ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 15-16
พอเซี่ยหลิงปี้เห็นนางอยู่ที่นี่ โทสะก็พลันบังเกิด ถามเสียงขุ่นเคืองว่า “ไยเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่”
หวงหร่างดูเหมือนตกใจและหวาดหวั่น ทว่าดวงตานางกลับหลุบต่ำ จ้องปลายรองเท้าของเซี่ยหลิงปี้ ในใจยินดีแทบเสียสติ
…ในที่สุดก็ได้พบเจ้าอีกครั้ง ปรมาจารย์ นางทักทายในใจ แต่ปากกลับละล่ำละลักเอ่ยว่า “ปรมาจารย์โปรดอภัยด้วย! วันนี้ไม่รู้ว่าหงเฉินไปฟังข่าวลือมาจากใคร หาว่าข้ากับพี่ใหญ่…มีสัมพันธ์อันคลุมเครือ! เขาเรียกตัวข้ากับพี่ใหญ่มาพิสูจน์ยืนยัน มิคาดคิดว่าพวกเขาสองคนจะปะทะกัน” นางสะอึกสะอื้น “ข้าเห็นเขาโกรธไม่น้อย เดิมทีจะพาพี่ใหญ่ออกไปก่อน แต่เขากลับหาว่าข้าปกป้องพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ถูกใส่ความก็เดือดดาลยิ่งนัก ลงไม้ลงมือกับเขา ข้า…ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่มิใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทั้งยังไม่กล้าเรียกคนอื่นเข้ามา เกรงว่าเรื่องไม่งามในครอบครัวจะแพร่ออกไปข้างนอก จึงได้แต่เข้าไปห้าม บอกเขาว่าอย่าวู่วาม ใครจะคิดว่าเขาจะโกรธจัดจนกระอักโลหิตออกมา พี่ใหญ่ยั้งมือไม่ทันจึงทำร้ายดวงตาทั้งสองข้างของเขา…”
“เป็นตัวหายนะจริงๆ!” เซี่ยหลิงปี้ซัดฝ่ามือออกไป หวงหร่างรู้สึกถึงพลังมหาศาลพุ่งตรงเข้ามาที่หน้าอก ยังไม่ทันรู้สึกเจ็บ นางก็กระเด็นไปกระแทกผนังห้องแล้ว
นางฟุบอยู่กับพื้น เลือดทะลักออกทางจมูก แต่กลับอดทนไว้ไม่ไอออกมา ท่าทางเหมือนสิ้นลมไปแล้ว แน่นอนว่าเซี่ยหยวนซูมิอาจหยุดยั้งเซี่ยหลิงปี้ได้ เซี่ยหลิงปี้ฟังคำพูดนี้แล้วก็ไม่ทันได้คิดมาก ก้าวเข้าไปประคองเซี่ยหงเฉินขึ้นมา ตรวจดูเส้นลมปราณให้อีกฝ่ายทันที แม้ผงเล็กละเอียดบนร่างเซี่ยหงเฉินฟุ้งตลบขึ้นมา เขาก็ไม่รู้ตัว
พอเขาตรวจดูเส้นลมปราณก็รู้ทันทีว่าผิดปกติ!
พลังวัตรทั่วร่างของหงเฉินเหลืออยู่ไม่มาก! เขาเงยหน้าขึ้นทันใด ขณะกำลังจะตวาดถาม เซี่ยหยวนซูก็รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดซัดฝ่ามือออกไป! เขารู้ดีว่าแพ้ชนะขึ้นอยู่กับครั้งนี้ ดังนั้นจึงออกแรงเต็มที่!
