ใต้เท้าทุกท่านได้แต่เฝ้ารอไปด้วยกัน
ตี้อีชิวก้าวเดินช้าๆ ไปข้างกายหวงหร่าง กังวลอยู่มิวายว่านางจะหนาว จึงอดลูบมือนางไม่ได้
พอลูบมือเช่นนี้ก็เห็นเจ้าผีเสื้อกลางคืนที่เกาะอยู่บนหลังมือหวงหร่าง…หวงหยาง
ในที่สุดก็มีเรื่องน่ายินดีเรื่องหนึ่งจนได้
ใต้เท้าเจ้ากรมหยิบยาลูกกลอนวิเศษออกมาเล็กน้อย ใส่ลงในถ้วยและผสมน้ำ ก่อนจะจับหวงหยางใส่ลงไป
หวงหยางเติบโตมากับเขา เคยชินกับวิธีป้อนอาหารของเขานานแล้ว เวลานี้ยังจะคิดว่าเป็นในความฝันหรือนอกความฝันอะไรอีก มันลงไปในถ้วยและเริ่มดูดซับยาลูกกลอนวิเศษ
พอเสร็จแล้วตี้อีชิวก็กุมมือหวงหร่าง หวงหร่างยามอยู่ในฝันมุมานะบำเพ็ญมรรคายุทธ์ นอกความฝันพลังวัตรจึงเพิ่มขึ้นไม่น้อย แต่น่าเสียดายเหลือเกิน พลังวัตรที่เพิ่มพูนมิอาจต้านทานเข็มเกี่ยววิญญาณตรึงกระดูกได้
ตี้อีชิวหยิบผ้าห่มขนกระต่ายมาคลุมลงบนสองขาของนาง จากนั้นก็จับมือทั้งสองของนางซุกเข้าไป
ใต้เท้าสิบกว่าคนมองเขาดูแลตุ๊กตาตัวหนึ่งอย่างเอาใจใส่เช่นนี้เงียบๆ ทันใดนั้นใต้เท้าชีก็นึกขึ้นได้
“จะว่าไปแล้วในความฝันเจ้ากรมประกาศต่อภายนอกว่าเนื่องจากเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของท่านป่วยตาย จึงมีใจให้แม่นางหวงหร่าง แม่นางหวงหร่างผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นภรรยาของประมุขสำนักเซียนอวี้หูเซี่ยหงเฉินกระมัง”
คำพูดนี้ของเขานับเป็นการเปิดประเด็นขึ้นมา
ใต้เท้าคนอื่นๆ พากันอุทาน “เจ้ากรมยังไปเจรจาสู่ขอ อ้อ ถึงขั้นยอมมอบหุ่นกลนักรบระดับสุดยอดให้เพื่อการนี้โดยไม่เสียดาย ทุ่มสุดตัวจริงๆ”
ทุกคนพูดคุยกันอย่างครึกครื้น หลี่ลู่ที่อยู่ด้านข้างฟังแล้วกลับหน้าแดง…ใต้เท้าเจ้ากรมของตนมีชื่อเสียงอยู่เพียงเท่านี้ ในความฝันครั้งนี้กล่าวได้ว่าถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว
มีเพียงใต้เท้าเจ้ากรมที่แค่นเสียงเย็นชา ถือเสียว่าฟังเสียงสุนัขเห่าหอน
ไม่นานนักเป้าอู่ก็คุมตัวนักโทษสี่คนเข้ามา
“เจ้ากรม อยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้วขอรับ” เขารายงานและสั่งให้นักโทษทั้งสี่คุกเข่านั่งเรียงกัน ข้างหลังนักโทษทั้งสี่ยังมีคนหามศพสี่ร่างเข้ามาด้วย ศพถูกวางไว้บนพื้นหิมะนอกประตู บนนั้นคลุมด้วยผ้าขาว
พวกใต้เท้าหยุดซุบซิบกะทันหัน ทุกคนต่างมองไปยังนักโทษสี่คนนี้
ผู้ช่วยกองพยัคฆ์ขาวถานฉีเอ่ยว่า “เจ้ากรม เดิมทีสี่คนนี้บาดเจ็บสาหัส จึงป่วยตายอยู่ในคุก แต่ในฝันประหลาดพวกเขาโชคดี บังเอิญพบใต้เท้าหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงที่กำลังหาคนทดสอบยา จึงรอดชีวิตมาได้”
ตี้อีชิวจับจ้องนักโทษสี่คนนี้และโบกมือเป็นสัญญาณ เหมียวอวิ๋นจือที่นั่งอยู่ด้านข้างก็กลั้นลมหายใจเช่นกัน
เป้าอู่เลิกผ้าขาว ทุกคนพลันเพ่งมองด้วยความฉงนสงสัย เห็นเพียงศพที่เน่าเปื่อยเล็กน้อย ลักษณะเหมือนนักโทษทั้งสี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกประการ
ตี้อีชิวกล่าวว่า “พวกเจ้าทั้งสี่คนจงหันกลับไป”
นักโทษทั้งสี่คนฟังแล้วก็งุนงงไปหมด ในความฝันนอกความฝันอะไรกัน โชคดีรอดชีวิตอะไรกัน
พวกเขาหันกลับไปพร้อมกัน แน่นอนว่าย่อมเห็นศพสี่ร่างที่หน้าประตู
ทั้งสี่คนตกตะลึง เนิ่นนานก็ลุกเดินเข้าไปอย่างลังเล
“นะ…นี่…” มีคนชี้ร่างของตนเอง ท่าทางไม่อยากจะเชื่อ
“พะ…พวกเราตายแล้วหรือ” นักโทษอีกคนถามเสียงค่อย
ใต้เท้าชีขมวดคิ้วพลางเอ่ยว่า “ใช่แล้ว”
“จะเป็นไปได้อย่างไร” มีคนตะโกนเสียงดัง “พวกเจ้าขุนนางสุนัขกำลังเล่นอะไรอยู่กันแน่!”
พอเขาพูดเช่นนี้ นักโทษอีกสามคนที่เหลือแววตาจึงเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง