ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 7-9 – หน้า 10 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 7-9

หวงหร่างนั่งลงข้างโต๊ะ เปิดกล่องใส่อาหารพลางพูดว่า “วันนี้ข้ามีเวลาว่างจึงมาเยี่ยมพี่ใหญ่ ท่านจะยืนอยู่เพื่ออันใด รีบนั่งลงเถิด”

นางมีกลิ่นกายหอมยิ่ง เซี่ยหยวนซูได้กลิ่นลอยมา เขานั่งลงตรงข้ามหวงหร่าง โบกมือไล่สตรีทั้งสามด้านข้างออกไป รอจนคนจากไปแล้วหวงหร่างค่อยยื่นตะเกียบให้เขา

“วันนี้ลมเย็น ข้าเองก็เดินได้ไม่เร็ว กว่าจะหิ้วขนมมาถึงที่นี่ก็เย็นชืดหมดแล้ว”

น้ำเสียงของหวงหร่างแฝงแววทอดถอนใจ เซี่ยหยวนซูรีบรับตะเกียบมา กินเข้าไปชิ้นหนึ่งแล้วเอ่ยชม “อร่อยๆ ฝีมือของน้องสะใภ้จะเย็นจะร้อนล้วนอร่อยทั้งนั้น” กล่าวจบเขาก็ยิ้มพลางพูดเสียดสี “ข้าไม่เหมือนประมุขสำนัก ไม่เรื่องมากเช่นเขา”

พอเขาพูดถึงเซี่ยหงเฉิน สีหน้าหวงหร่างก็หม่นหมอง มิได้เอ่ยตอบ เพียงหยิบกาสุรามารินสุราให้เขาถ้วยหนึ่ง

เซี่ยหยวนซูมิได้ประหลาดใจนัก หวงหร่างผู้นี้รอบคอบใส่ใจเสมอมา ต่อให้รู้ว่าเขากับเซี่ยหลิงปี้ไม่ลงรอยกัน แต่นางก็ปฏิบัติต่อเขาดียิ่ง ดังนั้นถ้าเทียบกันแล้วเซี่ยหยวนซูกับหวงหร่างกลับอยู่ร่วมกันได้อย่างปรองดองไม่น้อย เขามองหน้านางแล้วก็พูดขึ้น

“น้องสะใภ้ขมวดคิ้วนิ่วหน้า วันนี้พบเจอปัญหาใดมาหรือ มีปากเสียงกับประมุขสำนักมาหรือไร”

ดวงตาหวงหร่างฉายแววกลัดกลุ้ม “พี่ใหญ่ใช่ว่าไม่รู้จักเขา วันนี้ข้าแค่พลั้งปากไปคำเดียวก็ทำให้เขามีโทสะแล้ว”

พอได้ยินคำพูดนี้ เซี่ยหยวนซูกลับรู้สึกแปลกใจ “ปกติน้องสะใภ้รู้ใจเขายิ่งนัก วันนี้เอ่ยคำพูดใดถึงทำให้เขาโมโหหรือ”

หวงหร่างถอนหายใจ “ครั้งก่อนพี่ใหญ่ร่วมอภิรมย์กับสตรีนางหนึ่ง ทำให้เด็กสาวผู้นั้นตั้งครรภ์…”

“ไยเจ้าถึงพูดเรื่องนี้อีกแล้วเล่า” เซี่ยหยวนซูลนลานขึ้นมาทันใด “เรื่องนี้ผ่านไปนานแล้วมิใช่หรือ”

เรื่องต่ำช้าเหล่านี้ของเขา หวงหร่างไล่เรียงออกมาได้อย่างง่ายดายประหนึ่งนับสมบัติในบ้านตน “ข้าเองก็โน้มน้าวเขาเช่นนี้ แต่เขาบอกว่าพี่ใหญ่บีบคั้นจนสตรีผู้นั้นแท้งบุตร ถึงกับมองดูนางหลั่งโลหิตโดยไม่ช่วยเหลือ ไร้คุณธรรมอย่างยิ่ง จึงจำเป็นต้องรายงานปรมาจารย์”

“เขาทำเช่นนี้ได้อย่างไร!” เซี่ยหยวนซูลุกขึ้นทันใด เอ่ยเสียงขุ่นเคือง “เขาใช้ยากับเจินเอ๋อร์ ทั้งยังบีบบังคับให้ข้าชดใช้เงินให้บ้านมารดาของเจินเอ๋อร์ อีกฝ่ายก็รับปากแล้วว่าจะไม่เอาความอีก!”