เดิมทีเซี่ยหลิงปี้สามารถสกัดกั้นการโจมตีครั้งนี้ได้ ต่อให้พิษงูหุ่ยร้ายกาจเพียงใด สำหรับเขาแล้วพิษก็ไม่กำเริบเร็วถึงเพียงนั้น
ทว่าเขาประเมินพลังวัตรของเซี่ยหยวนซูผิดไป! ความสงสัยในใจเขายังไม่ได้รับคำตอบ ย่อมไม่มีทางสังหารบุตรชายตนเองด้วยฝ่ามือเดียว ดังนั้นพลังฝ่ามือที่เขาซัดไปยังเซี่ยหยวนซูจึงใช้กำลังเพียงสามส่วนเท่านั้น…เท่าที่เขารู้ ด้วยพลังของเซี่ยหยวนซู พลังสามส่วนนี้ก็เพียงพอจะทำให้เจ้าสารเลวผู้นี้แทบเอาชีวิตไม่รอดแล้ว
ทว่าเซี่ยหยวนซูในตอนนี้มิเพียงมีพลังวัตรของตนเอง ยังครอบครองกำลังภายในของเซี่ยหงเฉินอยู่ถึงแปดส่วน เขาซัดฝ่ามือออกไปสุดกำลังจนเกิดเสียงดังสนั่น เตียงแตกกระจาย อวัยวะภายในของเซี่ยหลิงปี้สั่นสะเทือน มุมปากมีเลือดซึมออกมาทันที เซี่ยหลิงปี้กำลังคิดจะรวบรวมปราณอีกครั้ง แต่จู่ๆ ก็พบว่ามือของตนมีเกล็ดถี่ยิบงอกขึ้นมาเกล็ดแล้วเกล็ดเล่า…เป็นเกล็ดงูสีเขียว
เขานิ่งงันไปครู่หนึ่ง เซี่ยหยวนซูซัดฝ่ามือออกมาอีกครั้ง ลมจากฝ่ามือของสองพ่อลูกปะทะกัน แผ่นหลังของเซี่ยหลิงปี้กระแทกผนังตำหนัก ลมปราณภายในปั่นป่วน แต่ยังคงพูดขึ้น
“เจ้าดูดพลังวัตรของหงเฉินไป!”
“หงเฉิน…ฮ่าๆ” เซี่ยหยวนซูหัวเราะอย่างขมขื่น “ข้าต่างหากที่เป็นบุตรชายแท้ๆ ของท่าน! สายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของท่าน! แต่เหตุใดในสายตาท่านจึงมองเห็นแต่เซี่ยหงเฉินเพียงคนเดียว!”
“เจ้าลูกเนรคุณ!” เซี่ยหลิงปี้โมโหจนปอดแทบระเบิด “พื้นฐานของเขาแข็งแกร่ง พลังวัตรล้ำลึก เดิมทีคุณสมบัติของเจ้าก็เทียบเขาไม่ได้อยู่แล้ว หากจะพูดถึงความเพียรยิ่งเทียบไม่ได้กับหนึ่งในหมื่นของเขา แล้วจะเปรียบกับเขาได้อย่างไร! ยิ่งไปกว่านั้นเขาใจกว้างโอบอ้อมอารี จิตใจบริสุทธิ์ เขาเป็นประมุขสำนัก มีหรือจะกดขี่ข่มเหงเจ้า! หลายปีมานี้เจ้าคิดว่าเรื่องต่ำช้าของเจ้าเหตุใดไม่มีใครพูดถึง! มิใช่เพราะเขาคอยช่วยเหลือเจ้า…”
“พอที! หุบปาก!” เซี่ยหยวนซูเดือดดาล “ดวงตาของท่านมองเห็นแต่ความดีสารพัดของเซี่ยหงเฉิน!” เขาลงมือรุนแรงกว่าเก่า ถึงขั้นจะสังหารเซี่ยหลิงปี้ให้ตาย
เซี่ยหลิงปี้พูดมามากมายเพียงนี้ย่อมมีเจตนาจะยื้อเวลา คทาหยกหรูอี้สีขาวหิมะในมือเขาสาดประกายออกมาทันใด เพียงไม่นานก็ก่อตัวเป็นข่ายอาคมป้องกัน
รัศมีของข่ายอาคมครอบลงมา เซี่ยหลิงปี้ยืนอยู่ในนั้น มวยผมหลุดลุ่ย ชุดคลุมเปื้อนโลหิต เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บไม่น้อย เขาตวาดเสียงเกรี้ยวกราดอีก
