หวงหร่างเป็นทายาทเผ่าดินซีหร่าง ถือกำเนิดในสกุลหวง แม้หวงซู่ไม่ใช่คนเมตตาอารี แต่ก็มิใช่ตระกูลที่อัตคัดขัดสน
แม้ชาติตระกูลของนางจะต่ำต้อยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่นับว่ายากจน ภายหลังแต่งเข้าสำนักเซียนอวี้หู ต่อให้มีเรื่องราวมากมายไม่เป็นดังใจนึก แต่ถึงอย่างไรก็ได้อยู่อย่างสุขสบาย ถูกทะนุถนอมมาโดยตลอดเช่นนี้เกรงว่าปณิธานคงจะอ่อนแอ ถูกกักขังลงทัณฑ์มาสิบปี คำพูดของนางยังถือเป็นเรื่องจริงได้อยู่หรือไม่
“เจ้าคิดอะไรอยู่” เหมียวอวิ๋นจือเห็นเขาทำท่าครุ่นคิดจึงอดถามไม่ได้
ตี้อีชิวตรึกตรองอยู่เนิ่นนานก่อนตอบว่า “ในความฝันประหลาดครั้งก่อนนางพูดอะไรบางอย่างกับข้า ทำให้ข้าเกิดความสงสัยมากทีเดียว”
ความสนใจใคร่รู้ของเหมียวอวิ๋นจือถูกกระตุ้นขึ้นมาทันใด “คำพูดใดหรือ”
ตี้อีชิวยอบกายลงตรงหน้าหวงหร่าง ลูบเรือนผมสีดำของนางเบาๆ “นางบอกว่าชาติกำเนิดของเซี่ยหงเฉินมีปัญหา เซี่ยหลิงปี้โกหก”
พอเขาเอ่ยคำพูดนี้ออกมา เหมียวอวิ๋นจือพลันขมวดคิ้ว เนิ่นนานจึงเอ่ยว่า “ในอดีตเซี่ยหลิงปี้เก็บเซี่ยหงเฉินได้ที่ตีนเขา เรื่องนี้มีคนเห็นกับตา หากบอกว่าเป็นเรื่องเท็จก็คงเป็นเรื่องความเป็นมาของเขา แต่เซี่ยหงเฉินมาจากเมืองชิงโจว ตอนนั้นเมืองชิงโจวเกิดโรคระบาดอย่างหนัก ชาวเมืองอพยพลี้ภัย ว่ากันว่าเขาเป็นบุตรของผู้ลี้ภัยในตอนนั้น บิดามารดาล้วนสิ้นชีพไปแล้ว บัดนี้เนื่องจากเมืองชิงโจวเป็นบ้านเกิดของประมุขสำนักจึงได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทีเดียว”
“ก็ถูก” ตี้อีชิวครุ่นคิดเนิ่นนาน “เรื่องนี้เซี่ยหลิงปี้มิได้ปิดบัง ความจริงแล้วไม่น่าจะเป็นเรื่องเท็จ”
หวงหร่างฟังพวกเขาพูดคุยกันเงียบๆ อยากจะกลอกตาสักครา
แต่แล้วนางก็สังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าความจริงแล้วตี้อีชิวคอยสังเกตนางอยู่ตลอด
…ดูเหมือนเขากำลังตรวจสอบดูว่านางยังมีสติรับรู้อยู่หรือไม่!!
หวงหร่างไม่มองเขาอีก นับตั้งแต่มาอยู่กับเขาเรื่องน่าอายก็เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน
…เลิกหยั่งเชิงข้าเสียที ท่านถือเสียว่าข้าตายไปแล้วเถิด!
นางไม่มีอาการตอบสนองโดยสิ้นเชิง ดังนั้นตี้อีชิวจึงได้แต่ล้มเลิกความพยายาม
เหมียวอวิ๋นจือกลับเอ่ยว่า “นางหนูผู้นี้เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น นางกัดเซี่ยหลิงปี้ไม่ปล่อยจะต้องมีเหตุผลแน่นอน ในเมื่อนางพูดเช่นนี้ เจ้าไปตรวจสอบดูสักหน่อยก็ไม่เสียหาย”
ตี้อีชิวรับคำ “กลัวแต่ว่าเวลาผ่านมาหลายปี ต่อให้มีเบาะแสอะไรก็คงถูกเซี่ยหลิงปี้กลบเกลื่อนทำลายไปหมดแล้ว”
แม้จะเอ่ยเช่นนี้ แต่เขายังคงเรียกตัวหลี่ลู่มา สั่งให้อีกฝ่ายส่งคนไปเมืองชิงโจว ตรวจสอบยืนยันชาติกำเนิดของเซี่ยหงเฉินอีกครั้ง
สำนักเซียนอวี้หู
เซี่ยหงเฉินปะติดปะต่อสมุดบันทึกที่เซี่ยเซ่าชงมอบให้ สุดท้ายพอนำมารวมกันก็ได้เคล็ดวิชาชุดหนึ่ง
เขาเขียนเคล็ดวิชานั้นออกมาและใคร่ครวญไปทีละส่วน
จนกระทั่งสุดท้ายเหลือเพียงความเงียบงัน
เวลานี้เองศิษย์ของยอดเขาไป่เฉ่าก็เข้ามารายงานอย่างร้อนรน “ประมุขสำนัก ปรมาจารย์เจ็บปวดยากจะทานทน เชิญท่านไปดูหน่อยเถิดขอรับ!”
เซี่ยหงเฉินลุกขึ้น กำลังจะมุ่งหน้าไปตำหนักหลัวฝู แต่กลับชะงักฝีเท้าอย่างรวดเร็ว เพียงตอบว่า “ข้าทราบแล้ว จะรีบไปโดยเร็ว”
ศิษย์คนนั้นเห็นเขาไม่คิดจะไปในทันที จึงได้แต่รับคำและออกจากตำหนักไป
เซี่ยหงเฉินกวาดสายตามองห้องหนังสือ เนิ่นนานเขาก็หยิบวัตถุวิเศษเก็บของออกมา เก็บตำราที่เกี่ยวกับเข็มเกี่ยววิญญาณตรึงกระดูกลงไปในนั้นทีละเล่มให้เรียบร้อย
“ชิงหลัน” เขาพูดกับคนข้างนอก