยผงในนั้นลงบนร่างเซี่ยหงเฉิน
ผงนั้นเล็กละเอียด เป็นสีขาว ไม่มีกลิ่น พอโรยลงไปแล้วก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับอาภรณ์สีขาวของเซี่ยหงเฉินทันที จากนั้นเซี่ยหยวนซูก็กำชับอย่างจริงจัง
“นี่คือผงพิษที่สกัดจากพิษงูหุ่ย ของสิ่งนี้มีพิษร้ายแรง ห้ามสัมผัสเด็ดขาด”
“พิษงูหุ่ยหรือ” หวงหร่างเคยได้ยินชื่องูชนิดนี้ รู้ว่าเป็นสัตว์ร้ายที่มีพิษรุนแรง แต่หลายปีมานี้สัตว์ประหลาดนี้พบเห็นได้น้อยครั้งยิ่ง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ยังมีคนสามารถเอาพิษของมันมาได้
เซี่ยหยวนซูรับคำ จากนั้นก็เอ่ยว่า “ข้าจะส่งคนไปตามท่านพ่อมา”
หวงหร่างรีบบอกว่า “ปรมาจารย์เห็นข้าอยู่ที่นี่จะต้องสงสัยเป็นแน่ ข้าจะหลบออกไปก่อน”
พอเซี่ยหยวนซูคิดว่าจะไม่ได้เห็นนางก็ไม่วางใจนัก จึงเอ่ยทันที “ไม่เป็นไร ข้ามีของวิเศษสำหรับพรางกาย เจ้าไปซ่อนตัวในห้องลับเถิด”
กล่าวจบเขาก็หยิบชุดคลุมกันลมตัวหนึ่งออกมาจากวัตถุวิเศษเก็บของแล้วยื่นให้หวงหร่าง
หวงหร่างรู้จักของวิเศษของสำนักเซียนไม่มาก นางไม่รู้ชื่อของเจ้าของวิเศษชิ้นนี้ จึงได้แต่รับมาและคลุมกายไว้ ตอนผูกสายที่คอ นางเหลือบไปเห็นตราบนนั้นโดยบังเอิญ…ตี้อีชิว
เป็นคนผู้นี้อีกแล้ว
เซี่ยหยวนซูเห็นนางมองสำรวจก็อดแค่นหัวเราะแล้วเอ่ยมิได้ “หลายปีมานี้กรมซือเทียนทำของวิเศษล้ำเลิศออกมาไม่น้อย ส่วนใหญ่ข้าซื้อไว้หมด ท่านพ่อกลับคิดว่าข้านั่งกินนอนกินรอความตายไปวันๆ วันนี้ข้าจะทำให้เขาได้เห็นความสามารถของข้า!”
ข้าอยากเห็นเจ้าแสดงความกตัญญูต่อเซี่ยหลิงปี้จนตายไปกับตาจริงๆ! นางยิ้มแล้วถอยไปข้างหลัง “ข้าจะรอฟังข่าวดีจากซูหลาง”
เซี่ยหยวนซูส่งคนไปเชิญเซี่ยหลิงปี้มาจริงๆ
เนื่องจากยอดเขาทั้งสองแห่งอยู่ไม่ไกลกัน เพียงครู่เดียวเซี่ยหลิงปี้ก็เร่งรุดมาถึงอย่างร้อนใจ เซี่ยหยวนซูเห็นเขาแล้วยังคงหวาดหวั่นอยู่บ้าง ความกล้าหาญเมื่อครู่ถูกโยนทิ้งไปหมด ขณะที่พูดแม้แต่เสียงก็ยังสั่น
“ท่าน…ท่านพ่อ…ท่านรีบมาดูหงเฉินเร็วเข้า!”
เซี่ยหลิงปี้ฝีเท้าดั่งมีลมหนุน ถลาไปหน้าเตียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เห็นดวงตาทั้งสองข้างของเซี่ยหงเฉินถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส!
เขากวาดตามองไปรอบด้านทันที เซี่ยหยวนซูร้อนใจขึ้นมาแล้ว “ท่านพ่อ ท่านรีบช่วยประมุขสำนักเถิด!”
ความคิดจิตใจของเซี่ยหลิงปี้หาได้เรียบง่ายถึงเพียงนั้นไม่
เขาถามทันที “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร วันนี้มีใครมาที่ตำหนักเยี่ยอวิ๋นบ้าง”
เซี่ยหยวนซูทำอะไรไม่ถูกทันที เซี่ยหลิงปี้จ้องบุตรชายที่ไม่ได้ความผู้นี้ของตน เกิดความสงสัยมากยิ่งขึ้น
“ตอบมา! เจ้าจะลนลานอะไร!”
เซี่ยหยวนซูตกอยู่ในความลนลานร้อนใจ ไฉนเลยจะรู้ว่าต้องรับมืออย่างไร หรือจะลงมือในตอนนี้!
แต่เขาก็รู้ดีว่าพลังวัตรของเซี่ยหงเฉินที่ถ่ายทอดมายังตัวเขา เดิมทีก็มีส่วนที่สูญเสียไปอยู่แล้ว เขาใช้พลังวัตรของผู้อื่นเช่นนี้เกรงว่าคงมิอาจลงมือกับบิดาของตนเองตรงๆ ได้
ขณะลังเลมิอาจตัดสินใจ หวงหร่างก็ออกมากะทันหัน คุกเข่าลงตรงหน้าเซี่ยหลิงปี้!