“เจ้าลูกเนรคุณ เจ้าช่างรนหาที่ตายจริงๆ!” แม้วาจาจะกล่าวเช่นนี้ แต่กับบุตรชายคนนี้ถึงที่สุดแล้วเซี่ยหลิงปี้ยังมีความผูกพันฉันพ่อลูกอยู่บ้าง
เขาจู่โจมออกไปสุดกำลัง หากกล่าวถึงพื้นฐาน เดิมทีเซี่ยหยวนซูก็ธรรมดาสามัญอย่างยิ่ง อาศัยการลอบโจมตียังสามารถได้เปรียบ แต่บัดนี้ฝ่ายตรงข้ามมองออกแล้ว ยังจะเป็นคู่ต่อสู้ของเซี่ยหลิงปี้ได้อย่างไร
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังสนั่น ตำหนักเยี่ยอวิ๋นสั่นสะเทือนทันใด เซี่ยหยวนซูทรุดลงนั่งกับพื้น เซี่ยหลิงปี้ก็กระอักโลหิตออกมา สองพ่อลูกกล่าวได้ว่าบอบช้ำทั้งสองฝ่าย
เหตุการณ์บานปลายใหญ่โตเช่นนี้ ของวิเศษชิ้นเล็กๆ อย่างปราการกั้นเสียงมิอาจปกปิดได้ เซี่ยเซ่าชงและเนี่ยชิงหลันที่อยู่นอกตำหนักได้ยินเสียงก็รุดเข้ามาอย่างเร่งรีบ!
“ปรมาจารย์? ประมุขสำนัก?” เซี่ยเซ่าชงลองตะโกนเรียก
เซี่ยหลิงปี้ไม่อยากให้เรื่องไม่งามในครอบครัวแพร่ออกไปข้างนอก เห็นได้ชัดว่าเซี่ยหยวนซูสูญเสียกำลังที่จะต่อสู้ได้อีกครั้งแล้ว เขาจึงเอ่ยสั่ง
“ออกไป!”
แม้เซี่ยเซ่าชงและคนอื่นๆ จะเป็นห่วง แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งเขา
เซี่ยหลิงปี้เก็บข่ายอาคม เดินไปตรงหน้าเซี่ยหยวนซูช้าๆ แล้วยอบกายลง กระชากเส้นผมของเซี่ยหยวนซูแล้วดึงขึ้นมา บังคับให้เขาเงยหน้าขึ้น ร่างกายของเซี่ยหยวนซูยังมิอาจปรับตัวเข้ากับปราณแท้อันแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ในชั่วเวลาสั้นๆ
ก่อนหน้านี้เขารวบรวมปราณด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด ทั้งยังถูกทำร้ายอย่างหนัก ยามนี้จึงบาดเจ็บไม่น้อย
เซี่ยหลิงปี้แววตาดั่งคบเพลิง คล้ายจะผลาญเขาให้เป็นโพรง “เป็นใครที่ยุแยงให้เจ้าทำเรื่องโฉดเขลาเช่นนี้”
เขารู้จักบุตรชายของตนเองดี ด้วยนิสัยของเซี่ยหยวนซู ความเป็นไปได้ที่จะวางแผนกับเซี่ยหงเฉินมีไม่มาก ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขากลับมิได้สงสัยหวงหร่าง…หวงหร่างไม่ถนัดการต่อสู้ พลังวัตรของนางยังสู้ศิษย์ชั้นนอกคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ นางเปรียบดั่งมดในสายตาเขา แล้วเขาจะสงสัยนางได้อย่างไร
เซี่ยหยวนซูก็ไม่ได้คิดว่าหวงหร่างยุแยงตน เขาหอบหายใจหนักๆ พลางพูดว่า “ท่านรักลำเอียงเซี่ยหงเฉินมาโดยตลอด จะเข้าใจความรู้สึกของข้าได้อย่างไร”
“ความรู้สึกของเจ้าหรือ!” เซี่ยหลิงปี้โกรธเกรี้ยว “ตัวเจ้าเองความสามารถไม่เพียงพอ มากด้วยตัณหาราคะ ยังจะให้สำนักเซียนทั้งหมดฝากความหวังไว้กับเจ้าอีกรึ!”
