บทที่ 63 วุ่นวาย
ชีวิตของหวงหร่างค่อยๆ สูญสลายไป นางยกมือขึ้นดึงเข็มใบชาโปร่งใสบนศีรษะออกมาเบาๆ
หยดน้ำที่ละลายมาจากเข็มใบชาเล่มนั้นผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโลหิตในมือนาง
ข้างหูเป็นเสียงสับสนวุ่นวาย เสียงร้องโหยหวนของเซี่ยหลิงปี้ฟังแล้วน่าตกใจยิ่ง
สายตาของหวงหร่างเลื่อนไป เห็นเพียงวัชระในมือของหุ่นกลนักรบตัวนั้นแทงเข้าไปในกะโหลกศีรษะเขาครึ่งด้าม โลหิตของเขาอาบย้อมใบหน้าครึ่งซีก ในนั้นยังมีมันสมองสีขาวผสมอยู่ด้วย นั่นทำให้เขาดูเหมือนผีร้าย น่าสยดสยองอย่างบอกไม่ถูก
ในใจเซี่ยหงเฉินแม้จะร้อนรน แต่ยามเผชิญวิกฤตกลับไม่ลนลาน
เขาเอ่ยว่า “ผู้อาวุโสเหมียวอวิ๋นจืออยู่ที่ใด”
ท่ามกลางกลุ่มคน ไม่ต้องให้ใครพูดมากเหมียวอวิ๋นจือก็ก้าวออกมาแล้ว เขายอบกายลงตรงหน้าเซี่ยหลิงปี้ ดึงเข็มเงินออกมา หมายจะระงับความเจ็บปวดให้เซี่ยหลิงปี้ก่อน
หวงหร่างขดกายอยู่ในอ้อมอกของตี้อีชิว ยิ่งเลือดออกมาก ร่างนางก็ยิ่งเย็น ทันใดนั้นก็เริ่มสั่นสะท้าน
“ผู้อาวุโสเหมียว!” ตี้อีชิวไม่กล้าเคลื่อนย้ายหวงหร่าง เอ่ยเพียงว่า “โปรดช่วยตรวจดูอาหร่างให้ข้าที”
ทว่าเหมียวอวิ๋นจือมีเพียงคนเดียว เขาเหลือบมองหวงหร่างคราหนึ่ง ไม่รู้จะรับมือเช่นไร
แต่หวงหร่างยิ้มพลางเอ่ยว่า “ไม่ต้อง” นางซบหน้ากับอกของตี้อีชิว “ข้าจะบอกอะไรท่านอย่างหนึ่ง หลังตื่นจากฝันแล้วท่านต้องจำไว้ให้ดี”
“ตื่นจากฝันอะไร” ตี้อีชิวฟังไม่เข้าใจ
หวงหร่างเอ่ยว่า “ชาติกำเนิดของเซี่ยหงเฉินมีปัญหา เขาไม่ใช่…ไม่ใช่เด็กที่เซี่ยหลิงปี้เก็บมาเลี้ยงดู ในอดีตเพื่อรู้จักเขาให้มากยิ่งขึ้น ข้าเคยไปตรวจสอบสถานที่เกิดของเขา แต่ข้าพบว่า…เซี่ยหลิงปี้โกหก”
ภาพตรงหน้าดั่งน้ำแข็งดั่งเม็ดทราย เริ่มบิดเบี้ยวและหลอมละลายอย่างช้าๆ
เทือกเขาหลั่งไหล วังตำหนักอ่อนยวบ สรรพสิ่งค่อยๆ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
ด้วยเหตุนี้คำพูดทั้งหมดของหวงหร่างจึงถูกยับยั้งไว้ นางกำเสื้อด้านหน้าตรงอกของตี้อีชิวแน่น จากนั้นยกศีรษะขึ้นจุมพิตใต้คางเขา
ผาไป๋กู่
ตอนหวงหร่างตื่นขึ้นมายังคงนั่งหันหน้าไปทางหน้าต่าง
นอกหน้าต่างเป็นผาชันหมื่นจั้ง เห็นเพียงวิหคบินผ่านไปมาเป็นครั้งคราว วิหคยังสามารถโผบินไปมาได้ ทว่านางแม้แต่จะขยับตัวยังเป็นความคิดที่เพ้อฝัน หวงหร่างถึงขั้นรู้สึกว่าในความฝันแม้จะบาดเจ็บสาหัส ต่อให้ทุกข์ทรมานเหลือแสนก็ยังดีกว่าร่างกายที่เปรียบดังกรงขังไร้ชีวิตเช่นนี้
นางร่วงลงจากยอดเมฆ โลหิตและบุญคุณความแค้นในความฝันมีแต่จะทำให้ความเจ็บปวดหลังตื่นขึ้นมาทวีคูณขึ้นเท่านั้น
ข้างหลังพลันมีเสียงน้ำ หวงหร่างไม่อาจหันหน้าไป แต่นางรู้ว่าตี้อีชิวก็ตื่นแล้วเช่นกัน
ใช่ ก่อนเข้าสู่ความฝันเขาแช่น้ำสมุนไพรอยู่ข้างหลังข้า
จริงดังคาด เสียงเท้าเปล่าก้าวเดินดังขึ้นข้างหลัง ดูเหมือนว่าตี้อีชิวกำลังก้าวออกจากถังอาบน้ำ
หวงหร่างรู้สึกได้ถึงลมแรงที่พัดมาข้างหลัง เก้าอี้ล้อเข็นถูกคนหมุนกลับไปแล้ว
นางยังไม่ทันมองคนที่อยู่ตรงหน้าให้ชัดเจนก็มีมือข้างหนึ่งกดลงบนทรวงอกนางเบาๆ คล้ายกำลังตรวจดูให้แน่ใจว่าบาดแผลในความฝันเป็นความจริงหรือไม่
จากนั้นหวงหร่างก็มองเห็นคนตรงหน้าชัดเจนในที่สุด
เรือนผมดำของตี้อีชิวแผ่สยาย ร่างกายปกคลุมด้วยชุดขุนนางสีม่วงอย่างส่งเดช เห็นได้ชัดว่ารีบร้อนยิ่ง
เขานั่งยองๆ ตรงหน้านาง ชุดคลุมตัวนอกเปิดออก หวงหร่างจึงมองเห็นอะไรข้างในมากยิ่งขึ้น
ความจริงแล้วผิวของตี้อีชิวขาวสะอาดมาก เพียงแค่ใต้ไหล่ซ้ายเกล็ดงูสีเขียวที่ปกคลุมครึ่งร่างดูสะดุดตาเป็นพิเศษ เรือนร่างเขาผ่ายผอม แต่บั้นเอวกำยำทรงพลัง
เอ๊ะ? แม้ทรวดทรงจะใช้ได้ แต่ก็ไม่มีของวิเศษอะไรพันรอบเอวนี่
…หรือว่านางคณิกาสิบสองคนนั้นแท้จริงแล้วเขาเป็นคนจ้างวานมา!
ข่าวลือเชื่อถือไม่ได้จริงๆ