บทที่ 66 ชิงร่าง
เซี่ยหงเฉินยืนอยู่ในตำหนักหลัวฝู มองดูเซี่ยหลิงปี้สองมือกุมศีรษะ ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
“เจ้ายังหาตัวนางชั้นต่ำนั่นไม่พบหรือ” เห็นเขากลับมา เซี่ยหลิงปี้ก็เอ่ยถามเสียงเฉียบขาด
เซี่ยหงเฉินตอบตามความจริง “นางอยู่ในกรมซือเทียนขอรับ”
“กรมซือเทียน?” เซี่ยหลิงปี้เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันใด ถามว่า “เหตุใดเจ้าไม่เอาตัวนางกลับมา ในกรมซือเทียนยังจะมีคนขัดขวางเจ้าได้หรือ”
เซี่ยหงเฉินเดินช้าๆ ไปตรงหน้าอีกฝ่าย เซี่ยหลิงปี้กระชากแถบผ้าโอสถที่ศิษย์ของยอดเขาไป่เฉ่าประคบไว้บนศีรษะของเขาออก
“ถอยไปให้หมด!” เขาตวาดเสียงเกรี้ยว
ศิษย์คนอื่นๆ ย่อมไม่กล้าขัดใจเขา พากันขอตัว
เซี่ยหลิงปี้มือหนึ่งกุมศีรษะ มือหนึ่งยันกายลุกขึ้นนั่ง “ตอบมา!”
เซี่ยหงเฉินจ้องเขาพลางถาม “ข้าไม่เข้าใจมาโดยตลอดว่าเหตุใดท่านอาจารย์ต้องทำเช่นนี้กับนาง”
เซี่ยหลิงปี้ถามทั้งที่รู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร “เจ้ากำลังพูดอะไร”
เซี่ยหงเฉินตอบ “นางถูกลงทัณฑ์ด้วยเข็มเกี่ยววิญญาณตรึงกระดูก มิอาจพูดจาหรือขยับตัวได้แล้ว”
“เช่นนั้นเจ้าก็ยิ่งสมควรพานางกลับมา หรือไม่ก็สังหารทิ้งเสียป้องกันหายนะที่จะตามมาในภายหลัง!” เซี่ยหลิงปี้เอ่ยอย่างเคียดแค้น “บัดนี้เข้าสู่ความฝันถึงสองคราเพราะนางชั้นต่ำผู้นั้น ทำให้สำนักเซียนอวี้หูได้รับความเสียหายไปมากเท่าไร นางอยู่ในกรมซือเทียน แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้ราชสำนักต้องเป็นคนบงการแน่! เจ้าดูไม่ออกหรือไร”
เซี่ยหงเฉินหลุบตาไม่ตอบ หากมิใช่เพราะคำพูดของหวงหร่างในความฝัน เขาก็เกือบจะเชื่อเช่นนั้น
นางถูกราชสำนักบงการ ดังนั้นจึงถูกลงทัณฑ์ด้วยเข็มเกี่ยววิญญาณตรึงกระดูก กลายเป็นคนตายทั้งที่ยังหายใจอยู่เช่นนั้นหรือ
เซี่ยหลิงปี้เห็นเขาไม่พูดจาก็ยิ่งโมโห “หงเฉิน! เจ้าใจอ่อนมาตั้งแต่เล็ก! เรื่องมาถึงบัดนี้มีเพียงกำจัดนางทิ้งจึงจะขจัดเภทภัยได้อย่างถาวร!”
เซี่ยหงเฉินเอ่ยถามในที่สุด “เข็มเกี่ยววิญญาณตรึงกระดูกบนศีรษะนางเป็นฝีมือของท่านอาจารย์ใช่หรือไม่”
“เจ้ากำลังคาดคั้นข้าหรือ” เซี่ยหลิงปี้ทำท่าจะลงจากเตียง แต่อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงทำให้เขานั่งลงอีกครั้ง “เจ้ากำลังสงสัยอาจารย์ของเจ้าหรือ”
เซี่ยหงเฉินไม่พูดจา เซี่ยหลิงปี้หัวเราะเสียงเย็น “ประเสริฐ ประเสริฐยิ่งนัก! ต่อให้ข้าเป็นคนทำแล้วเจ้าจะสังหารข้าแก้แค้นให้นางชั้นต่ำนั่นหรือไร”
เขาโกรธแค้นอย่างยิ่ง ส่วนเซี่ยหงเฉินกลับไม่พูดไม่จา
นี่คือสิ่งที่เขาขบคิดมาตลอดทาง
เซี่ยหลิงปี้คืออาจารย์ผู้มีพระคุณของเขา ส่วนหวงหร่างเป็นภรรยาของเขา
หลายปีมานี้เขามิได้ไปจิ้มกระดาษชั้นนี้ให้ทะลุเพียงเพราะไม่รู้จะเลือกเช่นไร บัดนี้ในที่สุดเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับความอ่อนแอของตนเอง
…หากการคาดเดาเป็นความจริง เซี่ยหลิงปี้ทำร้ายหวงหร่างจริง เขาจะแก้แค้นให้นางได้หรือไม่
เห็นเขามีท่าทีลังเล เซี่ยหลิงปี้จึงผ่อนน้ำเสียงให้นุ่มนวลลง “ตอนนั้นเจ้ายืนกรานจะแต่งงานกับนาง แต่ข้าไม่อนุญาต นางชั้นต่ำนั่นเดิมทีก็เป็นต้นเหตุแห่งเภทภัยอยู่แล้ว ไม่มีประโยชน์อันใดกับเจ้า แต่ข้าคิดว่าเจ้ายังเยาว์วัย ยากนักที่จะมีสิ่งที่รักชอบ จึงมิอาจแข็งใจยืนกรานในความคิดของตน ทว่าหงเฉิน ร้อยกว่าปีมานี้นางยังคงไม่ตระหนักถึงฐานะของตนเอง ถึงขั้นคิดจะยุแยงเจ้ากับข้าให้แตกคอกัน เรื่องนี้ข้ารับไม่ได้เด็ดขาด”
เซี่ยหงเฉินข่มกลั้นความเจ็บปวดและความกรุ่นโกรธในใจไม่อยู่ในที่สุด “ดังนั้นท่านอาจารย์จึงทำเช่นนี้กับนางหรือ เข็มเกี่ยววิญญาณตรึงกระดูกเป็นอาวุธลงทัณฑ์ร้ายแรงของสำนักเซียน กฎสำนักระบุชัดเจนว่าหากไม่ได้ถูกพิจารณาตัดสินอย่างเปิดเผยมิอาจนำมาใช้ส่งเดช! แต่ท่านอาจารย์กลับใช้มันรับมือกับภรรยาของศิษย์ที่มีพลังวัตรอ่อนแอ!”
เซี่ยหลิงปี้ยิ้มเยาะ “นั่นเป็นเพราะนางสมควรได้รับโทษทัณฑ์เช่นนี้!”
“ในเมื่อท่านอาจารย์พูดเรื่องที่นางยุแยง เช่นนั้นข้าขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่าในอดีตตอนอยู่ที่หอฉีลู่ นางอยากบอกอะไรข้ากันแน่” เซี่ยหงเฉินจ้องอาจารย์ผู้มีพระคุณบนเตียง รู้สึกว่าคนผู้นี้ช่างเหมือนคนแปลกหน้า
เซี่ยหลิงปี้อึ้งงันไปเล็กน้อย เซี่ยหงเฉินจึงคาดคั้นอีก