เซี่ยหยวนซูเดือดดาลกว่าเก่า คำรามว่า “ดังนั้นท่านจึงฝากความหวังไว้กับเซี่ยหงเฉิน! เด็กชั้นต่ำที่ท่านเก็บได้จากตีนเขา! ท่านไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครมีสายเลือดเป็นเช่นไร ท่านสนใจแต่ว่าใครจะมีประโยชน์ต่อท่าน!”
“หากข้าไม่สนสายสัมพันธ์ในครอบครัว ป่านนี้เจ้าคงกลายเป็น…”
เซี่ยหลิงปี้กล่าวถึงตรงนี้ก็ตกตะลึง…เมื่อครู่หวงหร่างที่นอนอยู่ข้างหลังเขาดูคล้ายจะตายไปแล้ว
ทว่าเข็มเล็กสองเล่มในมือนางกลับแทงเข้ามาที่หลังเอวของเซี่ยหลิงปี้ เซี่ยหลิงปี้รู้สึกชาไปทั้งร่าง เขาคิดจะพลิกมือสังหารหวงหร่างให้ตาย แต่ความเร็วของเขาหยุดชะงักในชั่วพริบตา ควบคุมร่างกายไม่ได้ในทันที
เขาพยายามออกแรงหลายครั้ง ทว่าร่างกายเหมือนตัดขาดกับตนไปแล้วปานนั้น ไม่ตอบสนองสักนิด
รูม่านตาของเซี่ยหลิงปี้ค่อยๆ ขยายออก เขาเข้าใจว่านั่นคืออะไร…เข็มเกี่ยววิญญาณตรึงกระดูก!
เนื่องจากเข็มปักอยู่หลังเอว ดังนั้นร่างกายเขาจึงสั่นเล็กน้อย ทว่าไม่มีประโยชน์แล้ว เขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น มุมปากมีน้ำลายไหล ขณะกำลังจะขยับ ศีรษะกลับตกลงบนพื้น
หวงหร่างอยากจะลุกขึ้นนั่ง แต่หลังจากพยายามหลายครั้งล้วนล้มเหลว นางเริ่มกระอักโลหิตออกมา แต่พอเห็นเซี่ยหลิงปี้ที่นอนอยู่บนพื้นแขนขาทั้งสี่สั่นกระตุกก็ให้รู้สึกสาแก่ใจเกินบรรยาย
เซี่ยหยวนซูคลานไปข้างกายเซี่ยหลิงปี้ ยังหวาดกลัวไม่หาย ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ถามว่า “จริงหรือไม่ที่เขา…”
หวงหร่างอ้าปาก วาจายังไม่ทันเอ่ยออกมา โลหิตก็ทำให้นางสำลักเสียก่อน นางออกแรงอาเจียนโลหิตออกมา ในนั้นยังมีชิ้นส่วนอวัยวะภายในปะปนอยู่ด้วย นางได้แต่ชี้ไปที่มุมห้อง…ตรงนั้นยังมีร่มคันหนึ่งวางอยู่ เป็นของวิเศษซึ่งสามารถดูดพลังวัตรของผู้อื่นได้ที่ตี้อีชิวทำขึ้นเองกับมือนั่นเอง
เซี่ยหยวนซูพลันเข้าใจความหมายของนาง เดินไปที่ร่มทันที
“ฮ่าๆ ปรมาจารย์” หวงหร่างดึงชายเสื้อของเซี่ยหลิงปี้พลางหัวเราะไม่หยุด เหมือนผีร้ายที่ฟื้นคืนชีพอย่างไรอย่างนั้น หัวเราะไปหัวเราะมา โลหิตของนางก็หยดลงบนร่างของเซี่ยหลิงปี้ดุจไข่มุก
(วางจำหน่าย ‘ห้วงฝันบันดาลรัก’ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568)
Comments