หวงหร่างเอ่ยด้วยน้ำเสียงจนใจ “นิสัยของเขาพี่ใหญ่ก็รู้ ข้าแค่โน้มน้าวคำเดียวเท่านั้น เขาก็…ตำหนิข้าด้วยวาจาดุดันสีหน้าเฉียบขาดทันที พี่ใหญ่ ข้าปรนนิบัติเขามาร้อยกว่าปี ได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยา แต่แท้จริงแล้วแตกต่างอันใดจากบ่าวรับใช้เล่า เรียกก็มาไล่ก็ไป ไม่ถูกใจก็สามารถตำหนิต่อว่าได้ตามใจชอบ”

นางพูดพลางหลั่งน้ำตาออกมา แต่ละเม็ดดั่งไข่มุก งามล้ำอย่างแท้จริง

เซี่ยหยวนซูถอนหายใจยาว ครู่ใหญ่จึงเอ่ยว่า “ข้าเองก็มิใช่หรือไร หลายปีมานี้แม้ข้าจะมีฐานะเป็นบุตรของเซี่ยหลิงปี้ แต่เคยสมหวังดังใจปรารถนาที่ใด” กล่าวจบเขาก็หยิบถ้วยสุราขึ้นมาดื่มจนหมด “สำนักเซียนอวี้หูปรมาจารย์คือเซี่ยหลิงปี้ ประมุขสำนักคือเซี่ยหงเฉิน เกี่ยวข้องกับข้าตรงที่ใด! ข้าถูกส่งออกมาอยู่สำนักชั้นนอก แม้แต่การดูแลร้านค้ายังต้องมีหลงจู๊ถึงสี่คน!” เขาโมโหจนหัวเราะออกมาแล้วกรอกสุราใส่ปากอีกถ้วย “นี่ข้าเป็นตัวอะไรกันแน่”

หวงหร่างดื่มเป็นเพื่อนเขาหนึ่งถ้วยเช่นกัน นางดื่มช้า สุราหนึ่งถ้วยสามารถดื่มเป็นเพื่อนเซี่ยหยวนซูจนเขาดื่มสุราหมดทั้งกาได้

สุรานี้บ่มได้หอมยิ่งนัก เนื่องจากเซี่ยหงเฉินไม่ค่อยชอบรสหวาน ดังนั้นพอเข้าปากแล้วจึงให้ความรู้สึกสดชื่นเท่านั้น เซี่ยหยวนซูดื่มจนจิตใจไหวหวั่น ครั้นมองดูคนงามอย่างหวงหร่างขมวดคิ้วเรียวยาวก็รู้สึกสั่นสะเทือนวิญญาณไปทุกส่วน

เขาบังเกิดอารมณ์กำหนัดขึ้นมาทันใด ค่อยๆ กุมปลายนิ้วมือของหวงหร่างไว้ เห็นนางไม่หลบเลี่ยงก็ยิ่งปรีดาในใจแล้วเอ่ยขึ้น

“พวกเราล้วนเป็นคนน่าสงสาร”

หวงหร่างดึงมือกลับมาช้าๆ แล้วหันกายไปดึงผ้าเช็ดหน้ามาซับหางตา เนิ่นนานจึงถอนหายใจเสียงเบา “ชีวิตนี้ของข้านำมาทิ้งที่หอฉีลู่เสียแล้ว”

เซี่ยหยวนซูถูกฤทธิ์สุราครอบงำจึงมีความกล้ามากขึ้นหลายส่วน เขาถามเสียงค่อยทันที “น้องสะใภ้ไม่อยากฝืนสวรรค์เปลี่ยนชะตาหรือ”

หวงหร่างขอบตาแดงเรื่อ น้ำตาทำท่าจะหลั่งริน “ชะตาของข้าถูกลิขิตไว้แล้ว จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้”

เซี่ยหยวนซูพลันขยับเข้าไปใกล้นาง “หากข้าได้เป็นประมุขสำนักเซียนอวี้หูจะไม่ปล่อยให้คนงามต้องเฝ้าเรือนที่ว่างเปล่าแน่นอน เช่นนี้ชะตาของน้องสะใภ้ย่อมเปลี่ยนแปลงแล้วมิใช่หรือ”

หวงหร่างคล้ายจะตกใจ รีบร้องห้ามทันที “พี่ใหญ่จะพูดจาเหลวไหลมิได้ พลังวัตรของเซี่ยหงเฉินใช่สิ่งที่…พี่ใหญ่จะเอาชนะได้เช่นนั้นหรือ”

นางมีเจตนายั่วยุเขา แล้วก็จริงดังคาด เซี่ยหยวนซูโมโหยิ่งกว่าเดิม เขวี้ยงถ้วยสุราลงบนพื้นทันที “ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะสู้เซี่ยหงเฉินผู้นั้นไม่ได้! ตอนนั้นหากมิใช่เพราะบิดาลำเอียง เขาเป็นเพียงคนนอกคนหนึ่งจะมีคุณสมบัติเข้าสำนักเซียนได้อย่างไร!”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถ...

ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาคร...

community.jamsai.com