บทที่ 64 พบหน้า
เมืองหลวง กรมซือเทียน
ลมหนาวเสียดกระดูก หิมะตกหนักจนทั่วทุกหนแห่งขาวโพลน
ตอนตี้อีชิวพาหวงหร่างกับเหมียวอวิ๋นจือกลับมามีเรื่องยุ่งยากมากมายรอเขาไปจัดการ
ในห้องประชุมของกองมังกรเขียว มีคนสิบกว่าคนมารออยู่แล้ว
จดหมายขอความช่วยเหลือที่ส่งมาถึงจวนที่ว่าการกองสูงเป็นภูเขา แม้กระทั่งในวังยังส่งคนมาตามตัว
ตอนที่ใต้เท้าเจ้ากรมพาหวงหร่างกับเหมียวอวิ๋นจือรุดกลับกรมซือเทียน สายตาของใต้เท้าสิบกว่าคนเหลือบมองไปที่เอวของเขาก่อนอย่างพร้อมเพรียงกัน
ตี้อีชิวใบหน้าเขียวคล้ำ โชคดีที่หลี่ลู่รีบเอ่ยว่า “เจ้ากรม ตอนนี้ทุกคนในราชสำนักต่างฝันประหลาด ทั้งยังเกิดเรื่องพิสดารอย่างการตายแล้วฟื้นคืนชีพ ใต้เท้าทั้งหลายร้อนใจอย่างยิ่ง”
จากนั้นใต้เท้าชีเสนาบดีกรมปกครองก็เอ่ยขึ้นทันที “เจ้ากรม ในกรมข้ามีขุนนางผู้หนึ่งเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่เมื่อห้าปีก่อนเพราะกินผลไม้แล้วติดคอตาย ใครจะรู้ว่าในความฝันประหลาดนั่นเขาถูกสหายขุนนางช่วยไว้ได้ บัดนี้เมื่อตื่นจากฝันเขาจึงกลับมาปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นปกติ เรื่อง…เรื่องคนตายแล้วฟื้นคืนชีพ นับแต่โบราณไม่เคยมีมาก่อน เกรงว่าคงมิใช่นิมิตมงคล!”
พอเขาเอ่ยปาก ใต้เท้าคนอื่นๆ ต่างพากันเล่าถึงเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นในบ้านตน
ตี้อีชิวเข็นหวงหร่างไปตรงหน้าต่างก่อน จากนั้นก็ย้ายอ่างไฟมาข้างเท้านาง
หวงหร่างจึงได้ผิงไฟพลางฟังพวกเขาหารือเรื่องงานอย่างอบอุ่น ผีเสื้อกลางคืนปีกเขียวตัวหนึ่งร่อนลงตรงหน้านาง นางพิจารณาอยู่นานก็ตระหนักได้โดยพลัน…เป็นเจ้าหนอนบุ้ง!
ความตกใจระคนยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งผุดขึ้นในใจ น่าเสียดายที่ตอนนี้นางเหมือนท่อนไม้ก้อนหิน มิอาจขยับเขยื้อนได้
ผีเสื้อกลางคืนปีกเขียวบินวนรอบตัวนางหนึ่งรอบ คล้ายเพิ่งตระหนักได้ในยามนี้ว่า…มารดาของมัน สตรีที่ในห้วงฝันสามารถทำให้เซี่ยหลิงปี้ชื่อเสียงป่นปี้ได้ ความจริงแล้วมีสภาพไม่ต่างจากคนตายที่ยังมีชีวิตอยู่
มันเกาะอยู่บนหลังมือของหวงหร่างที่ประสานกันอย่างแผ่วเบา กระพือปีกพลางจุมพิตมือนาง
…ก็ได้ ข้ายกโทษให้ท่านเรื่องที่ท่านไม่ได้มาตามหาข้าแล้ว
ใต้เท้าสิบกว่าคนเล่าถึงเรื่องราวประหลาดด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง เป็นอย่างที่คิด ล้วนเป็นคนที่ก่อนหน้านี้ตายไปแล้ว เนื่องจากในฝันรอดพ้นจากหายนะ จึงฟื้นคืนชีพอีกครั้งในโลกความจริงอย่างพิสดาร
สีหน้าของเหมียวอวิ๋นจือเคร่งเครียด หันไปถามตี้อีชิว “เจ้าคิดเห็นเช่นไร”
ตี้อีชิวตอบ “มีการคาดเดาอย่างหนึ่ง ทว่าตอนนี้ยังไม่กล้ายืนยัน”
ใต้เท้าชีเอ่ยอย่างหมดความอดทน “นี่มันเวลาใดแล้ว เจ้ากรมยังเก็บงำคำพูดอยู่ได้”
ตี้อีชิวกล่าวว่า “หากพวกเขาสัมผัสกับศพในตอนนี้ของตนเองดูเหมือนว่าจะสูญสลายไปเอง”
“สูญสลายหรือ” ใต้เท้าชีถาม “ท่านหมายความว่าเมื่อพวกเขาสัมผัสกับศพของตนเองก็จะตายหรือ”
เหมียวอวิ๋นจือที่อยู่ด้านข้างอธิบาย “จะละลาย ละลายหายไปเหมือนน้ำแข็ง”
ใต้เท้าสิบกว่าคนทำท่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เรื่องนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก ตี้อีชิวหันไปเอ่ยกับเป้าอู่ “ไปกองพยัคฆ์ขาว นำตัวนักโทษที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพมาสองสามคน จากนั้นก็ไปขุดศพของพวกเขามาด้วย”
เป้าอู่รับคำและไปจัดการทันที